|
|
โครงการธรรมะเยียวยา ฟื้นฟูจิตใจเหยื่อน้ำท่วม
|
จากการที่เกิดอุทกภัยอย่างรุนแรงในประเทศไทย ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค.เป็นต้นมา ประชาชนจำนวนมากที่ประสบภัยต้องอพยพไปอาศัยยังศูนย์พักพิงต่างๆ ที่หน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนร่วมกันจัดทำขึ้น
ในจำนวนนี้มีศูนย์ที่ตั้งอยู่ภายในวัดถึง 225 แห่ง ซึ่งวัดจำนวนไม่น้อยที่จัดตั้งศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบภัย กลายเป็นวัดที่ได้รับภัยจากน้ำ ท่วมเอง
นายนพรัตน์ เบญจวัฒนานนท์ ผอ.สำนัก งานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ กล่าวถึงการช่วยเหลือของศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบภัยในวัด ว่า เริ่มมีความชัดเจนและเป็นระบบ เนื่องจากมีเครือข่ายของคณะสงฆ์ในนามศูนย์ช่วยเหลือวัดและผู้ประสบภัยน้ำท่วมและคณะสงฆ์ในอุปถัมภ์ของสมเด็จพระพุฒาจารย์ ให้การดูแลการรับบริจาคและลำเลียงสิ่งของช่วยเหลือผู้ประสบภัยและวัดอยู่
"สิ่งที่รัฐบาลเป็นห่วงคือสภาพจิตของผู้ประสบภัย จากการสำรวจของสำนักงานพระ พุทธศาสนาแห่งชาติ พบว่าผู้ประสบภัยที่พักอยู่ในศูนย์พักพิงต่างๆ กำลังอยู่ในภาวะเครียด ท้อแท้ จนหลายคนหมดกำลังใจในการใช้ชีวิต รัฐบาลจึงได้มอบหมายให้สำนักงานพระพุทธฯ ประสานคณะสงฆ์จัดทำโครงการเพื่อเยียวยารักษาสุขภาพจิตของผู้ประสบภัย เพื่อสร้างขวัญและกำลังใจ ให้พร้อมดำเนินชีวิตต่อไปหลังน้ำลด" นายนพรัตน์ระบุ
โครงการธรรมะเยียวยาใจผู้ประสบภัยน้ำท่วมเป็นความร่วมมือระหว่างสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ กับสำนักงานส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรม และความมั่นคงแห่งสถาบันกับชาติ พระศาสนา พระมหากษัตริย์ วัดสระเกศ ตามมติมหาเถรสมาคมวันที่ 20 ต.ค.2554 ที่มอบหมายให้สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติรับผิดชอบ
พระปัญญาวชิราภรณ์ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสระเกศ ในฐานะผู้รับผิดชอบโครงการ กล่าวว่า ขณะนี้มีพระวิทยากรอาสาของคณะสงฆ์จากทั่วประเทศ รวมทั้งพื้นที่ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ อาสาเข้าร่วมโครงการนี้ เพื่อลงพื้นที่เยี่ยมเยียนผู้ประสบภัยที่พักตามศูนย์ต่างๆ โดยเริ่มต้นจาก 225 ศูนย์พักพิงในวัด เพื่อจัดทำกระบวนการธรรมะปรึกษาเยียวยาจิตใจ ผ่านกิจกรรมทางพุทธศาสนา เช่น การสวดมนต์ เจริญภาวนา และการใช้กระบวนการจิตวิทยา การให้คำปรึกษาแบบกลุ่มตามแนว ทางพุทธจิตวิทยา เพื่อให้ผู้ประสบภัยได้คลายทุกข์ที่กำลังประสบเฉพาะหน้ารวมทั้งสร้างเสริมกำลังใจในการดำเนินชีวิตต่อไป
"พระวิทยากรเป็นผู้ที่ผ่านการฝึกอบรมด้านพุทธจิตวิทยาและจิตวิทยาการให้คำปรึกษามา จึงมีความสามารถและให้คำปรึกษาเพื่อหาทางออกในชีวิตในยามที่หมดหวังได้เป็นอย่างดี เมื่อมีหลักยึดและทางเดินที่ถูกต้องจะทำให้ทุกคนสามารถก้าวพ้นช่วงเวลานี้ไปได้" พระปัญญาวชิราภรณ์กล่าว
ด้าน น.พ.สุรวิทย์ คนสมบูรณ์ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะกำกับดูแลสำนักงานพระพุทธฯ กล่าวว่า เป็นโครงการที่อยู่ในแผนการช่วยเหลือผู้ประสบภัยระยะที่ 2 ตามแนวทางในนโยบายการช่วยเหลือของรัฐบาล ซึ่งแบ่งเป็น 4 แผน คือ 1.แผนเยียวยาเฉพาะหน้า ได้แก่การเร่งจัดหาศูนย์พักพิงสิ่งของอุปโภคเพื่อให้ประชาชนยังชีพอยู่ได้ในขณะที่บ้านยังถูกน้ำท่วม 2.การฟื้นฟูจิตใจเพื่อเยียวยาความทุกข์และสร้างขวัญและกำลังใจ 3.การฟื้นฟูที่พักอาศัย, วัด และชุมชนหลังน้ำลด และ 4.การบูรณะระยะยาว รวมถึงการป้องกันและการจัดทำแผนป้องกันน้ำท่วมระยะยาว
"รัฐบาลมองเห็นว่าคณะสงฆ์เป็นผู้ที่มีศักยภาพในการสนับสนุนภารกิจดูแลจิตใจให้กับผู้ประสบภัย จึงประสานขอให้มหาเถรสมาคมและสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติสนับสนุนงานในส่วนนี้ โดยรัฐบาลได้จัดสรรงบประมาณไว้ให้จำนวนประมาณ 5 ล้านบาท"
กิจกรรมโครงการธรรมะเยียวยาใจผู้ประสบภัยน้ำท่วมได้เริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการ โดยคณะพระวิทยากรชุดแรกจำนวน 6 รูป ได้ลงพื้นที่ปฏิบัติการที่วัดรังสิต ต.คลองหก อ.เมือง จ.ปทุมธานี ซึ่งจะดำเนินการต่อเนื่องไปจนถึงวันที่ 24 พ.ย. 2554 ศูนย์พักพิงผู้ประสบภัยแห่งใดมีความประสงค์จะเข้าร่วมโครงการเพื่อให้พระวิทยากรได้ลงพื้นที่ติดต่อโดยตรงที่พระวิจิตรธรรมภรณ์ วัดสระเกศ โทร.08-9788-8788
"กิจกรรมธรรมะเยียวยาใจจะดำเนินการควบคู่ไปกับการแจกถุงยังชีพ และเครื่องอุปโภคบริโภคให้กับประชาชนของคณะสงฆ์ และเมื่อกิจกรรมนี้ลงตัวแผนระยะที่ 3 ในการฟื้นฟูที่อยู่อาศัย, วัด และชุมชนหลังน้ำลด ก็จะเริ่มดำเนินการต่อไป
|
Update : 13/11/2554
|
|