หน้าแรก สมาชิก รายการวัตถุมงคล ตะกร้าวัตถุมงคล วิธีชำระวัตถุมงคล วิธีบูชาวัตถุมงคล ประวัติวัด ติดต่อวัด เว็บบอร์ด
สมาชิก Log in
อีเมล์
รหัสผ่าน
สมัครสมาชิกใหม่
ลืมรหัสผ่าน
















ค้นหาวัตถุมงคล
 
 
 
หมวดวัตถุมงคล
  เครื่องราง พระอาจารย์ป้อม
  พระเครื่อง พระอาจารย์ป้อม
  พระเครื่อง หลวงพ่อสวัสดิ์
  พระเครื่อง หลวงปู่พิมพ์มาลัย
  พระเครื่อง หลวงพ่อสง่า
วัตถุมงคลของคุณ
รหัสวัตถุมงคล ราคา จำนวน
ยังไม่มีวัตถุมงคลอยู่ในตะกร้า
  • ชำระค่าวัตถุมงคล
  • แก้ไขรายการวัตถุมงคล
  • วิธีสั่งบูชาวัตถุมงคล
  •  

    ปศุสัตว์เฝ้าระวังโรคในสัตว์ปีก

    จากกรณีองค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ (FAO) ได้แถลงเตือนภัยเกี่ยวกับการระบาดของเชื้อไข้หวัดนก ชนิดรุนแรง H5N1 ในสัตว์ปีกในทวีปเอเชีย ว่ามีแนวโน้มของการเปลี่ยนแปลงพันธุกรรมของเชื้อไวรัสหรือกลายพันธุ์ได้นั้น ทำให้กรมปศุสัตว์เร่งหามาตรการเฝ้าระวังป้องกันอย่างเข้มงวดยิ่งขึ้น เพื่อสกัดไม่ให้การระบาดของเชื้อไข้หวัดนกลุกลามมาถึงภาคเกษตรไทยเพื่อเป็นการป้องกันเสียแต่เนิ่น ๆ ก่อนที่ปัญหาจะเกิดและส่งผลกระทบเสียหายต่อเกษตรกรและผู้ประกอบการภาคเกษตรของไทยในอนาคต 
       
    นายปรีชา สมบูรณ์ประเสริฐ   อธิบดีกรมปศุสัตว์ กล่าวว่า การออกมาเตือนภัยเกี่ยวกับการระบาดของเชื้อไข้หวัดนก ชนิดรุนแรง H5N1 ในสัตว์ปีกในทวีปเอเชียของ FAO ถือเป็นเรื่องที่ดี เพราะจะทำให้กลุ่มประเทศเอเชียได้หันมาเพิ่มมาตรการเฝ้าระวังที่เข้มงวดมากขึ้น ทั้งนี้ ในส่วนของกรมปศุสัตว์เอง แม้ปัจจุบันประเทศไทยจะไม่พบโรคไข้หวัดนกมานานมากกว่า 2 ปี 10 เดือนแล้วนับจากวันที่ทำลายสัตว์ป่วยรายสุดท้าย แต่กรมปศุสัตว์ยังดำเนินการเฝ้าระวังควบคุมและป้องกันโรคอย่างเข้มงวดและต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นการกำชับให้เครือข่ายเฝ้าระวังโรค ทั้งอาสาปศุสัตว์ อาสาสมัครสาธารณสุข กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน องค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ในพื้นที่และเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์
       
    โดยพยายามกำชับให้เกษตรกรหมั่นสังเกตอาการสัตว์ปีกหากพบว่ามีอาการสงสัยโรคไข้หวัดนกให้รีบดำเนินการควบคุมโรคทันที และประสานงานกับหน่วยงานสาธารณสุขในการเฝ้าระวังโรคในคนด้วย เพื่อการเฝ้าระวังโรคทั้งภาคปศุสัตว์และสาธารณสุขต่อไป รวมทั้งกำหนดให้มีการรณรงค์ค้นหาโรคในสัตว์ปีกแบบบูรณาการ (x-ray) และให้มีการเคาะประตูบ้านเกษตรกรทุกราย ฟาร์มสัตว์ปีกทุกฟาร์ม เพื่อสอบถามอาการสัตว์ปีกและสุ่มเก็บตัวอย่าง ปีละ 2 ครั้ง ในช่วงเดือนมกราคมและเดือนกรกฎาคม 2554 ให้มีการรณรงค์ทำความสะอาดและทำลายเชื้อโรคในพื้นที่เสี่ยงทั่วประเทศ ปีละ 4 ครั้ง เพื่อเป็นการฆ่าเชื้อโรคที่อาจแฝงตัวอยู่ในสิ่งแวดล้อม
       
    นอกจากนี้  ยังได้ส่งเสริมให้เกษตรกรเลี้ยงไก่พื้นเมืองในเล้า หรือโรงเรือนที่ป้องกันโรคได้ มีการจัดระบบการเลี้ยงไก่ชนให้มีมาตรฐานป้องกันโรคได้ มีการเฝ้าระวังและควบคุมการเคลื่อนย้ายเป็ดไล่ทุ่ง เป็นต้น รวมทั้งเมื่อเกิดสถานการณ์มีโรคไข้หวัดนกในประเทศเพื่อนบ้าน กรมปศุสัตว์ได้กำหนดให้ทุกจังหวัดตามแนวชายแดนทั่วประเทศเข้มงวดการเฝ้าระวังโรคไข้หวัดนกและโรคระบาดอื่นในสัตว์ปีก และให้ด่านกักกันสัตว์ตั้งจุดพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อโรคยานพาหนะในบริเวณจุดผ่านแดนทุกแห่ง ตลอดจนห้ามอนุญาตนำเข้าสัตว์ปีกและซากสัตว์ปีกจากประเทศที่พบโรคไข้หวัดนกจนกว่าสถานการณ์โรคจะสงบ  
       
    “ตั้งแต่ปี 2546 ที่มีการแพร่ระบาดของเชื้อไข้หวัดนกสายพันธุ์ H5N1 ในสัตว์ปีกกระจายไปยังภูมิภาคต่าง ๆ ทั่วโลก มีการทำลายสัตว์ปีกไปมากกว่า 400 ล้านตัวเพื่อควบคุมการระบาด ส่งผลให้เกิดความเสียหายทางเศรษฐกิจไม่ต่ำกว่า 20,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และในช่วง 9 ปีที่ผ่านมามีรายงานผู้ติดเชื้อและผู้ป่วยจำนวน 565 ราย เสียชีวิต 331 รายทั่วโลกซึ่งถือเป็นความสูญเสียมหาศาล จำเป็นที่กรมปศุสัตว์ต้องเร่งสกัดโรคดังกล่าวไม่ให้เข้ามาระบาดส่งผลกระทบต่อภาคปศุสัตว์ของไทย” นายปรีชา กล่าว  
       
    ทั้งหมดคือมาตรการเฝ้าระวังการแพร่ระบาดของโรคไข้หวัดนกอย่างเข้มงวดของกรมปศุสัตว์  ซึ่งกรมปศุสัตว์เชื่อมั่นว่าจะสามารถรุกสกัดการระบาดของโรค
    ดังกล่าวได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตลอดจนสร้างความมั่นใจให้กับเกษตรกรและผู้ประกอบการภาคปศุสัตว์ภายในประเทศให้เกิดความอุ่นใจและเชื่อมั่นในมาตรการเฝ้าระวังป้องกันของกรมปศุสัตว์มากยิ่งขึ้น.


    • Update : 28/9/2554
    © Copyright 2011 www.watnongmuang.com All rights reserved 999arch