|
|
น้ำท่วม-น้ำใจ
การมีน้ำใจช่วยเหลือผู้อื่นในการงานที่ชอบที่ควรนั้น เป็นสิ่งที่ทำได้โดยไม่ยากเลย ถ้าคนเราทุกคนปลูกฝังคุณธรรม คือ ความกรุณา สงสาร ให้มีอยู่ประจำใจเสมอ
ความกรุณานั้นมีลักษณะทนไม่ได้ต่อความทุกข์ ความเดือดร้อนของผู้อื่น มีความหวั่นใจต่อความทุกข์ของผู้อื่นเสมอเหมือนความทุกข์ของตนเอง คนที่มีน้ำใจเสียสละ มีนิสัยชอบช่วยเหลือผู้อื่น ถ้าใครมีเรื่องมาขอความช่วยเหลือแล้วก็ไม่เคยขัดข้อง มีแต่จะคอยช่วยเหลือเสมือนญาติพี่น้องของตน
เมื่อคิดว่าทุกคนเป็นเสมือนญาติพี่น้องแล้วจิตใจย่อมอ่อนโยนพร้อมที่จะให้ความช่วยเหลือ และเมื่อได้ช่วยเหลือแล้วก็มีความอิ่มเอิบใจ ถึงแม้ว่าสิ่งที่ได้ทำไปนั้นจะเหน็ดเหนื่อยก็ตาม และที่สุดสิ่งที่ได้ทำลงไปนั้น จะเป็นบุญเป็นกุศลติดตามตนไปในภพหน้า อำนวยสุขสมบัติให้อีกต่อไปด้วย ท่านที่ประกอบด้วยปัญญาจึงควรพิจารณาว่า คุณความดีที่ได้ทำไว้ด้วยความตั้งใจนั้นมีผลที่ดีมาก แม้คนที่ขาด แคลนทุนทรัพย์ในการช่วยเหลือผู้อื่นก็สามารถช่วยเหลือได้ด้วยกำลังกายบ้าง ด้วยกำลังความคิดและกำลังใจบ้าง
ความเป็นคนมีน้ำใจต่อกันนั้น ถ้าพูดกันเช่นการค้าแล้วเรียกได้ว่าลงทุนน้อย แต่ได้ผลกำไรมาก อย่างน้อยถ้าทุกคนแสดงความมีน้ำใจต่อกันแล้ว สิ่งที่แสดงออกจะเป็นที่ประทับใจผู้ได้รับตลอดไป
คนที่อยู่ร่วมกันควรต้องมีน้ำใจต่อกัน เอื้อเฟื้อช่วยเหลือกัน ยอมละทิ้งความสุขเล็กน้อยของตนเพื่อความร่มเย็นเป็นสุข ปราศจากทุกข์ของหมู่คณะ
คนที่มีน้ำใจอัธยาศัยดีงามเช่นนี้ เมื่อตนเกิดความวิบัติขัดข้อง ถึงคราวต้องการความช่วยเหลือแล้ว บุญกุศลที่ได้ทำไว้ย่อมชักนำผู้อื่นให้เข้ามาช่วยเหลือทันที ผู้ช่วยเหลือผู้อื่นจึงเท่ากับว่าได้สั่งสมสิ่งที่จะคอยช่วยเหลือตนเองไว้เหมือนกัน
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในปัจจุบันมีอุทกภัยอันเกิดจากน้ำท่วมในหลายๆ จังหวัด ต่างประสบความเดือดร้อนกันเป็นจำนวนมาก แต่ด้วยน้ำใจของหลายๆ ฝ่ายที่ยังพอมีทั้งกำลังทรัพย์ กำลังกาย ต่างช่วยกันบรรเทาทุกข์เฉพาะหน้าในเรื่องของเครื่องอุปโภคบริโภคที่จำเป็นในการดำรงชีวิตกันอย่างไม่ขาดสาย
ดังนั้น ถ้าในสังคมไม่ขาดแคลนน้ำใจต่อกัน มีความช่วยเหลือกันอยู่ประจำแล้ว สังคมทุกสังคมก็จะมีแต่ความสุข ความสงบ น่าอยู่เป็นอย่างยิ่ง
พระเทพคุณาภรณ์ (โสภณ โสภณจิตฺโต ป.ธ. 9)
|
Update : 9/10/2554
|
|