หน้าแรก สมาชิก รายการวัตถุมงคล ตะกร้าวัตถุมงคล วิธีชำระวัตถุมงคล วิธีบูชาวัตถุมงคล ประวัติวัด ติดต่อวัด เว็บบอร์ด
สมาชิก Log in
อีเมล์
รหัสผ่าน
สมัครสมาชิกใหม่
ลืมรหัสผ่าน
















ค้นหาวัตถุมงคล
 
 
 
หมวดวัตถุมงคล
  เครื่องราง พระอาจารย์ป้อม
  พระเครื่อง พระอาจารย์ป้อม
  พระเครื่อง หลวงพ่อสวัสดิ์
  พระเครื่อง หลวงปู่พิมพ์มาลัย
  พระเครื่อง หลวงพ่อสง่า
วัตถุมงคลของคุณ
รหัสวัตถุมงคล ราคา จำนวน
ยังไม่มีวัตถุมงคลอยู่ในตะกร้า
  • ชำระค่าวัตถุมงคล
  • แก้ไขรายการวัตถุมงคล
  • วิธีสั่งบูชาวัตถุมงคล
  •  

    สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ (จวน อุฏฺฐายี มหาเถร)
    สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ (จวน อุฏฺฐายี มหาเถร)
    สมเด็จพระสังฆราช (จวน อุฎฺฐายี) เป็นสมเด็จพระสังฆราช พระองค์ที่ 16 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ สถิต ณ วัดมกุฏกษัตริยารามวรวิหาร ทรงดำรงตำแหน่งเมื่อปี พ.ศ. 2508 ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ทรงดำรงตำแหน่งอยู่ 7 พรรษา สิ้นพระชนม์เมื่อปี พ.ศ.2514 พระชนมายุ 74 พรรษา
    พระองค์มีพระนามเดิมว่า จวน  ประสูติเมื่อปี พ.ศ. 2440 ที่อำเภอบ้านโป่ง จังหวัดราชบุรี  เมื่อพระชนมายุได้ 10 พรรษา ได้เข้ามาศึกษาชั้นประถมศึกษา ที่โรงเรียนวัดคฤหบดี จังหวัดธนบุรี  พระชนมายุ 14 พรรษา ได้ไปศึกษาอยู่ กับพระมหาสมณวงศ์ (แท่น โสมทัดโต) เจ้าอาวาสวัดมหาสมณาราม (วัดเขาวัง)  ที่วัดเขาวัง จังหวัดเพชรบุรี  พระชนมายุ 16 พรรษา ได้มาศึกษาพระปริยัติธรรม กับพระอริยมุนี (แจ่ม จตฺคสลฺโล) ที่วัดมกุฏกษัตริยาราม
    พ.ศ. 2457 ได้บรรพชาเป็นสามเณร ที่วัดมกุฏกษัตริยาราม ได้เป็นบรรณาธิการ หนังสือวารสารรายปักษ์สยามวัด ทำให้พระองค์มีความสามารถในการประพันธ์คำประพันธ์ต่าง ๆ มีโคลง ฉันท์ เป็นต้น
    พ.ศ. 2460 ทรงอุปสมบทเป็นภิกษุ  ในปีเดียวกันนี้ทรงสอบได้นักธรรมชั้นตรี และเปรียญธรรม 3 ประโยค
    พ.ศ. 2461 สอบได้นักธรรมชั้นโท
    พ.ศ. 2462,2464 และ 2465  สอบได้เปรียญธรรม 4,5 และ 6 ประโยค ตามลำดับ
    พ.ศ. 2466  สอบได้นักธรรมชั้นเอก
    พ.ศ. 2467,2470 และ 2472  สอบได้เปรียญธรรม 7,8 และ 9 ประโยค ตามลำดับ
    พระองค์ได้ประกอบพระกรณียกิจด้านการพระศาสนาเป็นอันมาก พอประมวลได้ดังนี้
       พ.ศ. 2476  ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์ เป็นพระราชาคณะที่ พระกิตติสารมุนี
    พ.ศ. 2477  เป็นกรรมการคณะธรรมยุติ
      พ.ศ. 2478  เป็นพระราชาคณะชั้นราชที่ พระราชเวที  เป็นประธานกรรมการบริหาร ในตำแหน่งเจ้าคณะมณฑลราชบุรี
      พ.ศ. 2479  เป็นกรรมการพิจารณาร่าง พ.ร.บ. ลักษณะปกครองสงฆ์ ฉบับใหม่
       พ.ศ. 2482  เป็นพระราชาคณะชั้นเทพที่ พระเทพเวที 
      พ.ศ. 2485  เป็นสมาชิกสังฆสภา และเป็นสังฆมนตรีว่าการองค์การเผยแผ่
    พ.ศ. 2486  เป็นผู้รักษาการ ในตำแหน่งสังฆนายก แทนสมเด็จพระมหาวีรวงศ์ วัดบรมนิวาส
      พ.ศ. 2488  เป็นพระราชาคณะชั้นธรรมที่ พระธรรมปาโมกข์
      พ.ศ. 2489  เป็นผู้สั่งการในตำแหน่งสังฆนายก แทนสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ วัดเทพศิรินทร์ฯ
      พ.ศ. 2490  เป็นพระราชาคณะชั้นเจ้าคณะรองที่ พระศาสนโศภณ
      พ.ศ. 2494  เป็นสังฆนายก ครั้งที่ 1
     พ.ศ. 2499  ได้รับโปรดเกล้า ฯ สถาปนาเป็นสมเด็จพระราชาคณะที่ สมเด็จพระมหาวีรวงศ์
      พ.ศ. 2503  เป็นสังฆนายก ครั้งที่ 2
      พ.ศ. 2505  เป็นผู้บัญชาการคณะสงฆ์แทนสมเด็จพระสังฆราช
                    พ.ศ. 2506  เป็นกรรมการเถรสมาคมโดยตำแหน่ง ตาม พ.ร.บ.คณะสงฆ์ พ.ศ. 2505
    1.  ด้านการศึกษา  ทรงชำนาญในอักษรขอม อักษรพม่า อักษรมอญ และอักษรโรมัญ จากการที่ได้  ตรวจชำระ พระไตรปิฎกบางปกรณ์ตามที่ได้รับมอบ ซึ่งจะต้องสอบทานอักษรไทยกับต้นฉบับอักษรขอม เกี่ยวกับอักษรพม่า และอักษรโรมัน
    พ.ศ. 2470  เป็นกรรมการตรวจบาลีไวยากรณ์ในสนามหลวง
      พ.ศ. 2471  เป็นกรรมการตรวจนักธรรมชั้นโท-เอกในสนามหลวง  เป็นกรรมการตรวจบาลี ประโยค  4-5-6
      พ.ศ. 2476  เป็นปีที่เริ่มฟื้นฟูกิจการของมหามงกุฏราชวิทยาลัยในยุคใหม่  ทรงรับหน้าที่เป็นกรรมการและอนุกรรมการหลายคณะ คือ อนุกรรมการตรวจชำระแบบเรียน เช่น นวโกวาท  และ พุทธศาสนสุภาษิต กรรมการอำนวยการหนังสือธรรมจักษุ กรรมการ อุปนายกและนายกกรรมการมหามงกุฏราชวิทยาลัย  ตลอดมาจนสิ้นพระชนม์
    2.   ด้านการต่างประเทศ  เสด็จไปดูการพระศาสนาในประเทศลาว มาเลเซีย สิงคโปร์ อินเดีย เนปาล ลังกา ฮ่องกง ไต้หวัน เกาหลี ญี่ปุ่น เวียดนาม ตามคำเชิญของพุทธบริษัทของประเทศนั้น ๆ ทรงไปร่วมงานฉลอง 25 พุทธศตวรรษ ที่ประเทศญี่ปุ่น เป็นผู้แทนสมเด็จพระสังฆราช (วัดเบญจมบพิตร) ไปร่วมประชุมสังคายนาพระไตรปิฎกที่ กรุงย่างกุ้ง ประเทศพม่า เมื่อปี พ.ศ. 2504
    3.   งานเผยแผ่พระศาสนา  ได้ทรงดำเนินการมาโดยตลอดไปรูปแบบต่าง ๆ พอประมวลได้ดังนี้
      พ.ศ. 2476  ทรงร่วมกับคณะมิตรสหาย ตั้งสมาคมพุทธศาสนาขึ้นเป็นครั้งแรก คือ พุทธสมาคม เพื่อเผยแผ่พระพุทธศาสนา และส่งเสริมการศึกษา
     พ.ศ. 2477  เป็นพระคณาจารย์เอกทางเทศนา (ธรรมกถึก)
    พ.ศ. 2479  เป็นกรรมการควบคุมการแปลพระไตรปิฎก
      พ.ศ. 2497  เป็นประธานกรรมการจัดรายการแสดงธรรมทางวิทยุในวันธรรมสวนะ
    4.  งานพระนิพนธ์
      พ.ศ. 2469   ทรงแปลตติยสมันตปาสาทิกา  อรรถกถาพระวินัย เพื่อใช้เป็นตำรา
    พ.ศ. 2482   ทรงแต่ง รตนตฺตยปฺปภาวสิทฺธิคาถา แทน รตนตฺตยปฺปภาวาภิยาจนคาถา และได้ใช้สวดในพระราชพิธีต่อมา
       ยังมีพระนิพนธ์อีกมากกว่า 100 เรื่อง เช่น มงคลในพุทธศาสนา สาระในตัวคน วิธีต่ออายุให้ยืน การทำใจให้สดชื่นผ่องใส และฉันไม่โกรธเป็นต้น
      มีพระธรรมเทศนาอีกหลายร้อยเรื่อง ที่สำคัญคือ มงคลวิเศษคาถา ที่แสดงในพระราชพิธีเฉลิม  พระ

    • Update : 12/5/2554
    © Copyright 2011 www.watnongmuang.com All rights reserved 999arch