หน้าแรก สมาชิก รายการวัตถุมงคล ตะกร้าวัตถุมงคล วิธีชำระวัตถุมงคล วิธีบูชาวัตถุมงคล ประวัติวัด ติดต่อวัด เว็บบอร์ด
สมาชิก Log in
อีเมล์
รหัสผ่าน
สมัครสมาชิกใหม่
ลืมรหัสผ่าน
















ค้นหาวัตถุมงคล
 
 
 
หมวดวัตถุมงคล
  เครื่องราง พระอาจารย์ป้อม
  พระเครื่อง พระอาจารย์ป้อม
  พระเครื่อง หลวงพ่อสวัสดิ์
  พระเครื่อง หลวงปู่พิมพ์มาลัย
  พระเครื่อง หลวงพ่อสง่า
วัตถุมงคลของคุณ
รหัสวัตถุมงคล ราคา จำนวน
ยังไม่มีวัตถุมงคลอยู่ในตะกร้า
  • ชำระค่าวัตถุมงคล
  • แก้ไขรายการวัตถุมงคล
  • วิธีสั่งบูชาวัตถุมงคล
  •  

    พระพุทธนาคน้อย วัดประยุรวงศาวาส กทม.
    คอลัมน์ เดินสายไหว้พระพุทธ




    "วัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร" แขวงวัดกัลยาณ์ เขตธนบุรี กรุงเทพฯ เป็นวัดที่สมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาประยุรวงศ์ (ดิศ บุนนาค) เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งเป็นเจ้าพระยาพระคลัง ว่าที่กรมท่าและสมุหพระกลาโหม ได้อุทิศสวนกาแฟสร้างเป็นวัดขึ้นเมื่อ พ.ศ.2371 ซึ่งมีอาณาเขตติดกับบ้านสมเด็จเจ้าพระยาฯ

    ครั้นเมื่อ พ.ศ.2375 ได้ถวายเป็น พระอารามหลวงในสมัยรัชกาล พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวพระราชทานนามว่า "วัดประยุรวงศาวาส"

    ชาวบ้านนิยมเรียกว่า วัดรั้วเหล็ก ด้วยมีรั้วเหล็กเป็นกำแพงวัดอยู่เป็นบางตอน รั้วเหล็กนี้สูงประมาณ 3 ศอกเศษ ทำเป็นรูปอาวุธ คือ หอก ดาบ และขวาน (ขวานสามหมื่น ปืนสามกระบอก หอกสามแสน) มีลักษณะเป็นกำแพงและซุ้มประตูเล็กๆ เป็นตอนๆ วัดจากมุมวิหารคดข้างพระอุโบสถไปจรดกำแพงประตูวัดด้านตะวันออกยาว 148 เมตร ล้อมบริเวณอุทยานเขามอ (เขาเต่า) อีก 2 ด้าน ด้านตะวันตกยาว 48 เมตร ด้านใต้ยาว 43 เมตร ล้อมเป็นกำแพงหน้าวัด ตอนขวามือเข้ามายาว 40 เมตร ตอนซ้ายมือเข้ามายาว 20 เมตร

    มีเรื่องเล่าว่า รั้วเหล็กนี้เดิมสมเด็จพระเจ้าพระยาบรมมหาประยุรวงศ์ สั่งเข้ามาจากประเทศอังกฤษเพื่อทูลเกล้าฯ ถวายแด่พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว เพื่อใช้ล้อมเป็นกำแพงในพระราชวัง

    แต่พระเจ้าอยู่หัวไม่ทรงโปรด สมเด็จเจ้าพระยาจึงขอรับพระราชทานมาใช้ล้อมเป็นกำแพงในวัด โดยใช้น้ำตาลทรายแลกเอา หนักต่อหนัก คือ เหล็กหนักเท่าใด น้ำตาลทรายก็หนักเท่านั้น

    ในคราวเดียวกันนั้นยังทูลเกล้าฯ ถวายพรมผืนใหญ่ 1 ผืน กับโคมกิ่งแก้ว 3 โคม ซึ่งไม่ทรงโปรด จึงได้ทูลขอพระราชทานโคมไปประดับในพระอุโบสถวัดแห่งนี้

    ในปี พ.ศ.2423 เจ้าพระยาภาณุวงศ์มหาโกษาธิบดี (ท้วม บุนนาค) เดินทางไปกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ในฐานะเป็นอัครราชทูตพิเศษ เพื่อแก้ไขเพิ่มเติมสัญญา

    เมื่อกลับถึงเมืองไทยในปีเดียวกัน ได้เล่าว่า ตนพบรั้วเหล็กล้อมเป็นกำแพงเมืองหลายแห่งในกรุงลอนดอนรั้วเหล็กเหล่านั้นมีรูปลักษณะเช่นเดียวกับรั้วเหล็กที่วัดประยุรวงศาวาส

    หน้าบัน ลายดอกบุนนาค พระอุโบสถ เป็นสถาปัตยกรรมไทย สถาปัตยกรรมทรงไทย หน้าบันเป็นลายดอกบุนนาค ภายในมีจิตรกรรมฝาผนังเรื่องพุทธประวัติ ส่วนพระวิหารเป็นสถาปัตยกรรมทรงไทยเช่นกัน

    สมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาศรีสุริยวงศ์ (ช่วง บุนนาค) ยังได้สร้างพระบรมธาตุมหาเจดีย์ทรงกลมองค์ใหญ่ ถือว่าเป็นเจดีย์แบบลังกาองค์แรกในสมัยรัตนโกสินทร์ ภายในประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ สร้างเสร็จในปี พ.ศ.2398

    ต่อมา พ.ศ.2425 ในสมัยรัชกาลที่ 5 เจ้าพระยาสุรวงศ์ไวยวัฒน์ (วร บุนนาค) ได้ให้ซ่อมพระวิหาร เปลี่ยนช่อฟ้าใบระกา ปิดทองประดับกระจกใหม่ ซ่อมศาลาและพระอุโบสถใหม่ ซึ่งในปีถัดมาพระองค์ได้เสด็จมาพระราชทานผ้าพระกฐิน ณ พระอุโบสถ วัดประยุรวงศาวาส

    ส่วนการสร้างวัดได้เริ่มตั้งแต่ปี พ.ศ.2371 สร้างอยู่ 8 ปี จึงสำเร็จในปี พ.ศ.2379 ได้มีการฉลองวัดในวันที่ 13 มกราคม 2379 ตรงกับวันศุกร์ เดือนยี่ ขึ้น 7 ค่ำ

    ทั้งนี้ พระวิหารหลวงพ่อพระพุทธนาค เป็นสถาปัตยกรรมแบบทรงไทย กว้าง 16.99 เมตร ยาว 20.19 เมตร เป็นวิหาร 5 ห้อง หลังคาลด 2 ชั้น หน้าบันสลักลวดลายดอกไม้สวยสดงดงามและปิดทองประดับกระจกแพรวพราว มีซุ้มประตู 4 ประตู บานประตูประดับมุก

    พระวิหารวัดประยุรวงศาวาส เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปหล่อปางมารวิชัย สมัยสุโขทัย หน้าตักกว้าง 4.25 เมตร สูง 5.70 เมตร มีพระนามว่า "พระพุทธนาค" เป็นพระพุทธรูปโบราณคู่กับพระศรีศากยมุนี พระประธานในพระวิหารวัดสุทัศนเทพวราราม

    พระพุทธรูปทั้งสองนี้ ประกอบด้วย พระพุทธลักษณะสมัยสุโขทัยเหมือนกัน คือ มีพระรัศมีเปลว แต่ไม่มีไรพระศก ชายผ้ารัดประคดเป็นเขี้ยวตะขาบและประทับนั่งขัดสมาธิราบเช่นเดียวกับพระพุทธชินราช วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ จังหวัดพิษณุโลก

    พระพุทธนาคนี้ได้รับอัญเชิญจากจังหวัดสุโขทัยมาประดิษฐานไว้ ณ พระวิหาร วัดประยุรวงศาวาส เมื่อ พ.ศ.2374

    พุทธศาสนิกชนชาวไทยและชาวจีน ให้ความเคารพบูชาในความศักดิ์สิทธิ์ของพระพุทธนาคเป็นอย่างยิ่ง ด้วยได้รับสิ่งที่เป็นอัศจรรย์หลายประการ และโดยทั่วไปมักเรียกพระพุทธรูปองค์นี้ว่า "พระพุทธนาคน้อย" เพื่อให้คู่กับพระศรีศากยมุนี วัดสุทัศนเทพวราราม ที่เรียกว่า "พระพุทธนาคใหญ่"

    พุทธศาสนิกชนชาวจีนได้ขนานนาม พระพุทธนาค นี้ว่า "ลักน้อย" แปลว่า กลีบบัว 7 ชั้น เปรียบพระพุทธองค์คือ ซำปอกง (หลวงพ่อโต) ของชาวจีน

    วันที่ 22 พฤศจิกายน 2492 กรมศิลปากรได้ขึ้นทะเบียนพระวิหารและพระพุทธนาคเป็นศิลปโบราณสถานวัตถุของชาติและพระศาสนา ตามประกาศในราชกิจจานุเบกษาเล่มที่ 66 ตอนที่ 64 วันที่ 22 พฤศจิกายน 2492

    • Update : 7/4/2554
    © Copyright 2011 www.watnongmuang.com All rights reserved 999arch