|
|
ปัสสาวะถี่เกินพิกัดระวังช้ำรั่ว
แม้ไม่ได้ดื่มน้ำ แต่ปวดปัสสาวะถี่ อั้นไม่ได้ ฉี่ราด ส่อเค้าช้ำรั่ว อาจเกิดจากสาเหตุที่ไม่น่าจะเกี่ยวกัน
การปัสสาวะที่ถี่เกินไป อย่าวางใจว่าเป็นเรื่องธรรมดา เพราะนั่นเป็นหนึ่งในอาการของภาวะช้ำรั่ว หรือชื่อโรคอย่างเป็นทางการเรียกว่า Overactive Bladder โดยอาการสำคัญของโรคนี้ประกอบด้วย การปัสสาวะเกิน 8 ครั้งต่อวัน ในเวลากลางคืนก็ยังต้องตื่นขึ้นไปปัสสาวะมากกว่า 2 ครั้ง
แต่หากเป็นคนดื่มน้ำเยอะและชอบดื่มคราวละมากๆ อาจสังเกตอาการผิดปกติจากความถี่ในการปัสสาวะไม่ได้ เนื่องจากการดื่มน้ำมากอย่างที่กล่าวทำให้ปวดปัสสาวะบ่อยโดยอัตโนมัติ นอกจากนี้ยังพบอาการอั้นปัสสาวะไม่อยู่จนปัสสาวะราด!
แม้สาเหตุของโรคยังไม่ทราบแน่ชัด แต่ทางการแพทย์เชื่อว่าอาจเป็นผลมาจากความดันโลหิตสูงและหลอดเลือดแดงแข็ง เพราะการที่ความดันสูงหรือเลือดที่ต้องส่งไปเลี้ยงสมองผิดปกติจากโรคหลอดเลือด จะทำให้สมองสั่งการไปยังกระเพาะปัสสาวะแบบไม่สอดคล้องกัน เกิดการบีบตัวของกล้ามเนื้อกระเพาะปัสสาวะผิดจังหวะ
อีกทั้งยังทำให้กระเพาะปัสสาวะมีปฏิกิริยาไวต่อความรู้สึกจนอั้นไม่อยู่ เช่น ได้ยินเสียงน้ำไหลก็ปัสสาวะราด หรือเจออากาศเย็นๆ ก็ปวดปัสสาวะขึ้นมาทันที
ช้ำรั่ว เกิดได้กับผู้ที่มีอายุระหว่าง 18-80 ปี โดยเริ่มพบมากในวัย 40 ปีขึ้นไป ทั้งนี้คนที่ป่วยเป็นโรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบ และมีน้ำหนักตัวเกินจะมีโอกาสเสี่ยงเป็นช้ำรั่วได้ง่าย ขณะที่ผู้ป่วยเพศชายจะมีอาการไม่ชัดเจนเท่าเพศหญิง เนื่องจากผู้ชายมีท่อปัสสาวะที่ยาวกว่าทำให้อั้นปัสสาวะได้นานกว่า
การรักษาอาการช้ำรั่ว แพทย์มักแนะนำให้ขมิบก้น 2 แบบด้วยกัน คือ ขมิบข้างไว้ นับ 1-5 แล้วจึงคลาย จากนั้นขมิบอีกแบบ โดยขมิบและนับ 1 แล้วคลายก้น ทำซ้ำแบบที่ 2 ไป 5 ครั้ง รวมการขมิบทั้ง 2 แบบ นับเป็น 1 รอบ และควรทำให้ได้ 40-50 ครั้งต่อวันด้วย.
ทีมเดลินิวส์ออนไลน์
[email protected]
|
Update : 24/10/2554
|
|