บรรลุถึงพระปฐมประทับหยุด |
สัปบุรุษเซ็งแซร่แลสลอน |
แวะขึ้นไปไหว้พระปฐมประณมกร |
สโมสรโสมนัสนมัสการ |
ต่างระรื่นชื่นจิตต์พิศวง |
เที่ยวเวียนวงไหว้รอบขอบสถาน |
พระปรางค์ใหญ่มีอยู่แต่บุราณ |
สูงตระหง่านยอดเยี่ยมเทียมอัมพร |
มีบันไดขึ้นไปประทักษิณ |
แลเห็นสิ้นทุกทิศจิตต์สยอน |
ดูต้นไม้ในป่าเหมือนหญ้าบอน |
ระเนนนอนแนบชิดติดสุธา |
ดูแผ่นดินรายรอบเป็นขอบขันธ์ |
เป็นหมอกควันแลไปไกลนักหนา |
ข้างพื้นล่างกลางลานชานชลา |
มีพฤกษาร่มรื่น เป็นพื้นทราย |
พี่ชมพลางทางพบอภิวาท |
สุคนธชาติบุปผาบูชาถวาย |
สัปรุษพร้อมพรั่งทั้งหญิงชาย |
กราบถวายวันทาแล้วลาลง |
เที่ยวเลี้ยวลัดทัศนาพระอาวาส |
ดูอนาถน้ำจิตต์พิศวง |
บริเวณวัดวาเป็นป่าดง |
ดูงวยงงล่วงมาช้านาน |
พระปฐมของบรมกษัตริย์สร้าง |
เป็นพระปรางค์ใหญ่โตระโหฐาน |
สูงเท่านกเขาเหินเกินทะยาน |
พระยาพาลก่อสร้างไว้ล้างกรรม |
เธอหลงฆ่าปิตุรงค์ทิวงคต |
เขารู้หมดเรื่องความไม่งามขำ |
เธอทำผิดคิดได้ไม่เป็นธรรม |
จึงกลัวกรรมก่อสร้างพระปรางค์ทอง |
พี่ได้ฟังเรื่องราวเขาเล่ามาก |
เมื่อยามยากคิดไปฤทัยหมอง |
ข้ามห้วยหนองคลองบึงถึงอ้ายกอง |
สกุณาร้องรัญจวนถึงนวลระหงส์ |
พอโพล้เพล้เวลาจะค่ำลง |
ให้งวยงงง่วงเหงาเศร้าฤทัย |
เสียงจักจั่นแจ้ว ๆ ให้แว่วหวาด |
หนาวอนาถนึกน่าน้ำตาไหล |
ยะเยือกเย็นเส้นหญ้านภาลัย |
วังเวงใจจะมาในราตรี |
แล้วหยุดนอนในป่าเวลาดึก |
คะนึงนึกถึงน้องให้หมองศรี |
หักใบไม้ปูลาดกวาดธุลี |
กองอัคคีรอบเกวียนเวียนระวัง |
บ้างก็กินโภชนากระยาหาร |
ต่างสำราญสู่สมอารมณ์หวัง |
บ้างหาร่มไม้ชิดให้ปิดบัง |
พอยับยั้งกายตามยามกันดาร |
แต่ตัวพี่นอนกลางหว่างต้นไม้ |
ยกมือไหว้เทพาพฤกษาสาณฑ์ |
อย่าให้มีโภยภัยสิ่งใดพาล |
นมัสการแปดทิศแล้วนิทรา |
จนดึกดื่นเดือนสว่างกระจ่างแจ้ง |
จรัสแสงส่องสอดยอดพฤกษา |
น้ำค้างพรมลมว่าวหนาวอุรา |
พี่ห่มผ้าซ้อนผืนไม่ชื่นจิตต์ |
ไม่อุ่นเหมือนแนบกายสายสวาท |
โศกไสยาศน์เกลือกกลับไม่หลับไหล |
ลุกขึ้นนั่งหลังอิงแล้วผิงไฟ |
ได้ยินไก่เถื่อนขันสำคัญยาม |
เสียงจิ้งหรีดกรีดกริ่งระหริงร้อง |
เย็นสมองเยี่ยมย่างเข้ายามสาม |
จนแสงทองส่องฟ้าสง่างาม
|
Update : 15/5/2554
|