เสถียรธรรมสถาน ขอเชิญชวนคนไทยทั้งประเทศร่วมส่งรอยยิ้มที่เกิดจากการใช้ชีวิตอย่างเศรษฐกิจพอเพียง ด้วยความสุข 3 ขั้น อันได้แก่ สุขง่ายใช้น้อย สุขเมื่อสร้าง และสุขเมื่อให้ จนเกิดเป็นรอยยิ้มแห่งความสุข เพราะการมีวิถีชีวิตแห่งการก้าวย่างอยู่อย่างพอประมาณ พอดี เพื่อร่วมเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 7 รอบ 84 พรรษาในวันที่ 5 ธันวาคม 2554
   
โดยเมื่อวันอาทิตย์ที่ 9 ตุลาคม พ.ศ. 2554 ที่ผ่านมา แม่ชีศันสนีย์ เสถียรสุต นายวีระ ศรีวัฒนตระกูล ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และเจนี่ เทียนโพธิ์สุวรรณ ได้ร่วมลงนามถวายพระพรพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยการถ่ายรูปรอยยิ้มของตัวเองและเขียนคำถวายพระพรลงบนจอทัชสกรีนซึ่งเป็นเทคนิคใหม่ของการสื่อสารในโลกออนไลน์ ซึ่งโครงการนี้ได้รับความร่วมมือจาก หลายภาคีเครือข่ายทั้ง กองบังคับการปราบปราม กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ มูลนิธิหนังสือเพื่อเด็ก ข้าราชการศาลยุติธรรม กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงวัฒนธรรม สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ทั้งนี้ แม่ชีศันสนีย์ ได้กล่าวถึงที่มาของโครงการดังนี้    
   
ก้าวย่างแรก ของโครงการ Share Smiles for His Majesty ยิ้มของลูก คือ รอยยิ้มของพ่อ เริ่มขึ้นเมื่อวันศุกร์ที่ 9 เดือน 9 โดยประกาศชวนพี่น้องพสกนิกรชาวไทยที่เป็น fan page ของเสถียรธรรมสถาน ที่มีความจงรักภักดีต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ร่วมกันส่งรอยยิ้มแห่งความจงรักภักดี เพื่อทำให้เกิดพลังของการทำงานถวายแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 84 พรรษา โดยการตั้งคำถามว่า ตามพระปฐมบรมราชโองการของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก เมื่อวันศุกร์ที่ 5 พฤษภาคม พ.ศ. 2493 ว่า “เราจะครองแผ่นดินโดยธรรม เพื่อประโยชน์สุขแห่งมหาชนชาวสยาม” นั้น ถ้าคุณมั่นใจว่าคุณเป็นหนึ่งในมหาชนชาวสยามที่มีความสุขแล้วจากการทรงงานอย่างหนักกว่า 60 ปีของพระองค์ท่าน

ขอให้ร่วมกันส่งรอยยิ้มแห่งความสุขเพื่อถวายความจงรักภักดีมายัง www.face book.com/sdsface จากจุดเริ่มต้นของการทำงานอย่างพึ่งพาตนเองโดยไม่ต้องใช้งบประมาณ หรือใช้น้อยที่สุด ทำให้เราหันมาใช้อุปกรณ์หรือเครื่องมือสื่อสารง่าย ๆ ที่ทำให้เกิดการเรียนรู้ที่จะทำงานมากที่สุด
   
บทพิสูจน์ของคำพูดนี้คือ ทันทีที่ภาพรอยยิ้มแห่งความจงรักภักดีเผยแพร่ออกไปพร้อม ๆ กับการเชิญชวนให้คนไทยส่งรูป ยิ้มที่เป็นอิสระเพราะมีความสุขที่พึ่งพาตัวเองได้ มาร่วมแชร์ในโครงการ รูปที่ส่งเข้ามามีมากขึ้นเรื่อย ๆ จาก..นับร้อย...สู่...นับพัน จนขยายเป็นเครือข่ายจากทุกภาคีที่สนใจเข้าร่วมโครงการ ทั้งจากกองบังคับการปราบปราม กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ มูลนิธิหนังสือเพื่อเด็ก ข้าราชการศาลยุติธรรม กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงวัฒนธรรม สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) เป็นต้น
   
ก้าวย่างที่สอง การจัดแสดงภาพรอยยิ้มนับหมื่นจากพสกนิกรที่มีความจงรักภักดีทั่วประเทศ ที่ถูกนำมา เรียงร้อยต่อกันเป็นจิ๊กซอว์บนภาพพระบรมฉายาลักษณ์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จย่า ที่ไม่ค่อยเห็นปรากฏต่อสาธารณะ นอกจากการแสดงภาพพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จย่าแล้วยังมีการแจ้งเกิดการ สร้างสรรค์งานธรรมโฆษณา สำหรับผู้ที่สนใจเป็นผู้กำกับฯ รุ่นใหม่ที่พร้อมเตรียมตัวแจ้งเกิดกับเวทีภาพยนตร์ธรรมโฆษณา มีถ้วยพระราชทาน พร้อมทุนการศึกษาในห้วข้อ “Share Smiles for His Majesty” ยิ้มของลูก คือรอยยิ้มของพ่อ แบ่งเป็น ถ้วยพระราชทาน สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิราลงกรณ สยามมกุฎราชกุมาร ในประเภทประชาชนทั่วไป (100,000 บาท), ถ้วยพระราชทาน พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายาในสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ ในประเภทอุดมศึกษา (ทุนการศึกษา 70,000 บาท) และ ถ้วยพระราชทาน พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าทีปังกรรัศมีโชติ ในประเภท มัธยมศึกษา (ทุนการศึกษา 50,000 บาท) พร้อมพระอารยตารามหาโพธิสัตว์หยกอันงดงาม มูลค่า 100,000 บาท หมดเขตส่งผลงาน 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 สนใจรายละเอียดและดาวน์โหลดใบสมัครได้ที่ www.sdsweb.org และทุกชิ้นงานที่ส่งเข้ามาแจ้งเกิดจะได้รับ “พระอารยตารามหาโพธิสัตว์” ผลงานที่ได้รางวัลชนะเลิศจะเผยแพร่สู่สาธารณชน กำหนดตัดสินผลงานวันที่ 21-23 พฤศจิกายน 2554 และประกาศผลวันที่ 25 พฤศจิกายนศกนี้
   
ในการทำงานครั้งนี้ผู้ที่จะเป็นก้าวย่างแห่งปัญญา ออกไปสร้างพลังบวกให้กับสังคมคือ เหล่าเยาวชนของค่าย SOS ครั้งที่ 9 ก้าวย่างแห่งปัญญา สร้างศรัทธา สร้างรอยยิ้มถวายพ่อ ซึ่งเปิดค่ายไปแล้วเมื่อวันที่ 9 ตุลาคม 2554 โดยมีเด็กมัธยมศึกษาจาก 50 โรงเรียนทั่วประเทศและนิสิตนักศึกษาจาก 9 มหาวิทยาลัยมารวมตัวกันที่เสถียรธรรมสถาน ตั้งแต่วันที่ 9-21 ตุลาคม 2554 ซึ่งเยาวชนทั้งหมดนี้ได้มีโอกาสที่จะ Share Smiles และชวนกันทำหนังธรรมโฆษณา Share Smiles ยิ้มของลูก คือรอยยิ้มของพ่อ เพื่อให้งานนี้กว้างขวางออกไปยังคนอีกรุ่นหนึ่ง ซึ่งเมื่อเยาวชนได้เรียนรู้เรื่องธรรมะ และวิถีชีวิตจากผู้คนในชุมชนตามแนวทางเศรษฐกิจพอเพียง พวกเขาก็จะสื่อสารเรื่องราวของรอยยิ้มแห่งการพึ่งพาตนเองผ่านศิลปะการทำหนังสั้นและหนังโฆษณา ทำให้การทำสื่อธรรมนิเทศสร้างให้เกิดการสร้างปาฏิหาริย์แห่งการตื่นให้กับสังคมได้
   
และในวันปิดค่าย 21 ตุลาคม 2554 เป็นวันคล้ายวันพระราชสมภพของสมเด็จย่า 111 ปี พระผู้อยู่เบื้องหลังการบ่มเพาะเมล็ดพันธุ์แห่งปัญญาในพระโอรส “ไม่มีวันเกิดของแม่...ก็ไม่มีวันเกิดของลูก วันเกิดของแม่...จึงคือวันเกิดของลูก” 84 พรรษาของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในปีนี้ จึงปฏิเสธไม่ได้ที่จะทำให้เราหวนกลับไประลึกถึงคุณูปการของสมเด็จย่าที่ทรงมีต่อพสกนิกรชาวไทย การแสดงภาพประวัติศาสตร์ที่มีหนึ่งรอยยิ้มเท่ากับหนึ่งชิ้นจิ๊กซอว์ หมื่นรอยยิ้มจึงคือหมื่นชิ้นจิ๊กซอว์ที่จะค่อย ๆ ประกอบกันขึ้นเป็นพระบรมฉายาลักษณ์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จย่า เพื่อเป็นปฐมฤกษ์ จึงเป็นภาพที่บอกได้ดีถึง หัวใจผู้หญิง หัวใจแม่ หัวใจโพธิสัตว์ ของสมเด็จย่า และภาพประวัติศาสตร์ 99 ภาพนี้จะค่อย ๆ ปรากฏตามมา กระทั่งถึงวันที่ 9 ธันวาคม รวมภาพทั้งสิ้น 99 ภาพ ซึ่งภาพเหล่านี้ที่จะรวมรอยยิ้มของลูกนับล้านคน เป็นภาพที่ล้วนแล้วแต่เป็นพระบรมฉายาลักษณ์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่หากได้ยลแล้วคงไม่สงสัยในสิ่งที่สมเด็จย่าทรงรับสั่งว่า
   
“อันที่จริงเธอก็ชื่อ ภูมิพล ก็แปลว่า กำลังของแผ่นดิน แม่อยากให้เธออยู่กับดิน”และพระราชปรารภของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่มีต่อรับสั่งของสมเด็จพระบรมราชชนนีว่า
   
“เมื่อฟังคำพูดนี้แล้วก็กลับมาคิด ซึ่งแม่ก็คงจะสอนเรา และมีจุดมุ่งหมายว่าอยากให้เราติดดิน และอยากให้ทำงานให้แก่ประชาชน”
   
ขอให้เราทุกคนตระหนักรู้ในความมีบุญของตนที่มีพระมหากษัตริย์ที่ทรงครองแผ่นดินด้วยทศพิธราชธรรม และหันมาสมัครสมานสามัคคีในการใช้องค์ความรู้ที่พระองค์ท่านทรงริเริ่มเพื่อช่วยพสกนิกรชาวไทยให้อยู่เย็นเป็นสุข ด้วย เศรษฐกิจ พอเพียง สุขง่ายจากการใช้น้อย สุขเมื่อสร้าง สุขเมื่อให้ มาเป็นวิถีชีวิตของเราอย่างพร้อมหน้า เพื่อให้ ‘พ่อ’ ภูมิใจว่า ทุกหยาดแห่งพระเสโทที่ไหล...คนไทยตระหนักรู้ในคุณค่า และพร้อมจะสืบสานงานของพ่อ พ่อเหนื่อยมาหนักหนานักแล้วกับการทำให้ ‘ลูก’ คือ ‘พสกนิกรชาวไทย’ มีความสุข สมดังที่ท่านเจ้าคุณอาจารย์พุทธทาสภิกขุเคยกล่าวเกี่ยวกับคำว่า ‘พระราชา’ ไว้ว่า พระราชาคือผู้ที่ทำความยินดีพอใจให้เกิดแก่ผู้อื่น…
   
ในช่วงชีวิตของคนทุกคนนั้นปฏิเสธไม่ได้ว่า คงต้องมีความอึดอัดคับข้องใจจรเข้ามาบ้าง ยิ่งลงมือทำมาก ความอึดอัดคับข้องก็ยิ่งมากเป็นเงาตามตัว จากนี้ทุกครั้งที่ความอึดอัดคับข้องใจปรากฏ ขอให้เรากลับไปนึกถึง ‘พ่อ’ ที่ทำงานอย่างเหนื่อยหนักมาแสนนาน…โดยไม่เคยปริปากและไม่เคยต้องการของกำนัลใดตอบแทน นอกจากยิ้มอันเกิดจากความสุขของ ‘ลูก’ ของ ‘พสกนิกร’ ทุกคนของพระองค์ ไม่ว่าคุณจะเป็นใคร เพศใด วัยใด ชนชั้นวรรณะใด
   
ขอเชิญส่งภาพรอยยิ้มของคุณ บุคคลที่คุณรัก ตลอดจนบุคคลที่อยู่รายรอบคุณ หรือในชุมชนของคุณมาที่ www.facebook.com/sdsface เพื่อเป็นหนึ่งในรอยยิ้มบนภาพอันเป็นประวัติศาสตร์ร่วมกันของเหล่าพสกนิกรไทยที่จงรักภักดีต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว แล้วยิ้มเล็ก ๆ จะรวมตัวกันเป็นรอยยิ้มที่สดใสในใจพ่อ
   
...เตรียมพบกับก้าวย่างต่อไป ก้าวย่างที่สามที่เป็น ก้าวย่างแห่งปัญญา สร้างศรัทธา สร้างรอยยิ้มถวายพ่อ ในวันที่ 9 พฤศจิกายน 2554 ที่จะถึงนี้.

“การแสดงภาพประวัติศาสตร์ที่มีหนึ่งรอยยิ้มเท่ากับหนึ่งชิ้นจิ๊กซอว์ หมื่นรอยยิ้มจึงคือหมื่นชิ้นจิ๊กซอว์ที่จะค่อย ๆ ประกอบกันขึ้นเป็นพระบรมฉายา ลักษณ์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จย่า เพื่อเป็นปฐมฤกษ์ จึงเป็นภาพที่บอกได้ดีถึง หัวใจผู้หญิง หัวใจแม่ หัวใจโพธิสัตว์ ของสมเด็จย่า และภาพประวัติศาสตร์ 99 ภาพนี้จะค่อย ๆ ปรากฏตามมา กระทั่งถึงวันที่ 9 ธันวาคม รวมภาพทั้งสิ้น 99 ภาพ”

ทีมวาไรตี้