หน้าแรก สมาชิก รายการวัตถุมงคล ตะกร้าวัตถุมงคล วิธีชำระวัตถุมงคล วิธีบูชาวัตถุมงคล ประวัติวัด ติดต่อวัด เว็บบอร์ด
สมาชิก Log in
อีเมล์
รหัสผ่าน
สมัครสมาชิกใหม่
ลืมรหัสผ่าน
















ค้นหาวัตถุมงคล
 
 
 
หมวดวัตถุมงคล
  เครื่องราง พระอาจารย์ป้อม
  พระเครื่อง พระอาจารย์ป้อม
  พระเครื่อง หลวงพ่อสวัสดิ์
  พระเครื่อง หลวงปู่พิมพ์มาลัย
  พระเครื่อง หลวงพ่อสง่า
วัตถุมงคลของคุณ
รหัสวัตถุมงคล ราคา จำนวน
ยังไม่มีวัตถุมงคลอยู่ในตะกร้า
  • ชำระค่าวัตถุมงคล
  • แก้ไขรายการวัตถุมงคล
  • วิธีสั่งบูชาวัตถุมงคล
  •  

    พระพุทธชินราช


    ประเทศไทยเรามีพระพุทธรูปองค์สำคัญๆ มากมาย แต่ที่นับว่าสร้างชื่อเสียงไปทั่วโลกนั่นก็คือ "พระพุทธชินราช" พระประธานในพระอุโบสถวัดพระศรีรัตนมหาธาตุ จังหวัดพิษณุโลก เพราะเป็นที่ยอมรับและยกย่องว่า เป็นพระพุทธรูปที่มีความงดงามที่สุดในโลก ชินราช นั้นแปลว่า พระราชาผู้ชนะ หมายถึงชนะมาร เพราะองค์พระประทับนั่งปางมารวิชัย มีเอกลักษณ์เป็นซุ้มเรือนแก้วทำจากไม้สักปิดทองเป็นรูปมกรคายพวงอุบะและตัวทักทอ

    พระพุทธชินราช เป็นพระพุทธรูปที่มีพุทธศิลปะสุโขทัยหมวดใหญ่พิษณุโลก หล่อด้วยทองสัมฤทธิ์ ขนาดหน้าตักกว้าง 5 ศอก 1 คืบ 5 นิ้ว และสูง 7 ศอก องค์พระมีสัดส่วนลงตัวกับพระอุโบสถ สร้างความสะดวกในการกราบไหว้สักการะและชื่นชมความสง่างามอย่างใกล้ชิด และได้สัมผัสกับความรู้สึกของความเยือกเย็นสุขสงบ ความปลาบปลื้มปีติอย่างน่าอัศจรรย์ ยิ่งนัก

    ตามตำนานระบุว่า ผู้สร้าง "พระพุทธชินราช" คือ พระเจ้าศรีธรรมไตรปิฎก เจ้านครเชียงแสน ซึ่งแผ่อำนาจมาจนถึงนครศรีสัชนาลัย แล้วเสด็จลงมาตั้งเมืองพิษณุโลก เพื่อให้เจ้าไกรสรราช พระราชโอรสอันเป็นพระราชนัดดาของเจ้านครศรีสัชนาลัยอยู่ครอง

    พระเจ้าศรีธรรมไตรปิฎกทรงสร้างวัดมหาธาตุและพระวิหารใหญ่ วิหารทิศขึ้น แล้วทรงหล่อพระพุทธรูปขึ้น 3 องค์ คือ พระพุทธชินราช พระพุทธชินสีห์ และพระศาสดา เมื่อวันพฤหัสบดี เพ็ญเดือน 4 ปีจอ พุทธศักราช 1499 เสร็จพร้อมกัน 2 องค์ คือ พระศรีศาสดาและพระพุทธชินสีห์ ส่วนพระพุทธ ชินราชนั้นหล่อไม่สำเร็จเพราะทองไม่เดินตามปกติ ในปีต่อมาจึงให้ช่างปั้นหุ่นพระพุทธชินราชใหม่ และหล่อได้สำเร็จในปีพ.ศ. 1500 เมื่อหล่อพระพุทธรูปทั้ง 3 องค์เสร็จสิ้น ปรากฏว่าทองที่ใช้ในการหล่อครั้งนี้ยังเหลืออยู่ จึงได้ให้ช่างเอาเศษทองที่เหลือหล่อเป็นพระพุทธรูปองค์เล็กอีกหนึ่งองค์ เรียกชื่อว่า "พระเหลือ" แล้วอัญเชิญทั้งหมดประดิษฐานที่วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ

    ใน "พระราชพงศาวดารเหนือ" ที่ พระวิเชียรปรีชา (น้อย) รวบรวมขึ้นในสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก ก็ได้กล่าวถึงการหล่อพระพุทธรูปทั้ง 3 องค์เช่นกัน ความว่า

    "...ครั้นได้ฤกษ์ดีจึงเอาพิมพ์เข้าเตา วันเธอหล่อนั้นวันพฤหัสบดี เพ็ญเดือนสี่ ปีจอ ชุมนุมพระสงฆ์ทั้งหลาย มีพระอุบาลี และพระศิริมานนท์เป็นประธาน และพระสงฆ์เจ้าทั้งหลาย หล่อให้พร้อมกันทั้งสามรูป แลรูปพระศรีศาสดา พระชินสีห์ทั้งสองพระองค์นั้นทองแล่นเสมอกันบริบูรณ์ ยังแต่พระพุทธชินราชเจ้านั้นมิได้เป็นองค์เป็นรูป จนพระอินทร์ต้องเนรมิตกายเป็น "ตาปะขาว" มาช่วยหล่อจึงสำเร็จ..."

    พระมหากษัตริย์ไทยและเชื้อพระวงศ์แทบทุกสมัยจนถึงปัจจุบัน ต้องเสด็จฯ ไปกราบไหว้นมัสการพระพุทธชินราช ที่จ.พิษณุโลก และต่างทรงชื่นชมในความสง่างามเกิดความเคารพศรัทธาเลื่อมใส บ้างก็นำมาเขียนเป็นพระราชนิพนธ์และพระนิพนธ์ต่างๆ มากมาย อาทิ

    พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 เมื่อครั้งเสด็จฯ เมืองพิษณุโลก ได้มีพระราชหัตถเลขา บันทึกถึงองค์พระพุทธชินราชไว้ว่า

    "...พระพุทธชินราช พระพุทธชินสีห์ พระศรีศาสดา 3 พระองค์นี้ เป็นพระพุทธปฏิมากรดีล้ำเลิศ ประกอบด้วยพุทธลักษณะอันประเสริฐ มีศิริอันเทพยดาหากอภิบาลรักษาย่อมเป็นที่สักการบูชานับถือมาแต่โบราณ แม้พระเจ้าแผ่นดินกรุงศรีอยุธยาที่ได้มีพระเดชานุภาพมโหฬาร ปรากฏมาในแผ่นดินก็ทรงนับถือทำสักการบูชามาหลายพระองค์...จะหาพระพุทธรูปองค์ใดงามเสมอพระพุทธชินราชนั้นไม่มีแล้ว..."

    พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 ก็ทรงพระราชนิพนธ์ชื่นชมพระพุทธชินราชไว้ในหนังสือ "เที่ยวเมืองพระร่วง" ว่า

    "ตั้งแต่ข้าพเจ้าได้เห็นพระพุทธมานักแล้ว ไม่เคยรู้สึกว่าดูปลื้มใจจำเริญตาเท่าพระพุทธชินราชเลย ที่ตั้งอยู่นั้นก็เหมาะนักหนา ว่าวิหารเหมาะ พอเหมาะกับพระ มีที่ดูได้ถนัด และองค์พระก็ตั้งต่ำพอดูได้ตลอดองค์ ไม่ต้องเข้าไปดูจนจ่อเกินไป และไม่ต้องแหงนคอตั้งบ่าแลดูแต่พระนาสิกพระ ยิ่งพิศไปยิ่งรู้สึกยินดีว่า ไม่เชิญลงมาเสียจากที่นั่น ถ้าพระพุทธชินราชยังคงอยู่ที่พิษณุโลกตราบใด เมืองพิษณุโลกจะเป็นเมืองที่ควรไปเที่ยวอยู่ตราบนั้น ถึงในเมืองพิษณุโลกจะไม่มีชิ้นอะไรเหลืออีกเลย ขอให้มีแต่พระพุทธชินราชเหลืออยู่แล้ว ยังคงจะอวดได้อยู่แล้ว ยังคงจะอวดได้อยู่เสมอว่ามีของควรคู่ควรชมอย่างยิ่งอย่างหนึ่งในเมืองเหนือหรือจะว่าในเมืองไทยทั้งหมดก็ได้..."

    ไม่ว่าผู้ใดที่ได้ไปกราบนมัสการ ต้องเกิดความศรัทธาเลื่อมใสในความงดงาม ความสง่างาม และความสำคัญขององค์พระพุทธชินราช จนเป็นที่กล่าวขวัญกันมาทุกยุคทุกสมัย และได้รับความนิยมอัญเชิญไปจำลองในรูปแบบของพระเครื่องและเหรียญต่างๆ มากแบบมากชนิดที่สุดทีเดียวเชียวครับผม

    • Update : 18/2/2555
    © Copyright 2011 www.watnongmuang.com All rights reserved 999arch