หน้าแรก สมาชิก รายการวัตถุมงคล ตะกร้าวัตถุมงคล วิธีชำระวัตถุมงคล วิธีบูชาวัตถุมงคล ประวัติวัด ติดต่อวัด เว็บบอร์ด
สมาชิก Log in
อีเมล์
รหัสผ่าน
สมัครสมาชิกใหม่
ลืมรหัสผ่าน
















ค้นหาวัตถุมงคล
 
 
 
หมวดวัตถุมงคล
  เครื่องราง พระอาจารย์ป้อม
  พระเครื่อง พระอาจารย์ป้อม
  พระเครื่อง หลวงพ่อสวัสดิ์
  พระเครื่อง หลวงปู่พิมพ์มาลัย
  พระเครื่อง หลวงพ่อสง่า
วัตถุมงคลของคุณ
รหัสวัตถุมงคล ราคา จำนวน
ยังไม่มีวัตถุมงคลอยู่ในตะกร้า
  • ชำระค่าวัตถุมงคล
  • แก้ไขรายการวัตถุมงคล
  • วิธีสั่งบูชาวัตถุมงคล
  •  

    น้ำไหนๆก็สู้น้ำใจไม่ได้
    น้ำไหนๆก็สู้น้ำใจไม่ได้

    หน้าต่างศาสนา


    ในสถานการณ์มหาอุทกภัยที่ชาวไทยประสบ ช่วยสร้างบทเรียนสำคัญหลายเรื่อง

    เราอาจมองเรื่องน้ำใจได้สองอย่าง คือ หนึ่ง น้ำที่มีหัวใจ เพราะโดยปกติน้ำจะไม่มีจิตใจ ไม่สามารถบังคับตัวเองให้ไหลไปตามที่ต้องการได้ ต้องไหลไปสู่ที่ต่ำเสมอ แต่พอมีมนุษย์ที่มีจิตใจอาศัยน้ำทำมาหากินจึงบังคับน้ำให้เป็นไปอย่างที่ตนต้องการ สร้างเป็นคลองให้น้ำไหลกลายเป็นชลประทาน หรือทำให้น้ำสะอาดเหมาะแก่การกินและการดื่ม

    สอง ใจที่มีน้ำ จะชุ่มฉ่ำเย็นสบาย ลองสังเกตต้นไม้ที่ไม่ได้รดน้ำจะเหี่ยวแห้ง เหมือนใจที่ไร้ธรรมะมีแต่จะเหือดแห้ง จึงต้องมีธรรมะที่มีลักษณะเดียวกับน้ำคือชุ่มฉ่ำเย็นสบายช่วยเยียวยาใจยามประสบกับความทุกข์

    ดังนั้น น้ำไหลไปสู่ที่ต่ำและทำลายทุกอย่าง แต่พอมนุษย์ที่มีจิตใจช่วยชักนำก็ทำให้น้ำมีประโยชน์และมีคุณค่ามากขึ้น

    ..น้ำเหินห่างว่างเว้นจากใจก็ไร้ค่าและใจก็ห่างจากน้ำ สารพันปัญหาจะติดตามมาไม่จบสิ้น...

    มีวันหนึ่งพระวิทยากรโครงการธรรมะเยียวยาใจได้เดินทางไปเยี่ยมญาติโยมที่วัดสว่าง จ.นนทบุรี ซึ่งอาศัยศาลาวัดเป็นบ้านพักพิง

    มีโยมอุบาสิกาท่านหนึ่งได้เล่าให้ฟังถึงความประทับใจที่เกิดขึ้นว่า "ไม่รู้จักใครมาก่อน แต่วันหนึ่งก็รู้ซึ้งน้ำใจของคนแปลกหน้า วันนั้นโยมเป็นลมและชัก เพราะตั้งแต่มาอยู่ที่นี่นอนไม่ค่อยหลับ กินอะไรก็ไม่ค่อยได้ อีกทั้งมีโรคประจำตัวอยู่ด้วย แต่วันนั้นคนที่ไม่คุ้นหน้าได้ช่วยนำโยมส่งโรงพยาบาล"

    โยมเล่าพร้อมกับเอ่ยชื่อและชี้มือไปทางหญิงคนหนึ่งที่อุ้มลูกอยู่ในมือแล้วเล่าต่อ "ถ้าไม่มีคุณคนนี้คิดไม่ออกว่าตัวเองจะเป็นอย่างไร ขอขอบคุณอีกครั้ง" เสียงตบมือดังมาโดยไม่มีใครให้สัญญาณ กลายเป็นความประทับใจจากน้ำใจของคนที่ตกทุกข์ด้วยกัน

    พระวิทยากรถามต่อ "แล้วถ้าคุณโยมขับรถมาด้วยความเร็ว ข้างซ้ายเป็นหญิงท้องแก่ ข้างขวาเป็นพระ โยมจะตัดสินใจเหยียบใคร" ทั้งศาลาเงียบไปสักพัก ก่อนจะได้ยินเสียงแว่วๆ ดังขึ้นว่า "เหยียบพระ" เปลี่ยนบรรยากาศตรงนั้นให้สดชื่นอีกครั้งด้วยเสียงหัวเราะ "ทำไมโยมไม่เหยียบเบรกลˆะ"

    พระวิทยากรเฉลย "นี่ละเราจะมีน้ำใจหรือยังมีธรรมะในใจได้ก็เพราะอาศัยสติ เพราะหากขาดสติแล้วไม่ว่าจะพูดหรือทำอะไรก็ยิ่งทำให้แย่กว่าเดิมทั้งนั้น จำไว้ว่า สติมา ปัญญาเกิด สติเตลิด จะเกิดปัญหา เจริญพร"



    • Update : 24/12/2554
    © Copyright 2011 www.watnongmuang.com All rights reserved 999arch