แสตมป์ 2 ดวงตามที่นำมาตีพิมพ์ให้ชมนี้เป็นส่วนหนึ่งที่ทางสมาคมนักสะสมตราไปรษณียากรแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี (ส.ต.ท.) ร่วมกับบริษัทไปรษณีย์ไทย จำกัด จัดงานแสดงตราไปรษณียากรสามชาติขึ้น ระหว่างวันเสาร์ที่ 22 และวันอาทิตย์ที่ 23 ตุลาคม 2554 ณ ศูนย์ประชุมนานาชาติโรงแรมเชียงใหม่แกรนด์วิว จังหวัดเชียงใหม่ เนื่องในโอกาสครบรอบ 36 ปี ส.ต.ท. และเนื่องในโอกาสที่ ส.ต.ท. ได้รับพระกรุณาธิคุณจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงรับสมาคมฯ ไว้ในพระราชูปถัมภ์เมื่อวันที่ 4 ธันวาคม 2552
ในงานนี้จะมีการประมูลแสตมป์และสิ่งสะสมอื่น ๆ จัดโดยบริษัทเอื้อเสรีคอลเลคติ้งจำกัด สิ่งของมีมูลค่ากว่า 20 ล้านบาทโดยจะนำสิ่งของที่จะประมูลให้ชมในวันเสาร์ที่ 20 ตุลาคม ระหว่างเวลา 09.00–18.00 น.และในวันอาทิตย์ระหว่างเวลา 09.00-12.00 น. และบริษัทจะจัดผู้เชี่ยวชาญมาตรวจสอบและประเมินราคาสินค้าให้ฟรีในงานนี้ด้วย
การจัดงานแสดงตราไปรษณียากรสามชาติ เป็นงานประกวดแสตมป์ระดับนานาชาติที่รับรองโดยสหพันธ์ตราไปรษณียากรภาคพื้นเอเชีย (F.I.A.P.) โดยมีการเชิญประเทศเพื่อนบ้าน คือ ประเทศมาเลเซีย และประเทศสิงคโปร์ ส่งสิ่งสะสมเข้าร่วมประกวดและผลัดเวียนกันเป็นประเทศเจ้าภาพในการจัดงาน ซึ่งประเทศไทยได้รับเกียรติให้เป็นประเทศเจ้าภาพจัดงานแสดงตราไปรษณียากรสามชาติขึ้นเป็นครั้งแรก และเป็นงานแสดงตราไปรษณียากรที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยจัดในต่างจังหวัด ในงานมีชุดประกวดและสิ่งสะสมที่นำมาแสดงมากกว่า 3,000 ชิ้น ประเมินมูลค่าสูงถึงกว่า 800 ล้านบาท และเนื่องจากการจัดงานแสดงตราไปรษณียากรสามชาติใช้หลักการและมาตรฐานการตัดสินของ F.I.A.P. จึงทำให้หัวข้อประกวดที่ได้รับรางวัลตั้งแต่ระดับเหรียญนากขึ้นไปในงานนี้มีสิทธิได้รับเลือกให้ผ่านเข้าไปประกวดในงานระดับเอเชียและระดับโลกได้ในโอกาสต่อไป
นอกจากจะมีการประกวดแสตมป์ในประเภทต่าง ๆ แล้ว ยังมีการชิงรางวัลเกียรติยศ โดยการลงคะแนนจากกรรมการตัดสินทั้งสามชาติเพื่อคัดเลือกรางวัลชุดประกวดที่ดีที่สุดของงาน หรือรางวัล “Grand Prix of the Exhibition” ซึ่งประเทศที่ได้รับรางวัลนี้จะได้รับถ้วยรางวัลเกียรติยศ ไปครอง 1 สมัย (จะต้องส่งมอบให้กับเจ้าภาพจัดงานในครั้งต่อไป) ส่วนนักสะสมที่ส่งชุดประกวดที่ชนะรางวัล จะได้รับรางวัลถ้วยเกียรติยศจำลองและรางวัลพิเศษไปครอบครอง
นอกเหนือไปจากการประกวดตราไปรษณียากรที่หาชมได้ยากของนักสะสมชั้นนำจากประเทศมาเลเซีย สิงคโปร์และไทยแล้ว ภายในงานยังมีการจัดแสดงสิ่งสะสมอื่น ๆ อีกมากมาย โดยมีจุดไฮไลต์ที่การจัดแสดงสิ่งสะสมส่วนพระองค์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี หัวข้อเรื่อง “สายน้ำแห่งชีวิต”
และเนื่องจากวันจัดงานตรงกับวันปิยมหาราช จึงได้จัดให้มีการนำสิ่งสะสมที่ล้ำค่ายิ่งในสมัยรัชกาลที่ 5 มาจัดแสดงสู่สาธารณชนเพื่อร่วมกันน้อมรำลึกถึงพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวมหาราชของปวงชนชาวไทย รายละเอียดของสิ่งจัดแสดงต่าง ๆ ในงานที่หาดูได้ยากยิ่ง มีดังนี้
สิ่งสะสมส่วนพระองค์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี หัวข้อเรื่อง “สายน้ำแห่งชีวิต” (WATER IS LIFE) จำนวน 5 แผงแสดง (80 แผ่น) เป็นการจัดแสดงเรื่องราวของการนำแหล่งน้ำธรรมชาติมาใช้ในการดำรงชีพตามแบบวิถีชีวิตของชาวไทย
สำหรับแสตมป์ที่จะนำออกประมูลในคราวนี้ ดวงสีเหลืองเป็นแสตมป์ในสมัยรัชกาลที่ 5 ระหว่าง ค.ศ. 1882-1885 หรือ พ.ศ. 2424-2428 เป็นแสตมป์ตัว “B” สำหรับสถานกงสุลอังกฤษใช้ในประเทศไทย ชนิดแก้ราคา “32 เซ็นต์และมงกุฎ” บนแสตมป์ 2 แอนนาของอีสอินเดีย พระพักตร์พระนางวิคตอเรีย หันซ้ายยังไม่ได้ใช้ มีกาวบางส่วน ลายน้ำหัวช้าง สภาพสมบูรณ์มาก มีไม่กี่ดวงที่มีสภาพเช่นนี้ สุดยอดความหายากมีใบรับรองจาก ส.ต.ท. 76/2011
แสตมป์ดวงนี้จะนำออกประมูลครั้งนี้ ตั้งราคาขั้นต้นไว้ 1 ล้านบาท
ส่วนแสตมป์อีกดวงเป็นแสตมป์สมัยรัชกาลที่ 5 พ.ศ. 2435 เป็นแสตมป์ชุดชั่วคราว 1 บน 3 อัฐยังไม่ได้ใช้ ไม่มีกาว ฟันทุกซีกสมบูรณ์ “1” เบิ้ลบาง ๆ เป็นแสตมป์ตัวแก้หลักที่หายากที่สุด มีใบรับรองจาก ส.ต.ท. 64/2011 ตั้งราคาประมูลไว้ที่ 250,000 บาท นับว่าสูงมาก
พบกันวันอาทิตย์หน้า.
สมเจตน์ วัฒนาธร