หน้าแรก สมาชิก รายการวัตถุมงคล ตะกร้าวัตถุมงคล วิธีชำระวัตถุมงคล วิธีบูชาวัตถุมงคล ประวัติวัด ติดต่อวัด เว็บบอร์ด
สมาชิก Log in
อีเมล์
รหัสผ่าน
สมัครสมาชิกใหม่
ลืมรหัสผ่าน
















ค้นหาวัตถุมงคล
 
 
 
หมวดวัตถุมงคล
  เครื่องราง พระอาจารย์ป้อม
  พระเครื่อง พระอาจารย์ป้อม
  พระเครื่อง หลวงพ่อสวัสดิ์
  พระเครื่อง หลวงปู่พิมพ์มาลัย
  พระเครื่อง หลวงพ่อสง่า
วัตถุมงคลของคุณ
รหัสวัตถุมงคล ราคา จำนวน
ยังไม่มีวัตถุมงคลอยู่ในตะกร้า
  • ชำระค่าวัตถุมงคล
  • แก้ไขรายการวัตถุมงคล
  • วิธีสั่งบูชาวัตถุมงคล
  •  

    รู้ชอบ ชั่วดี ย่อมเกิดกับผู้มีสติ

    Image

    รู้ชอบ ชั่วดี ย่อมเกิดกับผู้มีสติ
    โดย แม่ชีทศพร ชัยประคอง


    “อย่าประมาทกับชีวิต ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นล้วนไม่เที่ยง มีสติอยู่อย่างเพียงพอ ยอมรับในสถานภาพที่กำลังเกิด กำลังเป็น ถ้าทุกคนร่วมใจกัน ไม่ทำร้ายกัน ทั้งผู้ให้และผู้รับ หยิบยื่นสิ่งดีๆ ให้กันน่าจะดีที่สุด วัดจะอยู่ตรงไหนไม่สำคัญมันวัดใจมากกว่า”

    ทุกชีวิตก่อนแต่จะได้มาเป็นคนเป็นสัตว์อยู่ในปัจจุบันชาติ ต่างเป็นอะไรต่อมิอะไรมาแล้วมากมาย แยกออกไม่ได้กรรมดีกรรมชั่วอะไรบ้าง ทำกรรมใดก่อน ทำกรรมใดหลัง กรรมดีกรรมชั่วเหล่านั้น ย่อมให้ผลตรงตามเหตุทุกประการ

    ในหลักศาสนา มนุษย์หลากหลายชีวิตกำลังต่อสู้ ผจญกับอำนาจและความเป็นไปในทางโลก ส่วนในอีกโลกหนึ่งคือ โลกธรรม ก็มีผู้ปฏิบัติธรรม ผู้ที่ผ่านความหลุดพ้น อยู่เหนือทุกข์ สุข สรรเสริญและนินทา คอยชี้นำให้มนุษย์ปุถุชนที่รายล้อมไปด้วยทุกข์ผ่านสิ่งนั้นไปดวยการตั้งมั่นและเชื่อในเหตุผล กฎแห่งกรรม ดำรงอยู่ด้วยสติ

    เฉกเช่นเดียวกับ แม่ชีทศพร ชัยประคอง แห่งวัดพิชยญาติการาม ผู้ปฏิบัติธรรมซึ่งก่อนเข้าสู่โลกธรรมนั้นก็ใช้ชีวิตเป็นฆราวาสธรรมดาทั่วไป แม่ชีเป็นคนอัมพวา จังหวัดสมุทรสงคราม ดำรงอาชีพทำมาค้าขายและยึดมั่นในพระพุทธศาสนาตลอดมา แม่ชีเล่าว่า

    “เมื่อก่อนก็เป็นฆราวาส ประกอบอาชีพดีมาตลอดไม่ขัดสน เป็นคนชอบทำบุญทำทาน กราบไหว้นับถือศาสนา สวดมนต์อยู่ทุกวัน ไม่เคยคิดเข้ามาทางธรรม แต่เมื่อใช้ชีวิตแล้วพบเจออุปสรรคปัญหามากมาย พบความผิดหวังจากการที่เราเลือกคนที่มาอยู่กับเรา เขาเป็นศัตรูกับเราหมด แม่ชีไม่มีที่พึ่ง ไม่มีเพื่อน ไม่มีผู้ใหญ่ที่คอยให้คำปรึกษา เวลาเจอปัญหาจะใช้วิธีวิ่งเรือออกไปไกลๆ คนเดียว มันเงียบมาก ไม่รู้จะสิ้นสุดที่ไหน เพราะทะเลมันน้ำจดฟ้า พอเจอลูกคลื่นก็รู้สึกเหนื่อยอีก ต้องต่อสู้กับมัน

    พอเหนื่อยก็รู้ว่ากำลังทำร้ายตัวเอง ก็กลับเข้าบ้าน จากนั้นเริ่มใช้ความคิด คิดว่าอยู่ไปก็ทรมานกับการทำร้ายตัวเองไปเรื่อย ก็เลยได้รับความกรุณาจากครูบาอาจารย์ที่ท่านมองออกว่าเราควรจะอยู่ตรงไหน เลยได้ความปรารถนาที่จะเข้าบวชเป็นแม่ชี เมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน 2540 ณ วัดเขาอิติสุคโต ต.หินเหล็กไฟ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ โดยพระอธิการ ธนวฑฒโก พอวันที่ 5 ธันวาคมปีนั้นท่านก็ให้เทศน์เลย การบรรยายของแม่ชีมีหลักว่า คนนี้มีอะไรเป็นเหตุ หรือเป็นจุดหักเหของชีวิต พระพุทธเจ้าสอนให้เชื่อในผลของการกระทำ”

    สิ่งที่ทำให้แม่ชีทศพรเป็นที่รู้จักของคนทั่วไปนั้น มาจากการเขียนหนังสือ “เกิดแต่กรรม” และการเป็นวิทยากรพิเศษในการบรรยายธรรม รวมถึงการขออุทิศตนในการเผยแพร่พระพุทธศาสนา ช่วยบรรเทาทุกข์ให้คนที่อยากหาทางออกด้วย “แม่ชีไม่ได้หวังว่าจะดัง เคยเข้าป่าแล้วไม่คิดว่าจะออกมาแล้ว แต่เสียงระฆังดังก้องอยู่ในหูเลยต้องออกมา คิดว่าตัวเองน่าจะเป็นประโยชน์กับคนอื่น อยู่ที่วัดเห็นความศรัทธาเยอะ คิดว่าการที่เราปลุกให้คนรู้จักศาสนาน่าจะดี เพราะศาสนาสอนให้รู้จักละอาย เกรงกลัวต่อบาปและสอนไม่ให้ยึดติดกับอะไร บางคนมาหาบอกวัน เดือน ปีเกิด แม่ชีก็บอกเขาตรงๆ ว่า ไม่ได้ดูดวงนะ”

    แม่ชีทศพรเล่าต่อว่าเมื่อตอนแม่ชีมีโทรศัพท์ส่วนตัว ปรากฎว่ามีคนโทรมามากมาย จนไม่มีเวลาทำอย่างอื่นเลย ทั้งจากต่างประเทศและในเมืองไทย ก็เลยเป็นแรงศรัทธาให้แม่ชีอยากช่วยแก้ปัญหา โดยการเปิดสายด่วนฮอตไลน์ 1900-444-456 ขึ้นมีลูกศิษย์เอื้อเฟื้อสถานที่ในการปฏิบัติงาน รายได้ทั้งหมดนำไปทำบุญ เปิดโรงทานที่วัด

    “วัตถุประสงค์จริงๆ คือแม่ชีอยากช่วยรับฟัง ช่วยพูดหาทางแก้ปัญหาให้เขามีสติ

    การพูดคุยสนทนาก็เป็นเรื่องที่อยู่ในใจลึกๆ ของคนที่เป็นทุกข์ ทั้งเรื่องครอบครัว การงาน เรื่องโรคภัยไข้เจ็บ เรื่องหนี้สิน ฯลฯ กลุ่มเป้าหมายครอบคลุม มีคนโทรมาตั้งแต่เด็ก 9 ขวบถึง 70 ปี ปัญหาครอบครัวมามากเป็นอันดับหนึ่ง แม่ชีจะมุ่งสอนให้คนอยู่กับปัจจุบัน อดีตที่ผ่านมาเราก็ทำไม่ดีมาเยอะแยะ เราทำปัจจุบันให้ดีที่สุด เรื่องของอนาคตก็บอกกับใครไม่ได้ ว่าใครจะไปได้ดีมีสุขอย่างไร

    สอนให้มีสติรู้จักมองเหตุว่าอะไรทำให้เกิดปัญหา แก้ที่ตัวเราเองก่อนที่จะไปแก้คนอื่น”

    ในท้ายที่สุดแม่ชีได้อำนวยพรไว้ว่า “ขอให้ทุกคนอยู่กับสติ อย่าประมาทกับชีวิต ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นล้วนไม่เที่ยง มีสติอยู่อย่างเพียงพอ ยอมรับในสถานภาพที่กำลังเกิด กำลังเป็น ถ้าทุกคนร่วมใจกัน ไม่ทำร้ายกัน ทั้งผู้ให้และผู้รับ หยิบยื่นสิ่งดีๆ ให้กันน่าจะดีที่สุด วัดจะอยู่ตรงไหนไม่สำคัญมันวัดใจมากกว่า”

    .........................................................................

    หนังสือพิมพ์สยามธุรกิจ วันศุกร์ที่ 20 มกราคม พ.ศ.2549


    • Update : 16/4/2554
    © Copyright 2011 www.watnongmuang.com All rights reserved 999arch