หน้าแรก สมาชิก รายการวัตถุมงคล ตะกร้าวัตถุมงคล วิธีชำระวัตถุมงคล วิธีบูชาวัตถุมงคล ประวัติวัด ติดต่อวัด เว็บบอร์ด
สมาชิก Log in
อีเมล์
รหัสผ่าน
สมัครสมาชิกใหม่
ลืมรหัสผ่าน
















ค้นหาวัตถุมงคล
 
 
 
หมวดวัตถุมงคล
  เครื่องราง พระอาจารย์ป้อม
  พระเครื่อง พระอาจารย์ป้อม
  พระเครื่อง หลวงพ่อสวัสดิ์
  พระเครื่อง หลวงปู่พิมพ์มาลัย
  พระเครื่อง หลวงพ่อสง่า
วัตถุมงคลของคุณ
รหัสวัตถุมงคล ราคา จำนวน
ยังไม่มีวัตถุมงคลอยู่ในตะกร้า
  • ชำระค่าวัตถุมงคล
  • แก้ไขรายการวัตถุมงคล
  • วิธีสั่งบูชาวัตถุมงคล
  •  

    สาธารณรัฐแอฟริกาใต้ เชิดชูแนวพระราชดำริ พ่อหลวงแห่งแผ่นดิน

    ในขณะที่คนไทยส่วนใหญ่กำลังช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมด้วยใจบริสุทธิ์ ต้องการลดทุกข์ให้กับเพื่อนร่วมชาติผู้พบกับปัญหาที่ไม่รู้ว่าจะจบเมื่อไหร่ด้วยสิ่งของเงินทองหรือหลาย ๆท่านฝ่าความยากลำบากเข้าไปเพื่อให้ความช่วยเหลือนั้นถึงมือของผู้ที่ต้องการจริง ๆ ก็มีกระแสข่าวมากมายหลายเรื่องที่น่าสะเทือนใจเป็นที่สุด แต่ละเรื่องล้วนแต่เป็นเรื่องที่เราสามารถเรียนรู้จากปรากฏการณ์เหล่านี้ได้ทั้งสิ้น
       
    การที่ มีคนจัดการแพ็กข้าวของบริจาคนั้นเสียใหม่ แล้วติดนามบัตรของตัวเองลงไปเพื่อจะบอกว่า นี่คือน้ำใจของตนเองในการช่วยผู้ประสบภัย...เรื่อง การเรี่ยไรบริจาคเงินเพื่อช่วยเหลือแต่ท้ายที่สุดก็อมเงินเอาไว้เอง และ....การกระทำแบบนี้ดีหรือไม่ดีท่านผู้อ่านคงประเมินได้..แต่ มันมีผลร้ายแรงยิ่งกว่าแค่เรื่องของการหวังผลเอาหน้า .. เพราะสิ่งนี้ทำให้คนไทยอีกจำนวนมาก (ที่มีน้ำใจบริสุทธิ์ที่จะช่วยเหลือ) เกิดความลังเลว่า ควรจะช่วยหรือไม่ควรจะช่วย เพราะหากว่าช่วยไปแล้วความช่วยเหลือของตนเองจะกลายเป็นเครื่องมือของผู้ไม่บริสุทธิ์ใจ เท่ากับเราเป็นส่วนหนึ่งของการเสริมสร้างความเลวร้ายให้กับสังคมหรือสังคมที่เน้นการสร้างหน้าสร้างตา  และทำให้ขบวนการเหล่านี้เติบโตขึ้นไปอีก
       
    สังเกตไหมครับว่า ระยะหลังคนไทย จะทำความดีอะไรเริ่มต้นมีความลังเล ไม่ใช่เพราะไม่อยากจะช่วยแต่เป็นเพราะกระแสสังคมในลักษณะนี้มันทำให้คนต้องฉุกคิด และในหลายโอกาสตัดสินใจที่จะไม่ช่วยเหลือ เพราะไม่อยากจะถูกตราหน้า (จากตัวเอง) ว่าเสียรู้ คนที่มีจิตใจดีส่วนใหญ่นั้นจะให้นั้นคงไม่ได้หวังผลว่าจะมีใครใส่ใจให้เครดิตกับตัวเองหรือไม่
       
    ลองคิดดูสิครับว่าหากคนทุกคนคิดแบบนี้กันเป็นเวลานานและซ้ำ ๆ กันไปเรื่อย ๆ ในขณะที่ปรากฏการณ์แบบนี้เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำอีกเป็นข่าวต่อเนื่อง ทำให้คนระวังตัวไปเรื่อย ๆ คนไทยเราก็จะมีนิสัยของการลังเลที่จะแสดงน้ำใจ แล้วสังคมเราจะมีหน้าตาเป็นอย่างไร
       
    แม้ว่าแง่หนึ่งสังคมจะสร้างเกราะป้องกันตัวขึ้นมา (และอาจช่วยเหลืออย่างระมัดระวังมากขึ้น) แต่อีกแง่หนึ่งสังคมคงได้เรียนรู้ว่า นับแต่นี้คนที่ให้แบบ เอาหน้า ต่างกับการให้อย่างไม่หวังผลใด ๆ นอกจากเพื่อให้ผู้อื่นพ้นทุกข์นั้นเป็นอย่างไร
       
    ดังนั้นบรรดาผู้เอาหน้า ท่านคงรู้ว่าท่านได้อะไรจากการกระทำแบบนั้น แต่อยากให้รู้โลกด้วยว่าสังคมปัจจุบันมีวุฒิภาวะเพียงพอที่จะรู้ว่า คนเอาหน้าเป็นอย่างไรผู้บริสุทธิ์ใจเค้าคิดกันอย่างไร
       
    นอกจากนี้ยังมีสิ่งที่เลวร้ายยิ่งกว่านั้นคือ เรื่อง การแอบอ้างเป็นกลุ่มผู้ช่วยเหลือผู้ประสบภัยและออกเรี่ยไร เช่นเดียวกันคนพวกนี้ ทำให้สังคมเกิดความลังเลที่จะแบ่งปันน้ำใจ เพราะคนไทยก็จะลังเลที่จะให้ความช่วยเหลือ การที่สังคมไทยจะมีน้ำใจให้กันน้อยลงไปก็เป็นเพราะว่าพฤติกรรมประเภทนี้นี่แหละ
       
    หรือข่าวที่มีคนโทรฯ ไปป่วน ศูนย์อำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยธรรมชาติ นับพัน ๆ สาย ทำให้ผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือจริง ๆ ไม่สามารถเข้าถึงการให้ความช่วยเหลือได้ ทั้ง ๆ ที่ได้มีการรณรงค์ไม่ให้ป่วนก็ยังมีนับพันสาย คนพวกนี้คงไม่ได้อ่าน “รู้โลกไม่รู้ตน” เลยไม่เคยได้พิจารณาเลยว่า สิ่งที่ตนเองทำอยู่นั้น ทำแล้วได้ประโยชน์อะไร สิ่งที่ “สะใจ” หรือ “มันส์” นั้นมันมีคุณค่าอะไรหรือไม่นอกจากเป็นการกระทำเพราะความคึกคะนองเท่านั้นเอง
       
    คงเป็นการยากที่จะโน้มน้าวให้มนุษย์เหล่านี้เข้าใจถึงประโยชน์ส่วนรวมและจริย ธรรมของสังคม ดังนั้นคงเป็นท่าทีของสังคมที่จะต้องปฏิเสธ หรือต่อต้านการกระทำเหล่านี้ เพื่อย้ำให้มั่นใจว่า นิสัยความโอบอ้อมอารีมีน้ำใจต้องการปลดทุกข์หรือแม้แต่เฉลี่ยทุกข์กับคนอื่นนั้นยังคงอยู่คู่กับสังคมไทย.

    ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ขอเดชะฯ
    ข้าพระพุทธเจ้า นายดักกลาส กิบสัน เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐแอฟริกาใต้ ประจำประเทศไทย

    ทั้งนี้ ประเทศสาธารณรัฐแอฟริกาใต้ (Republic of South Africa) เป็นประเทศอิสระที่อยู่ทางตอนใต้สุดของทวีปแอฟริกา มีพรมแดนติดกับประเทศนามิเบีย ประเทศบอตสวานา ประเทศซิมบับเว ประเทศโมซัมบิก และ ประเทศสวาซิแลนด์ ส่วนประเทศเลโซโท เป็นดินแดนที่ถูกล้อมรอบทุกด้านด้วยอาณาเขตของประเทศแอฟริกาใต้

    สาธารณรัฐแอฟริกาใต้ มีเมืองหลวงชื่อ กรุงพริทอเรีย ประชาชนประมาณ 1,010,000 คน ประชากร 75% เป็นชนผิวดำ 13% เป็นชนผิวขาว 8% เป็นเชื้อชาติผสม และ 3% เป็นอินเดีย เมืองใหญ่ที่สำคัญที่สุดคือ Johannesburg และ Cape Town นับถือศาสนา คริสต์ อิสลาม ฮินดู ยิว และความเชื่อพื้นเมืองอื่น ๆ โดยใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาราชการ

    เงินตราใช้สกุล Rand 1 Rand เท่ากับประมาณ 6.5 บาท ธนาคารส่วนใหญ่รับเช็คสกุลเงินหลัก ๆ โดยคิดค่าบริการประมาณ 1% ร้านค้ารับบัตรเครดิต โดยเฉพาะ Visa และ Mastercard

    สำหรับระเบียบการเข้าเมือง ข้อมูลจากเว็บไซต์ของกระทรวงการต่างประเทศ (www.mfa.go.th) ระบุไว้ว่า การเดินทางไปยังแอฟริกาใต้เพื่อวัตถุประสงค์อื่น นอกเหนือไปจากการท่องเที่ยวเป็นเวลา 30 วัน จะต้องได้รับการตรวจลงตรา (วีซ่า) ให้ถูกต้องตามประเภทและวัตถุประสงค์ในการเข้าเมือง ส่วนการทำงานที่แอฟริกาใต้ไม่ว่ากรณีใดๆ จะต้องมีใบอนุญาตทำงาน (work permit) ซึ่งออกให้โดยสถานทูตแอฟริกาใต้ประจำกรุงเทพฯ รวมถึงกรณีคนไทยที่เดินทางไปแอฟริกาใต้และพำนักอยู่เกิน 30 วัน ควรติดต่อสถานเอกอัครราชทูต เพื่อแจ้งที่อยู่และหมายเลขโทรศัพท์ที่สามารถติดต่อได้ ตลอดจนระยะเวลาที่จะพำนักอยู่ในประเทศนี้ เพื่อจะได้มีข้อมูลสำหรับติดต่อกรณีมีเหตุฉุกเฉิน หรือมีเหตุจำเป็นอื่น ๆ


    • Update : 12/10/2554
    © Copyright 2011 www.watnongmuang.com All rights reserved 999arch