|
|
เมื่อ...แม่ชีทศพร ตรวจกรรมในคุกคลองเปรม
เมื่อ...แม่ชีทศพร
“ตรวจกรรมในคุกคลองเปรม”
“ทัณฑสถานหญิงกลาง มุ่งมั่นทำความดี หลีกหนีทุจริต คือ จิตสำนึกของราชทัณฑ์” นี่คือสโลแกนของทัณฑสถานหญิงกลาง (คลองเปรม) กรมราชทัณฑ์ กระทรวงยุติธรรม เพื่อให้บรรลุความหมาย ทัณฑสถานหญิงแห่งนี้ยังจัดโครงการ “เรือนจำเรือนธรรม” เพื่อเร่งพัฒนาคุณธรรมเจ้าหน้าที่ สร้างจิตสำนึกโปร่งใส อยู่อย่างพอเพียง หลีกเลี่ยงทุจริต ล่าสุดได้เชิญแม่ชีทศพร (ธนพร) ชัยประคอง ที่โด่งดังจากหนังสือเกิดแต่กรรม มาบรรยายธรรม ให้นักโทษหญิงถึงเรื่องราวเกี่ยวกับกฎแห่งกรรม
ก่อนเริ่มบรรยายธรรมครั้งนี้ นางสุวารี รวบทองศรี รองผู้อำนวยการทัณฑสถานหญิงกลาง ได้กล่าวต้อนรับ คณะแม่ชีทศพร (ธนพร) ชัยประคอง หลายคนที่ถูกแม่ชีทศพรทัก ถึงกับทำหน้าตาตกใจ บางคนแม่ชีทศพรทำนายอดีต ให้ฟังถึงกรรมที่ต้องมาเป็นนักโทษในวันนี้ทำให้พวกเขาเข้าใจ และตั้งใจที่จะกระทำแต่ความดี
แม่ชีทศพร กล่าวว่า บางคนติดคุกจากการกระทำของตัวเอง หรือบางคนเป็นเหมือนแพะรับบาป ตรงนี้แม่ชีไม่อยากให้ทุกคนคิดมาก แต่ให้รู้ว่านั่นเป็นกรรมที่เราทำไว้ เป็นกรรมที่เราใช้เขาไม่หมด ถึงแม้เราจะตายไปก็ยังใช้กรรมไม่หมด แม้แต่พระพุทธองค์เกิดมาทั้งหมด ๕๐๐ ชาติ จนกระทั่งชาติสุดท้ายพระองค์บำเพ็ญเพียร จากพระเวชสันดร แล้วพระองค์ก็เกิดมาเป็นพระพุทธเจ้า แม่ชีอยากให้เข้าใจว่า บางคนไปทำแท้ง เราไปเอาเขาออก มาวันนี้เราก็ถูกกักขังบ้าง ถ้าเด็กที่เราเอาออกจองเวรมาก ก็จะทำให้เราถูกกักขังมากเป็น ๑๐๐ เท่า
บาปกรรมที่คนทำแท้งอยู่ในโลกข้างนอก น่ากลัวกว่าโลกข้างใน เพราะโลกข้างในที่ถูกกักขัง บริเวณทุกคน จะได้แต่สิ่งดีๆ แม่ชีอยากให้ทุกคนไขว่คว้าสิ่งดีๆ นี้ไว้ เราถูกกักขังเพียงร่างกาย แต่จิตใจเราอย่าให้ถูกกักขังไปด้วย สิ่งที่อยากให้ทำทุกคนคือ การทำสมาธิ สวดมนต์ไหว้พระ “สิ่งใดที่ตกหล่นเป็นกรรม ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันอย่าได้เกิดขึ้นกับข้าพเจ้าอีก ใครที่เคยจะเกิดมาเป็นลูกแล้วไม่ได้เกิด แม่ไม่พร้อมอย่าจองเวรกับแม่เลย แล้วให้แผ่เมตตาให้ตัวเองว่า บุญกุศลที่ได้เกิดมาเป็นคนอาการครบ ๓๒ ด้วยกรรมทำให้ต้องมาอยู่ในสถานที่นี้ ขอกรรมตัวนี้อย่าได้เกิดขึ้นกับข้าพเจ้าอีกไม่ว่าจะเกิดชาติใดภพใด ขอจบสิ้นการจองเวรเพียงเท่านี้” แม่ชีทศพร กล่าวก่อนเจาะลึกเรื่องกรรม
ระหว่างบรรยายธรรมนั้น แม่ชีทศพรได้เจาะถึงกรรมของนักโทษแต่ละคนที่จะเป็นวิทยาทาน ให้แก่ประชาชน ได้เกรงกลัวต่อบาปที่กำลังจะทำ และนี่เป็นส่วนหนึ่งของการเจาะกรรมให้เห็นว่า ผลกรรมที่เคยทำให้ตั้งแต่อดีตชาติ หรือชาติปัจจุบันมีผลร้ายแรง อย่างไรต่อการดำเนินชีวิตของแต่ละคน
เริ่มจากนักโทษหญิงคนแรก ที่เกิดมาครอบครัวไม่เคยให้ความรัก ต้องถูกทบตีจากสามีมาตลอด อดีตชาติเป็นชายชาวเขมร ที่ต้องทำร้ายผู้หญิงที่เป็นนักโทษตกวันละ ๒๐ คน พอตอนเกิด ก็ถูก ปฏิเสธมาตั้งแต่เกิด ผลกรรมที่มีอยู่จึงทำให้ถูกล่วงเกินทางเพศ ตั้งแต่อายุ ๑๖ ปี ชีวิตมีแต่ความ กดดัน และผลกรรมนั้นก็ทำให้ชีวิตถูกผู้ชายทำร้ายเป็นจำนวนมาก นี่ก็เป็นตราบาปที่ต้องพยายาม สวดมนต์ภาวนาทุกวัน
นักโทษหญิงคนที่สอง แม่ชีบอกว่า คนนี้มีกรรมที่ไปขโมยไฟหลวงใช้ แล้วก็ต่อไปให้บ้านคนอื่นเก็บเงินเพิ่ม จากยูนิตละ ๓ บาท ก็เก็บเพิ่มเป็นยูนิตละ ๕ บาท ผลกรรมที่ทำนั้นก็ส่งผลให้ตัวเองมีความรู้สึกว่าเหมือนมีไฟดูดเรื่อยมา และมีอาการเจ็บตามข้อ เวลานอนก็รู้สึกปวดกระดูก
ส่วนนักโทษหญิงคนที่สามติดคุกตลอดชีวิตกล่าว ยอมรับในสิ่งที่แม่ชีทศพรพูดเรื่องกรรม พอเริ่มจากการเจาะกรรมแม่ชีบอกว่า ผู้หญิงคนนี้แต่งงานกับสามีคนแรกที่เป็นตำรวจ สามีคนนี้ไม่ถูกกับพ่อแม่ จนคิดที่จะใช้ปืนขู่ฆ่าพ่อแม่ของนักโทษคนนี้ พ่อแม่ก็บอกฝ่ายหญิงให้เลิกกับสามีคนนี้ แต่ฝ่ายหญิงก็เอาเรื่องที่พ่อแม่บอกให้เลิกไปเล่าให้กับสามีฟัง ตรงนี้ก็ถือเป็นการสร้างกรรม พอสามีเจอหน้าพ่อแม่ฝ่ายหญิงก็พูดขู่ฆ่าเป็นประจำ ด้วยแรงอาฆาตจองเวรตรงนี้ทำให้สามีคนนี้ เกิดอุบัติเหตุเสียชีวิต
สำหรับสาเหตุที่เข้ามาอยู่ในทัณฑสถานหญิงแห่งนี้ เนื่องจากมีสามีคนที่สอง เป็นคนที่ชอบทุบตี อยู่เป็นประจำ ความกดดันที่มีอยู่ทนไม่ไหว ถึงใช้น้ำกรดที่ใช้กับยางพารา โดยได้ราดลงไปในขณะที่สามีคนนี้กำลังนอนหลับอยู่ ส่งผลให้สามีไม่ตายแต่ตาบอด แล้วนักโทษหญิงคนที่สามนี้ ถูกดำเนินคดีในฐานเจตนาฆ่า
ตัวอย่างชีวิตแม่ชีในอดีตเคยไปอยู่กับผู้ชายที่รักแม่ชีมาก ๓ วัน โดยไม่ได้มีอะไรกัน แต่ก็มาไหว้ผี ที่บ้าน ส่วนเตี่ยไม่ชอบผู้ชายคนนี้จึงให้เงิน ๓๐๐ บาท เพื่อให้เข้ากรุงเทพฯ ไปจากผู้ชายคนนี้ ความคิดช่วงนั้นก็เอาเงินดังกล่าว เหมาเรือไปหาเขาที่บ้าน แล้วได้เล่าทุกข์เรื่องนี้ให้เขาฟัง ตรงนี้ แม่ชีไม่รู้ว่าเป็นการสร้างความกดดัน สร้างความแตกแยกให้สามีคนนี้
“เชื่อไหมว่า สามีคนนี้จองเวรครอบครัวแม่ชีทุกคน พอเขาเจอหน้าพ่อแม่เรา ก็จะพูดเสียดสีว่า เป็นผู้ใหญ่หน้าเนื้อใจเสือ จนถึงขีดจำกัดความอดทนของเขา สามีคนนี้ก็ฟันพ่อแม่ชีต้องเย็บ ๗๒ เข็ม เรื่องที่เกิดขึ้นเป็นเพราะบาปที่แม่ชีได้เล่าเรื่องที่พ่อบอกให้เลิกกัน มันก็เลยเป็นผลกรรมที่เราได้สร้าง จริงๆ ตอนนั้นไม่รู้ว่าเป็นบาป ไม่รู้ว่าสิ่งที่เราบอกไปนั้น คือการจองเวร”
การตรวจกรรมมาถึงนักโทษหญิงชราคนที่สี่ ต้องคดียาบ้า โดยที่ตัวเองไม่ได้ทำแต่ถูกกล่าวหาว่า เป็นนายทุน แม่ชีเจาะกรรมให้เห็นว่า อดีตชาตินั้นเป็นคนปล่อยเงินกู้ แล้วใครเอาโฉนดมาจำนอง พอเขาจะมาถ่ายคืน เราก็เติมเลขศูนย์เพิ่งเข้าไป ทำให้เจ้าของไม่สามารถถ่ายโฉนดนั้นได้ พอเกิดมาใหม่ ก็ทำให้กรรมที่อยู่กับการชั่งตวงมาตลอด แล้วมาขายของก็ชั่งตรงบ้างไม่ตรงบ้าง แล้วก็เป็นกรรมสะสม พอแม่ชีถามต่อว่า คุณยายชั่งของเต็มกิโลหรือไม่
คุณยายก็บอกว่าไม่ค่อยเต็มค่ะ ชีวิตมีการกู้ยืมตลอด มีลูก ๗ คนไม่เป็นโล้ เป็นพาย ตรงนี้มาจากผลกรรมของอาชีพที่เราทำชั่งตวงวัดไม่ตรง เงินที่เราเอาเลี้ยงเขามันเลยไม่ซื่อตรง ยายจึงโดนลูกขโมยเงินจนเป็นนิสัย ทั้งหมดเป็นกรรมที่ยายได้กระทำไว้นั่นเอง
อย่างไรก็ตาม นักโทษหญิงอีกคนหนึ่งถูกจำคุก ๘ ปี ความผิดฐานฉ้อโกง เล่าว่า เป็นพนักงานบัญชี เงินทองไม่พอใช้ ได้ให้ลูกค้าโอนเงินผ่านเข้าบัญชีตัวเองเรื่อยมา ได้เงินมากว่า ๔ ล้านบาท สิ่งที่ทำเพื่อให้ครอบครัวสบาย วันนี้ก็ยอมรับผิด และแม่ชีก็บอกว่า ถ้าเรารู้ว่าเราผิดอโหสิกรรม ให้จบเพียงแต่ตัวเรา กรรมที่ว่านี้ก็จะไม่ตกถึงลูกหลาน สิ่งสำคัญที่อยากจะบอกให้ทุกคนได้ฟังก็คือ อย่าลืมรักษาศีล ๕ เอาไว้เพียงเท่านี้ก็จะทำให้เกรงกลัวต่อบาป
.........................................................................
หนังสือพิมพ์คม ชัด ลึก เรื่องโดย สุทธิคุณ กองทอง
ฉบับวันที่ 15 ธันวาคม พ.ศ. 2548
|
|
Update : 16/4/2554
|
|