วัดหนองม่วง

หน้าแรก

สมาชิก

รายการวัตถุมงคล

ตะกร้าวัตถุมงคล

วิธีชำระวัตถุมงคล

วิธีบูชาวัตถุมงคล

ประวัติวัด

ติดต่อวัด

เว็บบอร์ด

สมาชิก Log in

อีเมล์

รหัสผ่าน

สมัครสมาชิกใหม่

ลืมรหัสผ่าน

ค้นหาวัตถุมงคล

หมวดวัตถุมงคล

เครื่องราง พระอาจารย์ป้อม

พระเครื่อง พระอาจารย์ป้อม

พระเครื่อง หลวงพ่อสวัสดิ์

พระเครื่อง หลวงปู่พิมพ์มาลัย

พระเครื่อง หลวงพ่อสง่า

วัตถุมงคลของคุณ
รหัสวัตถุมงคล	ราคา	จำนวน
ยังไม่มีวัตถุมงคลอยู่ในตะกร้า

ชำระค่าวัตถุมงคล

แก้ไขรายการวัตถุมงคล

วิธีสั่งบูชาวัตถุมงคล

พระราชนิพนธ์ ใน ร.๖-1

พระราชนิพนธ์ของพระองค์มีอยู่เป็นจำนวนมาก เป็นที่รู้จักกันอย่างแพร่หลาย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง พระราชนิพนธ์กวีต่าง ๆ นับว่าเป็นอาภรณ์ประดับชาติ พระองค์ได้ปลูกฝังคุณธรรมความดีงาม

นิราศพระแท่นดงรัง

จนดึกดื่นครื้นครั่นสนั่นมี ชวนกันตีแต่ระฆังดังหง่างเหง่ง สัปรุษพร้อมกันเมื่อวันเพ็ญ พระจันทร์เปล่งเปลื้องปลดหมดมลทิล ดารารายพรายพรั่งน้ำค้างย้อย หวนละห้อยโหยจิตต์คิดถวิล หักใบไม้ลงนอนกับดอนดิน เขาหลับสิ้นเสียงเงียบระเยียบเย็น

นิราศนรินทร์

ศรีสิทธิ์พิศาลภพ เลอหล้าลบล่มสวรรค์ จรรโลงโลกกว่ากว้าง เผยแผ่นผ้างเมืองเมรุ ศรีอยุธเยนทร์แย้มฟ้า แจกแจงจ้าเจิดจันทร์ เพียงพิพรรณผ่องด้าว ขุนหาญห้าวแหนบาท สระทุกข์ราษฎร์รอนเสี้ยน

นิราศเดือน

พวกมนุษย์สุดสุขสนุกครัน ได้ดูกันพิศวงเมื่อสงกรานต์ ทั้งผู้ดีเข็ญใจใส่อังคาส อภิวาทพุทธรูปในวิหาร ล้วนแต่งตัวทั่วกันวันสงกรานต์ ดูสคราญเพริดพริ้งทั้งหญิงชาย ทีเฒ่าแก่แม่ม่ายไม่ใคร่เที่ยว สู้อดเปรี้ยวกินหวานลูกหลานหลาย

นิราศถลาง

เพราะกองกรรมจำคลาดนิราศนาง ทุเรศร้างรสรักหนักอุรา เมื่อวันลงเรือใหญ่หัวใจหาย แสนเสียดายมิ่งมิตรขนิษฐา ชลนัยน์ไหลหลั่งดังธารา พี่ก้มหน้าครวญครางมากลางเรือ แล้วเหลียวแลดูเมืองเรืองระหง ของพระองค์แสนสุขสนุกเหลือ

นิราศเมืองเพชร

ท้องฟ้าคล้ำน้ำค้างลงพร่างพราย พระพายชายชื่นเชยรำเพยพาน อนาถหนาวคราวอาสาเสด็จ ไปเมืองเพชรบุรินถิ่นสถาน ลงนาวาหน้าวัดนมัสการ อธิษฐานถึงคุณกรุณา ช่วยชุบเลี้ยงเพียงชนกที่ปกเกศ ถึงต่างเขตของประสงค์คงอาส

นิราศเมืองแกลง

จนล่วงล่องมาถึงคลองที่คับแคบ ไม่อาจแอบชิดฝั่งระวังเสือ ด้วยครื้มครึกพฤกษาลัดดาเครือ ค่อยรอเรือลอยล่องมานองเนือง ลำพูรายพรายพร้อยหิ่งห้อยจับ สว่างวับแวววามอร่ามเหลือง เสมอเม็ดเพชรรัตน์จำรัสเรือง ค่อยประเทืองทุกข์ทัศนาชม

นิราศวัดเจ้าฟ้า

ถึงวัดระฆังบังคมบรมธาตุ แทบพระบาทบุษบงองค์อัปสร ไม่ทันลับกัปกัลป์พุทธันดร พระด่วนจรสู่สวรรคครรไล... ค ถึงปากง่ามนามบอกบางกอกน้อย ยิ่งเศร้าสร้อยทรวงน้องดังต้องศร เหมือนน้อยทรัพย์ลับหน้านิราจร ไปแรมรอนราวไพรใจรัญจวน เคยชมเมืองเรืองระยับจะลับแล้ว ไปชมแถวทุ่งนาล้วนป่าสวน.

นิราศพระประธม

ลงนาวาคลาเคลื่อนออกเลื่อนลำ พอฆ้องย่ำยามสองกลองประโคม น้ำค้างย้อยพร้อยพรมเป็นลมว่าว อนาถหนาวนึกเคยได้เชยโฉม มาสูญเหมือนเดือนดับพยับโพยม ให้ทุกข์โทมนัสในฤทัยครวญ โอ้หน้าหนาวคราวนี้เป็นที่สุด จะจากนุชแนบข้างไปห่างหวน

นิราศภูเขาทอง

รับกฐินภิญโญโมทนา ชุลีลาลงเรือเหลืออาลัย ออกจากวัดทัศนาดูอาวาส เมื่อตรุษสารทพระวษาได้อาศัย สามฤดูอยู่ดีไม่มีภัย มาจำใจไกลอารามเมื่อยามเย็น โอ้อาวาสราชบุรณะพระวิหาร แต่นี้นานนับทิวาจะมาเห็น

นิราศพระบาท

ดังศรสักปักซ้ำระกำทรวง เสียดายดวงจันทราพงางาม เจ้าคุมแค้นแสนโกรธพิโรธพี่ แต่เดือนยี่จนย่างเข้าเดือนสาม จนพระหน่อสุริยวงศ์ทรงพระนาม จากอารามแรมร้างทางกันดาร ด้วยเรียมรองมุลิกาเป็นข้าบาท จำนิราศร้างนุชสุดสงสาร ตามเสด็จโดยแดนแสนกันดาร นมัสการรอยบาทพระศาสดา

นิราศท่าดินแดง

จากการสันนิษฐาน เข้าใจว่า น่าจะเป็นพระราชนิพนธ์เรื่องแรกของ พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช เดิมเรียกว่า กลอนเพลงยาวนิราศเรื่องรบพม่าที่ท่าดินแดง นิราศเรื่องนี้ได้ทรงพระราชนิพนธ์

กาพย์ห่อโคลงนิราศธารทองแดง
ฝูงช้างสล้างใหญ่น้อย พังพลาย ทอกโทนพินายหลาย ส่ำถ้วน ทองแดงเผือกเนียมราย ในเหล่า ลงท่าน้ำดำป้วน เล่นร้องฮูมแปร๋น ฯ

พันธุ์ไม้ดอกนานาพรรณของไทย 7

เป็นไม้ต้นสูงประมาณ ๖ เมตร ลำต้นตรง ใบออกตรงกันข้าม แผ่นใบหนาสีเขียวเข้ม ผิวใบเป็นมัน ใต้ใบสีอ่อน ใบขอบขนาน ปลายและโคนใบแหลม ยาวประมาณ ๑๒ เซนติเมตร

พันธุ์ไม้ดอกนานาพรรณของไทย 6

เป็นต้นไม้สูงประมาณ 10-15 เมตร เรือนยอดกลม ใบเป็นประเภทใบประกอบแบบขนนก มี 3 คู่ ใบย่อยมีขนาดไม่เท่ากัน ใบคู่ปลายจะยาวที่สุด ยาวประมาณ 4 เซนติเมตร ใบย่อยรูปรีปลายมน

มีต่อหน้า >> 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 21 22 23 24 25 26 27 28 29 30 31 32 33 34 35 36 37 38 39 40 41 42 43 44 45 46 47 48 49