ชื่อของ บ้านดอนหมู ต.ขามเปี้ย อ.ตระการพืชผล จังหวัดอุบลราชธานี ตั้งขึ้นตามสภาพพื้นที่ในอดีตเมื่อกว่า 200 ปีก่อน ที่เคยมีหมูป่าชุกชุม เพราะในช่วงปี 2334 ที่ชาวบ้านเริ่มเข้ามาตั้งรกรากนั้น บริเวณนี้ยังเป็นป่าอุดมสมบูรณ์
อยู่ ๆ มากว่า 100 ปี เมื่อปี 2515 ทางการก็เข้ามาประกาศว่า พื้นที่บ้านดอนหมูเป็นเขตป่าสงวนแห่งชาติ..!!
พ่อใหญ่จันทร์แดง โครรัตน์ เป็นแกนนำชาวบ้านเรียกร้องสิทธิ์ที่ทำกิน ซึ่งนอกจากเหตุผลที่ว่าชาวบ้านเข้ามาอยู่อาศัยก่อนนานนับร้อยปีแล้ว ชาวบ้านยังยืนยันว่า คนกับป่าสามารถอยู่ร่วมกันได้..
แต่คำว่า ป่า ในความหมายของชาวบ้าน คือ ป่าชุมชนที่ยังมีสภาพของป่าธรรมชาติ ไม่ใช่ ป่ายูคาลิปตัส ที่นโยบายของภาครัฐในช่วงปี 2528 ส่งเสริมให้ปลูก โดยบอกว่าเป็น ป่าเศรษฐกิจ..!
การต่อสู้อย่างเข้มข้นของชาวบ้านยาวนานนับสิบปี..
ถึงวันนี้ ได้บทพิสูจน์แล้วว่า ความคิดของชาวบ้านคือสิ่งที่ถูกต้อง..
ป่าชุมชน ซึ่งยังคงความเป็นธรรมชาติ มีพื้นที่เพิ่มขึ้นจาก 200 ไร่ เป็นกว่า 620 ไร่ จากความเสียสละของชาวบ้านที่ร่วมบริจาคที่ดินให้เป็นสาธารณประโยชน์ จนกรมที่ดินออกเอกสารสิทธิ์รับรองพื้นที่ป่าดังกล่าว
ส่วนชาวบ้านดอนหมู เพิ่งได้รับเอกสารสิทธิ์ ส.ป.ก. เมื่อไม่ถึง 2 เดือนที่ผ่านมา..
พวกเขาหยุดการต่อสู้เรียกร้อง และได้รับการยอมรับจากทางการ ทั้งตัวพ่อใหญ่จันทร์แดง ที่ยังคงเป็นประธานกลุ่มป่าชุมชน ทั้งในพื้นที่และระดับภาค
ขณะที่ป่าชุมชนบ้านดอนหมู ได้รางวัลชนะเลิศป่าชุมชนระดับภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และเป็นตัวอย่างให้ใครต่อใครดำเนินรอยตาม
“ป่าก็เหมือนตลาด เราไม่มีเงินซักบาทก็เข้ามาเก็บเห็ด เก็บผัก มีกินมีใช้ได้ตลอดเวลา” พ่อใหญ่จันทร์แดง กล่าวด้วยความภาคภูมิใจ..
ชาวบ้านดอนหมู มีกฎระเบียบที่ทุกคนต้องปฏิบัติตาม..
การเข้าไปตัดไม้ในป่า จะทำได้ในโควตาที่จำกัดมาก ๆ เฉพาะเพื่อการปรับปรุงซ่อมแซมที่อยู่อาศัยเท่านั้น ห้ามก่อกองไฟ ห้ามใช้เลื่อยยนต์ และการตัดไม้ต้องผ่านความเห็นชอบของคณะกรรมการทุกครั้ง
ได้ไปเยือนป่าชุมชนบ้านดอนหมูแล้ว อดคิดไม่ได้ว่า ถ้าคนไทยส่วนใหญ่ คิดเหมือนชาวบ้านดอนหมู ปัญหาน้ำท่วมในบ้านเราคงไม่รุนแรงเท่านี้.
คุณนายทอม ([email protected])