เห็นปูเปี้ยวเที่ยวไต่กินไคลเค็ม |
บ้างเก็บเล็มลากก้ามครุ่มคร่ามครัน |
โอ้เอ็นดูปูไม่มีซึ่งศีรษะ |
เท้าระกะก้อมโกงโม่งโค่งขัน |
ไม่มีเลือดเชือดฉะปะแต่มัน |
เป็นเพศพันธุ์ได้ผัวเพราะมัวเมา |
แม้นเมียออกลอกคราบไปคาบเหยื่อ |
เอามาเผื่อภรรยาเมตตาเขา |
ระวังดูอยู่ประจำทุกค่ำเช้า
ถึงทีผัวตัวลอกพอออกคราบ |
อุตส่าห์เฝ้าฟูมฟักเพราะรักเมีย
เมียมันคาบคีบเนื้อเป็นเหยื่อเสีย |
จึงเกิดไข่ไร้ผัวเที่ยวยั้วเยี้ย |
ยังแต่เมียเคลื่อนคล้อยขึ้นลอยแพ |
สมเพชสัตว์ทัศนาพฤกษาสล้าง |
ล้วนโกงกางกุ่มแกมแซมแสม |
สงัดเหงาเปล่าเปลี่ยวเมื่อเหลียวแล |
เสียงแอ้แจ้จักจั่นหวั่นวิญญา |
ค ถึงคลองนามสามสิบสองคดคุ้ง |
ชะวากวุ้งเวียนซ้ายมาฝ่ายขวา... |
ค ถึงปากช่องคลองชื่อสุนัขหอน |
ทั้งเรือแพแลสลอนเสลือกสลน |
ต่างแข็งข้อถ่อค้ำที่น้ำวน |
คงคาข้นขุ่นตื้นแต่พื้นเลน |
เข้ายัดเยียดเสียดแทรกบ้างแตกหัก |
บ้างถ่อผลักอึดอัดขัดเขมร |
บ้างทุ่มเถียงเสียงหญิงขึ้นเกนเกน |
ล้วนโคลนเลนเปื้อนเปราะเลอะทั้งตัว... |
...ทั้งยุงชุมรุมกัดปัดเปรียะประ |
เสียงผัวะผะพึบพับปุบปับแปะ |
ที่เข็นเรียงเคียงลำขยำขแยะ |
มันเกาะแกะกันจริงจริงหญิงกับชาย |
ค จนตกทางบางสะใภ้ครรไลล่อง |
มีบ้านช่องซ้ายขวาเขาค้าขาย |
ปลูกทับทิมริมทางสองข้างราย |
ไม่เปล่าดายดกระย้าทั้งตาปี |
บ้างดิบห่ามงามงอมจนค้อมกิ่ง |
เป็นดอกติ่งแตกประดับสลับสี |
บ้างแตกร้าวพราวเม็ดเพชรโนรี |
เขาขายดีเก็บได้ใส่กระเชอ |
มาตั้งขายฝ่ายเจ้าของไม่ต้องถือ |
เห็นเรือล่องร้องว่าซื้อทับทิมเหนอ |
จะพูดจาคารวะทั้งคะเออ |
เสียงเหน่อเหน่อหน้าตาน่าเอ็นดู... |