ค บางขุนนนท์ต้นลำพูดูหิ่งห้อย |
เหมือนเพชรพลอยพรายพร่างสว่างไสว |
จังหรีดร้องซ้องเสียงเรียงเรไร |
จะแลไหนเงียบเหงาทั้งเหย้าเรือน |
บางระมาดมาดหมายสายสวาท |
ว่าสมมาดเหมือนใจแล้วไม่เหมือน |
แสนสวาทมาดหมายมาหลายเดือน |
มิคลาเคลื่อนแคล้วคลาดประหลาดใจ |
ค วัดไก่เตี้ยไม่เห็นไก่เห็นไทรต่ำ |
กอระกำแกมสละขึ้นไสว |
หอมระกำก็ยิ่งช้ำระกำใจ |
ระกำไม่เหมือนระกำที่ช้ำทรวง |
ถึงสวนหลวงหวงห้ามเหมือนความรัก |
เหลือจักหักจับต้องเป็นของหลวง |
แต่รวยรินกลิ่นผกาบุปผาพวง |
จะรื่นร่วงเรณูฟูขจร |
โอ้ไม้ต้นคนเฝ้าเสาวรส |
ยังปรากฏกลิ่นกล่อมหอมเกสร |
แต่โกสุมภุมรินมาบินวอน |
ไม่ดับร้อนร่วงกลิ่นให้ดิ้นโดย |
ดึกกำดัดสัตว์อื่นไม่ตื่นหมด |
แต่นกกดร้องเร้ากระเหว่าโหย |
ระรวยรินกลิ่นโศกมาโบกโบย |
โอ้โศกโรยแรมร้างมาห่างจร |
ค ถึงบางขวางปางก่อนว่ามอญขวาง |
เดี๋ยวนี้นางไทยลาวสาวสลอน |
ทำยศอย่างขวางแขนแสนแสงอน |
ถึงนางมอญก็ไม่ขวางเหมือนนางไทย |
วัดพิกุลฉุนกลิ่นระรินรื่น |
โอ้หอมชื่นเชยกับรสแป้งสดใส... |
ค บางผักหนามนึกขามแต่หนามเสี้ยน |
หนามทุเรียนลักฉีกอีกเจ้าเอ๋ย |
ที่กีดขวางทางความแต่หนามเตย |
ไม่น่าเชยน่าชังล้วนรังแตน |
ถึงสวนแดนแสนเสียดายสายสวาท |
มาสิ้นชาติปรโลกยิ่งโศกแสน |
ไปสวรรค์ชั้นบนคนละแดน |
ไม่รวมแผ่นภพโลกยิ่งโศกใจ |
ค ถึงวัดเกษเจตนาแต่การะเกด |
ไม่สมเจตนาน่าน้ำตาไหล... |
ค วัดชลอใครหนอชะลอฉลาด |
เอาอาวาสมาไว้ให้อาศัยสงฆ์... |
...เห็นคลองขวางบางกรวยระทวยจิต |
ไม่ลืมคิดนิ่มน้อยละห้อยหา |
เคยร่วมสุขทุกข์ร้อนแต่ก่อนมา |
โอ้สิ้นอายุเจ้าได้เก้าปี |
แต่ก่อนกรรมนำสัตว์ให้พลัดพราก |
จึงจำจากนิ่มน้องให้หมองศรี |
เคยไปมาหาน้องในคลองนี้ |
เห็นแต่ที่ท้องคลองนองน้ำตา |
สงสารบุตรสุดเศร้าทุกเช้าค่ำ |
ด้วยเป็นกำพร้าแม่ชะแง้หา |
เขม้นมองคลองบ้านดูมารดา |
เช็ดน้ำตาโซมซาบลงกราบกราน... |