|
 |
ศิลปกรรมพระพิฆเนศ งานศิลปะน.ศ.ศิลปากร
เทพเจ้าองค์หนึ่งที่ชาวไทยรู้จักกันเป็นอย่างดี ซึ่งมีความเชื่อกันว่า 'พระพิฆเนศ' เป็น 'เทพแห่งความสำเร็จ' เมื่อได้สักการบูชา จะนำมาซึ่งความสำเร็จทั้งปวง โดยเฉพาะผู้ที่มีอาชีพการงานด้านศิลปิน นักแสดง และวิชาชีพช่างทุกสาขา
ความเชื่อและศรัทธาสอดรับกับที่ประเทศอินเดีย ในทุกปีจะมีเทศกาลมหามงคล 'คเณศจตุรถี' อันเป็นเทศกาลเฉลิมฉลองวันประสูติของพระพิฆเนศ ด้วยการจัดสร้างองค์พระพิฆ เนศขนาดต่างๆ นำไปลอยลงแม่น้ำคงคา ซึ่งเชื่อกันว่าเป็นแม่น้ำอันศักดิ์สิทธิ์ เพื่อความเป็นสิริมงคล
ตำนานเกี่ยวกับพระพิฆเนศวร มีมากมาย แต่ที่คนทั่วไปรู้จัก กล่าวคือ พระพิฆเนศวร เป็นโอรสของพระอิศวรกับพระอุมาเทวี มีสี่กร พระเศียรเป็นช้าง มีงาข้างเดียว พระวรกายสีเหลือง อ้วนพุงพลุ้ย มีหนูเป็นพาหนะ
กำเนิดของพระพิฆเนศวร เกิดจากพระอุมาได้เนรมิตขึ้นมาจากขมิ้นที่ทาพระวรกายให้เป็นกุมารรูปงาม เพื่อมีหน้าที่เฝ้าประตูห้องสรง
วันหนึ่งพระอิศวรเสด็จมาและจะเข้าไปในห้องสรง พระพิฆเนศวรได้ขัดขวางไม่ยอมให้เข้าไป จึงต่อสู้กัน แต่สู้พระพิฆเนศวรไม่ได้ ร้อนถึงเหล่าทวยเทพต้องเข้ามาช่วย ก่อนที่พระพิฆเนศวร ถูกจักรพระนารายณ์ตัดเศียร
.jpg)
|
ความทราบถึงพระอุมาเทวี ทรงพิโรธจนพระอิศวรต้องชุมนุมเหล่าทวยเทพเพื่อหาทางแก้ไข โดยพระอิศวรได้ให้เหล่าทวยเทพไปค้นหามนุษย์หรือสัตว์ที่นอนเอาศีรษะไปทิศตะวันตก แล้วให้ตัดศีรษะมา
แต่เหล่าทวยเทพเพียรค้นหาไม่พบ พบแต่ช้างเผือกเชือกหนึ่งนอนเอาศีรษะหันไปทิศตะวันตก จึงตัดเศียรมา และต่อให้พระกุมาร จึงฟื้นขึ้นมามีเศียรเป็นช้าง และตั้งให้เป็นใหญ่ในหมู่เทพรับใช้ของพระอิศวร
อีกทั้ง พระอิศวรประสาทพรให้เป็นผู้ขจัดอุปสรรคใดๆ ทั้งปวง เป็นเทพแห่งสติปัญญาและความสำเร็จ พราหมณ์จักประกอบพิธีใดๆ ต้องขอให้บูชาพระพิฆเนศวรก่อน จึงจะบวงสรวงบูชาเทพอื่นๆ ต่อไป
เมื่อช่วงเย็นวันพุธที่ 8 ก.พ. คณะจิตรกรรม ประติมา กรรมและภาพพิมพ์ มหาวิทยาลัยศิลปากร จัดงาน 'นิทรรศ การแสดงผลงานในโครงการประกวดศิลปกรรมพระพิฆเนศ' ณ ชั้น 1 อาคารพรรณราย หอศิลป์มหาวิทยาลัยศิลปากร วังท่าพระ
เปิดให้ชมไปแล้วเมื่อวันที่ 15 ก.พ.
ในโอกาสนี้ ได้รับเกียรติจาก นายอานิล วัธนา เอกอัคร ราชทูตอินเดียประจำประเทศไทย เป็นประธานในพิธีเปิดงานนิทรรศการและมอบรางวัลให้กับนักศึกษาที่ได้รับรางวัลชนะเลิศโครงการประกวดศิลปกรรมพระพิฆเนศ
|
รศ.ปริญญา ตันติสุข คณบดีคณะจิตรกรรม ประติมากรรมและภาพพิมพ์ มหาวิทยาลัยศิลปากร กล่าวถึงที่มาของการจัดโครงการ ประกวดศิลปกรรมพระพิฆเนศ ว่า เกิดจากนางเรณุกา นารายานัน ผอ.ศูนย์วัฒนธรรมอินเดีย ประจำประเทศไทย ได้มาติดต่อขอคำปรึกษาและแจ้งวัตถุประสงค์ในความต้องการส่งเสริมการสร้างสรรค์ศิลปะของนักศึกษาด้วยการจัดประกวดผลงานศิลปะโดยใช้หัวข้อเรื่องพระพิฆเนศ
"พระพิฆเนศ เป็นเทพแห่งปราชญ์ความรอบรู้ ในทางศิลปะก็นับถือท่านเป็นเทพเจ้าแห่งศิลปวิทยา อีกทั้งยังเป็นตราสัญลักษณ์ ของมหาวิทยาลัยศิลปากร หัวข้อพระพิฆเนศ จึงมีเนื้อหาและเรื่องราวกระตุ้นให้นักศึกษาได้เกิดแรงบันดาลใจ ค้นคว้าศึกษา ใช้ความคิด จินตนาการ และสร้างสรรค์ผลงานศิลปะที่มีคุณค่า"
รศ.ปริญญากล่าวต่อว่า กิจกรรมนี้เป็นประโยชน์แก่นักศึกษาในการทดลองค้นคว้าสร้างสรรค์งานศิลปะตามหัวข้อที่กำหนดและเป็นกิจกรรมบริการวิชาการที่จะช่วยส่งเสริมความสัมพันธ์อันดีระหว่างคณะจิตรกรรม ประติมากรรมและภาพพิมพ์ กับศูนย์วัฒนธรรมอินดีย ซึ่งเป็นองค์กรทางด้านศิลปวัฒนธรรมของทั้งสองประ เทศให้เกิดความแน่นแฟ้นยิ่งขึ้น
ด้าน นายอานิล วัธนา เอกอัครราชทูตอินเดียประจำประเทศไทย กล่าวว่า ขอชื่นชมนักศึกษาทุกคนที่ส่งผลงานเข้าร่วมประกวดเป็นจำนวน 68 ชิ้น เป็นการนำพลังความคิดในการสร้างสรรค์งานของวัฒนธรรมดั้งเดิม เข้ามามีความสัมพันธ์กันในวัฒนธรรมที่มีความหมายร่วมกันของชนชาติอินเดียและไทย
'น.ส.กรติ เชี่ยวสุทธิ' นักศึกษาคณะจิตรกรรม ประติมากรรมและภาพพิมพ์ มหาวิทยาลัยศิลปากร ชั้นปีที่ 4 ผู้ได้รับรางวัลที่ 2 ดีเด่น ชื่อภาพ 'เทวะศรัทธา' กล่าวว่า พระพิฆเนศ เป็นเทพเจ้าแห่งศิลปวิทยาการ อีกทั้งยังเป็นเทพเจ้าแห่งความสำเร็จ ผู้ขจัดปัดเป่าอุปสรรคนานัปการ เหล่าศิลปิน และผู้ประกอบอาชีพทางศิลปกรรม การช่าง จึงเคารพบูชาพระพิฆเนศกันอย่างกว้างขวาง
"การทำผลงานศิลปกรรมพระพิฆเนศ แม้จะเป็นงานตามจินตนาการของแต่ละคน อาจมีรูปแบบที่ผิดแผกไปจากรูปภาพหรือรูปเหมือนพระพิฆเนศที่คนทั่วไปเคยพบเห็น แต่ด้วยท่านเป็นเทพที่เหล่าศิลปินให้ความเคารพบูชา ผลงานที่ออกมาจึงเน้นที่ความสวยงาม สร้างสรรค์และไม่มีรูปแบบที่เป็นการลบหลู่ท่านแต่อย่างใด"
|
Update : 18/2/2555
|
|
.jpg)