|
 |
ตำรวจพระจับแก๊งเรี่ยไร ผงะ-เณรเพิ่งบวชได้ 2 วัน
ตำรวจพระจับแก๊งเรี่ยไร ผงะ-เณรเพิ่งบวชได้ 2 วัน
ยังพบเห็นเป็นข่าวอยู่บ่อยครั้ง กรณีพระภิกษุ-สามเณร ที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสม พร้อมด้วยฆราวาสออกอาละวาดเรี่ยไรขอรับเงินบริจาค ซึ่งมากันเป็นขบวนการ ทำกันเป็นธุรกิจ โดยอ้างว่ามีพระเป็นผู้ว่าจ้าง ในภาคกลางถูกจับบ่อยที่สุดคือ แก๊งห่มเหลืองที่มาจากจังหวัดสุพรรณบุรี ล่าสุดตำรวจพระจังหวัดนครปฐม จับแก๊งที่มาจากจังหวัดสุพรรณบุรีได้ถึง 5 ครั้ง ติดต่อกัน
เมื่อเร็วๆ นี้ พระวินยาธิการ (ตำรวจพระ) ประจำจังหวัดนครปฐม ได้รับแจ้งจากญาติโยมพลเมืองดี พบเห็นสามเณรพร้อมฆราวาสออกเดินเรี่ยไรบอกบุญขอรับเงินบริจาคที่บริเวณตลาดปฐมมงคล อ.เมือง จ.นครปฐม โดยใช้รถกระบะเป็นพาหนะ พร้อมติดเครื่องขยายเสียงบอกบุญเรี่ยไร ขอรับเงินบริจาค ข้างรถติดแผ่นป้ายประชาสัมพันธ์ ขอเชิญร่วมเป็นเจ้าภาพทอดผ้าป่าสามัคคี งานปิดทองฝังลูกนิมิต วัดสระดู่ ต.หนองแซง อ.หันคา จ.ชัยนาท โดยที่ด้านหลังรถกระบะมีลูกนิมิต พระพุทธรูป ตู้บริจาค ซองบอกบุญ พร้อมสามเณร 2 รูป และฆราวาสลงไปเดินเรี่ยไรภายในบริเวณตลาดปฐมมงคลอีกจำนวน 5 คน
จากการสอบสวนโดยพระครูปลัดสิทธิวัฒน์ หัวหน้าพระวินยาธิการจังหวัดนครปฐม ซึ่งสามเณรทั้ง 2 รูป ให้การว่า ชื่อสามเณรธีรศักดิ์ พุทธาคูณ และสามเณรสวัสดิ์ คำมา อายุ 16 ปี สังกัดวัดสระดู่ บรรพชา เมื่อวันที่ 2 ส.ค.2553 ได้เดินทางออกมาจากวัดสระดู่ พร้อมกับคณะประกอบด้วย นางวรรณา ใจสุกใส นายปัญญา ทองคำ นางประดับ กองม่วง นายมานพ เกิดโภคา นางอนงค์ พุทธาคลา ซึ่งรถที่นำมาใช้ออกเรี่ยไรนั้น จ้างมาวันละ 800 บาท
โดยอ้างว่า ได้รับการว่าจ้างมาจาก พระครูพิจิตรสุวรรณา ภรณ์ (สำอาง ใจเอื้อย) เจ้าคณะตำบลศรีสำราญ เจ้าอาวาสวัดสระพังกร่าง ต.ศรีสำราญ อ.สองพี่น้อง จ.สุพรรณบุรี โดยพระครูพิจิตรสุวรรณาภรณ์ สั่งให้มาเรี่ยไรที่จังหวัดนครปฐม เดินทางมาเป็นครั้งแรก แต่ตำรวจพระไม่ได้ปักใจเชื่อ เนื่องเพราะมีฆราวาสจากจังหวัดสุพรรณบุรี นำรถมาเรี่ยไรในจังหวัดนครปฐมบ่อยมาก และถูกจับกุมเป็นประจำเกือบทุกเดือน
หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจพระนำโดย "พระ มหาสงัด ปิยะวัฒโน" เลขานุการตำรวจพระจังหวัดนครปฐม และ "พระมหาชุติพงษ์ โชติโก" พร้อมทีมงาน ได้ชี้แจงรายละเอียดในข้อกฎ หมายให้ทราบ และนำตัวส่งไปยังเจ้าคณะจังหวัด สุพรรณบุรี ให้ดำเนินการต่อไป
"พระปลัดสิทธิวัฒน์" หัวหน้าตำรวจพระจังหวัดนครปฐม เปิดเผยว่า ซองที่นำมาแจกเป็นซองที่พิมพ์ในลักษณะที่ไม่ชัดเจน ตรายางของวัดไม่ใช่เป็นการปั๊ม แต่เป็นการพิมพ์ เข้าข่ายหลอกลวงประชาชนให้หลงเชื่อ และเกิดความศรัทธาเลื่อมใส โดยเฉพาะญาติโยมที่ไม่รู้ ในส่วนของสามเณรทั้ง 2 รูป มีพฤติกรรมไม่เหมาะสม บวชมาเพียงไม่กี่วัน ไม่เข้าใจพระธรรมวินัย แล้วอย่างนี้ปล่อยให้ออกมาจากวัดเรี่ยไรบอกบุญได้อย่างไร เสื่อมเสียพระพุทธศาสนา ถามว่าใครเป็นพระอุปัชฌาย์ ก็ยังตอบไม่ได้ เรื่องนี้อันตรายที่สุด
พระสงฆ์สามเณรในจังหวัดนครปฐม ส่วนใหญ่แล้วจะรู้กันดี ในเรื่องของวัตรปฏิบัติและกฎข้อห้าม ไม่มีวัดไหนออกมาเรี่ยไร แต่ที่จับได้ทุกวันนี้ ส่วนใหญ่มาจากจังหวัดอื่นๆ พระวินยาธิการจังหวัดนครปฐมจะเข้มงวดกวดขันเอาจริงเอาจังในเรื่องนี้มาก เพราะเป็นคำสั่งเด็ดขาดของพระธรรมคุณาภรณ์ เจ้าคณะภาค 14 และพระราชรัตนมุนี เจ้าคณะจังหวัดนครปฐม นี่คือความชัดเจนในการทำงานที่เป็นรูปธรรม ถ้าไม่เด็ดขาด บุคคลต่างๆ เหล่านี้ก็จะอาศัย ความศรัทธา ความไม่รู้ของญาติโยม หลอกเอาเงินเอาทองไปใช้ในทางที่ผิด เป็นการสนับสนุนให้คนทำชั่ว แทนที่จะได้บุญ กลับได้บาป ที่สำคัญอยากจะเตือนญาติโยมถ้าพบเห็นพฤติกรรมเยี่ยงนี้โทร.แจ้งตำรวจพระได้เลย หรือแจ้งตำรวจก็ได้ จะได้ช่วยกันหลายๆ ทาง เพื่อกำจัดมารศาสนาพวกนี้
ให้หมดสิ้นไปจากสังคมไท
|
Update : 10/5/2554
|
|
