|
|
กรรม
ธรรมะวันหยุด
พระเทพคุณาภรณ์ (โสภณ โสภณจิตฺโต ป.ธ.9) เจ้าอาวาสวัดเทวราชกุญชรวรวิหาร / www.watdevaraj.com
ชีวิตของคนเราที่เป็นไปในปัจจุบันย่อมมีปัญหาให้ขบคิดกันทุกยุคทุกสมัย สมัยใดมีผู้รู้แจ้งเห็นจริงในชีวิตเกิดขึ้น สมัยนั้นก็ทำให้ชาวโลกดำเนินชีวิตไปในทางที่ถูกต้องได้ การเกิดขึ้นของท่านผู้รู้เหล่านี้จึงเป็นเหมือนดวงประทีปที่ลุกโชติช่วงขึ้นในท่ามกลางความมืด ให้ชาวโลกได้รู้ ได้เห็นสิ่งที่ควรรู้ควรเห็น
ก่อนที่พระพุทธศาสนาจะอุบัติเกิดขึ้นมา ชาวโลกได้พากันดิ้นรนแสวงหาทางที่จะนำชีวิตไปสู่ความพ้นทุกข์กันแล้ว แต่การแสวงหาทางพ้นทุกข์ในสมัยก่อนพุทธกาลนั้นต่างก็ปฏิบัติไปตามความเห็นของตน เจ้าสำนักทั้งหลายในสมัยนั้นจึงเกิดขึ้นมากมาย ตั้งตัวเป็นอาจารย์กัน ต่างก็ให้หลักการอันเป็นความเห็นส่วนตัวแก่ชาวโลก
บางอาจารย์สอนว่า ชีวิตของสัตว์ทั้งหลายที่เกิดมาในโลกนี้เมื่อแตกดับเสียชีวิตไปแล้วก็สูญสิ้นไปเลย ไม่มีการเกิดอีก ผลแห่งกรรมดีก็ไม่มี ผลแห่งความชั่วก็ไม่มี การบำเพ็ญทานรักษาศีลเจริญภาวนาก็ไม่มี นรกสวรรค์ไม่มี คนที่เชื่อในลัทธิเหล่านี้ก็หมดความเกรงกลัวต่อบาป หมดความละอายต่อการกระทำกรรมชั่วของตน
บางอาจารย์สอนว่า การกระทำกรรมดีกรรมชั่วไม่เป็นความดีและความชั่ว เมื่อทำแล้วสักแต่ว่าทำเท่านั้น ไม่มีผลใดๆ
บางอาจารย์สอนว่า คนเราจะดีจะชั่วก็เป็นไปเอง จิตคนเราจะบริสุทธิ์ได้คือบริสุทธิ์เอง ไม่จำเป็นจะต้องไปฝึกหัดปฏิบัติให้เสียเวลา การไปนั่งภาวนาเพื่อกำจัดกิเลสออกจากจิตนั้นถือว่าไม่มีประโยชน์อะไร เพราะจิตจะบริสุทธิ์ได้เอง ไม่ต้องไปชำระจิตให้เสียเวลา
บางอาจารย์สอนว่า คนเราจะดีหรือชั่วนั้นอยู่ที่อิทธิพลของดวงชะตาแล้วแต่ดวงดาวที่โคจรไปมาในจักรราศี ถ้าดวงดาวโคจรเข้าสู่ราศีที่ไม่ดีแล้ว ถึงจะทำกรรมดีมากเพียงใดไม่สามารถประสบผลดีได้ ถ้าดวงดาวโคจรสู่ราศีที่ดีแล้ว ถ้าจะทำกรรมชั่วถือว่าไม่เป็นไร ดวงช่วยไว้ได้
บางอาจารย์สอนว่า ชีวิตของสรรพสัตว์พระพรหมสร้างมาทั้งนั้น คนเราจะดีหรือไม่ดีขึ้นอยู่กับพระพรหม แล้วแต่ท่านจะลิขิตชีวิตให้เป็นไปตามพรหมลิขิต ฉะนั้นเมื่อคนเราประสบความทุกข์ความเสื่อมต้องก้มหน้าเดินไปบนเส้นทางชีวิต ที่เต็มไปด้วยความทุกข์ทรมานนั้น ต้องก้มหน้ายอมรับเอาความทุกข์ความเสื่อมนั้นด้วยความภักดีไม่คิดแก้ไขให้ดีขึ้น
พระพุทธศาสนาเป็นอีกศาสนาหนึ่ง ที่เกิดขึ้นท่ามกลางเจ้าสำนักครูอาจารย์ทั้งหลาย พระพุทธเจ้าผู้ตรัสรู้อริยสัจธรรม ทรงเป็นพระอรหันต์ตรัสรู้เองโดยชอบ เป็นผู้ถึงพร้อมด้วยวิชาและจรณะ เป็นผู้เสด็จไปดีแล้ว เป็นผู้รู้แจ้งโลก เป็นผู้ฝึกบุรุษที่ควรฝึกอย่างยอดเยี่ยม เป็นศาสดาของเทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย เป็นผู้ตื่นแล้ว ทรงแจกจำแนกเปิดเผยแสดงธรรมทุกอย่าง ทั้งที่เป็นส่วนดี ควรปฏิบัติตาม ทั้งที่เป็นส่วนไม่ดี ควรงดเว้น
พระพุทธองค์ตรัสสอนให้ชาวโลกทั้งหลายได้ทราบถึงกฎแห่งความเป็นจริงของชีวิตว่า ไม่มีผู้ใดสร้างขึ้น แต่กระบวนการของชีวิตเป็นไปตามกฎแห่งกรรม
|
Update : 8/10/2554
|
|