หน้าแรก สมาชิก รายการวัตถุมงคล ตะกร้าวัตถุมงคล วิธีชำระวัตถุมงคล วิธีบูชาวัตถุมงคล ประวัติวัด ติดต่อวัด เว็บบอร์ด
สมาชิก Log in
อีเมล์
รหัสผ่าน
สมัครสมาชิกใหม่
ลืมรหัสผ่าน
















ค้นหาวัตถุมงคล
 
 
 
หมวดวัตถุมงคล
  เครื่องราง พระอาจารย์ป้อม
  พระเครื่อง พระอาจารย์ป้อม
  พระเครื่อง หลวงพ่อสวัสดิ์
  พระเครื่อง หลวงปู่พิมพ์มาลัย
  พระเครื่อง หลวงพ่อสง่า
วัตถุมงคลของคุณ
รหัสวัตถุมงคล ราคา จำนวน
ยังไม่มีวัตถุมงคลอยู่ในตะกร้า
  • ชำระค่าวัตถุมงคล
  • แก้ไขรายการวัตถุมงคล
  • วิธีสั่งบูชาวัตถุมงคล
  •  

    พระเจ้าเก้าตื้อ เชียงใหม่

    "วัดสวนดอก" ตั้งอยู่ถนนสุเทพ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ได้สร้างและสถาปนาเป็นวัดอารามหลวง เมื่อ พ.ศ.1914 สมัยพระเจ้ากือนาธรรมิกราช กษัตริย์แห่ง ราชวงศ์มังราย หรือ เม็งราย ลำดับที่ 6 แห่งอาณาจักรล้านนา ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาประมาณ พ.ศ.1962 ในสมัยที่นครเชียงใหม่อยู่ในการปกครองของกรุงรัตนโกสินทร์ หรือเป็นจังหวัดหนึ่งของประเทศไทย

    วัดสวนดอก ได้รับการยกเป็นวัดพัฒนาตัวอย่าง จากกรมการศาสนาเมื่อ พ.ศ.2509 ได้รับการสถาปนาเป็น พระอารามหลวง ชั้นตรี ชนิดสามัญ ตั้งแต่วันที่ 10 กรกฎาคม พ.ศ.2533

    บริเวณวัดกว้างขวางมีพื้นที่ประมาณ 35 ไร่ พระเจ้ากือนาธรรมิกราช ได้พระราชทานพระอุทยานสวนดอกไม้ของพระองค์สร้างเป็นวัด และพระราชทานนามว่า "วัดบุปผาราม" ซึ่งเป็นภาษาบาลี หากแปลเป็นภาษาไทยหมายถึง วัดสวนดอกไม้พะยอม ต่อมาชาวบ้านนิยมเรียกง่ายๆ ว่า วัดสวนดอก

    วัดแห่งนี้ยังเป็นวัดประจำตระกูล ณ เชียงใหม่ ในยุคของ พระยากาวีละ ปกครองเชียงใหม่ พระ นางดารารัศมี พระสนมเอกในรัชกาลที่ 5 ซึ่งเป็นเจ้านายในราชตระกูล ณ เชียงใหม่ เห็นทำเลที่วัดสวนดอกกว้างขวาง จึงย้ายเอา กู่(เจดีย์บรรจุอัฐิ) ของเจ้านายในตระกูล ณ เชียงใหม่ จากที่เคยอยู่ใต้ต้นสนร้างริมแม่น้ำปิงจึงได้นำมารวบรวมไว้ที่นี่ และวัดสวนดอกก็กลายเป็นที่เก็บอัฐิของเจ้านายใน ราชวงศ์เชียงใหม่ สืบมา โดยราชสกุลรุ่นต่อๆ มา ได้อุปถัมภ์ค้ำชูวัดนี้มาโดยตลอด จึงถือว่าวัดสวนดอกเป็นวัดประจำตระกูล ณ เชียงใหม่ เป็นต้นมา



    ความสำคัญของ วัดบุปผาราม หรือ วัดสวนดอก ในปัจจุบัน ซึ่งในอดีตสมัยพระครูบาศรีวิชัย นักบุญแห่งล้านนาได้ทำการบูรณะวัดนี้ขึ้นและได้บูรณะวิหารหลวงหลังปัจจุบันด้วย และหลังจากที่พระครูบาศรีวิชัย มรณภาพในปี พ.ศ.2481 ได้สร้างอนุสาวรีย์เก็บอัฐิไว้ที่วัดนี้ด้วยเช่นกัน

    วัดสวนดอก มีพื้นที่กว้าง 35 ไร่ จึงมีสิ่งปลูกสร้างมากมายมี พระเจดีย์ทรงลังกา, ทรงผสมแบบลังกาล้านนา คือ เป็นเจดีย์ที่สร้างแบบ เหลี่ยมไม้สิบสอง และ พระเจดีย์ทรงพุ่มข้าวบิณฑ์ หรือ ดอกบัวตูม อันเลียนแบบจากศิลปะสุโขทัย ก่อสร้างสมัยพญากือนา และ มหาสุมนเถระ ตลอดจนกลุ่มพระเจดีย์เล็กที่เรียกกันว่า "กู่" ที่บรรจุอัฐิของเจ้าผู้ครองนครพร้อมด้วยญาติพี่น้องตระกูล ณ เชียงใหม่

    นอกจากนี้ยังมี กู่ครูบาศรีวิชัย ตั้งอยู่บริเวณด้านใต้พระวิหารใหญ่ด้วย มีพระอุโบสถ พระพุทธรูปปางสมาธิ ประดิษฐานบนพระวิหารใหญ่

    นอกจากนี้ พระพุทธรูปยืน ผินพระพักตร์ไปทางพระเจดีย์ พระพุทธรูปปางมารวิชัยปูนปั้นขนาดใหญ่ ถือเป็นองค์ประธาน ก่อสร้าง สมัยพระเจ้าดิลกปนัดดาธิราช และมี พุทธนฤมิต ซึ่งจำลองแบบมาจากศิลปะพุกาม หรือพระทรงเครื่องศิลปะพม่าสร้างขึ้นราว พ.ศ.2474-2475 สมัยที่ครูบาศรีวิชัย สร้างพระวิหารใหญ่ประฏิมากรรมเหล่านี้เป็นที่ตื่นตาตื่นใจของผู้เข้าชมยิ่งนัก และนำไปเป็นแบบอย่างทางประฏิมากรรมอีกมากด้วย

    ทั้งนี้ ผู้ที่มาเยี่ยมชมวัดสวนดอก นิยมเข้าไปนมัสการพระเจ้าเก้าตื้อ ซึ่งเป็นพระพุทธรูปองค์สำคัญและเป็นที่เคารพสักการะของชาวเชียงใหม่

    พระเจ้าเก้าตื้อเป็นพระเก่าแก่ที่สร้างในสมัยพระเมืองแก้ว กษัตริย์องค์ที่ 13 ของราชวงศ์เม็งราย เมื่อปี พ.ศ.2047 พระเจ้าเก้าตื้อเป็นพระพุทธรูปหล่อที่ใหญ่มาก หน้าตักกว้าง 8 ศอก

    ครั้งแรกที่สร้างจะนำไปประดิษฐานให้เป็นพระประธานที่วัดพระสิงห์ แต่หลังจากหล่อเสร็จแล้วปรากฏว่ามีน้ำหนักมาก เคลื่อนย้ายไม่สะดวก จึงโปรดให้ประดิษฐานไว้ที่วัดสวนดอกแห่งนี้

    พระเจ้าเก้าตื้อ ในอดีตถือว่าเป็นพระพุทธรูปที่งดงามที่สุดของล้านนา แม้ปัจจุบันก็ยังเป็นที่ยอมรับว่าเป็นพระพุทธรูปหล่อที่ใหญ่โตและงดงามที่สุด

    พระเจ้าเก้าตื้อ ชาวล้านนาร่วมกันสร้างขึ้นเพื่อให้เป็นศูนย์รวมจิตใจ ศูนย์รวมศรัทธาที่แสดงถึงความเป็นปึกแผ่นของบ้านเมืองในสมัยนั้น และในวันขึ้น 8 ค่ำ ของทุกเดือน จะมีการเฉลิมฉลองพระเจ้าเก้าตื้อ ซึ่งวันนั้นจะมีพิธีทำบุญตักบาตร และมีชาวบ้านมาร่วมทำบุญเป็นจำนวนมาก

    ปัจจุบันนี้ ประชาชนหรือนักท่องเที่ยวที่ผ่านไปมาจะเข้าไปกราบไหว้ ขอพรและโชคลาภจากพระเจ้าเก้าตื้ออย่างไม่ขาดสายตลอดทั้งวัน


     

    • Update : 4/4/2554
    © Copyright 2011 www.watnongmuang.com All rights reserved 999arch