คีเปล ไม้ดอกหอม มหัศจรรย์(ไม้หายาก)
คีเปล ถือเป็นพรรณไม้แปลลกและหายากของโลก มีถิ่นกำเนิดในประเทศอินโดนีเซีย คีเปล แปลว่า กำมือ ซึ่งชาวชวาเรียกกันตามลักษณะของผลที่มีขนาดใหญ่เท่ากำมือ คีเปลมีความต่างจากผลไม้ทั่วไปตรงที่ติดผลตามลำต้น ไม่ใช่แค่หนึ่งหรือสองข้อเท่านั้น แต่ติดหลายสิบข้อ หรือเป็นร้อยข้อเลยทีเดียว หากติดทั่วทั้งต้นจะห้อยย้อยลงมา คีเปลเป็นพันธุ์ไม้โบราณชนิดหนึ่งที่เล่ากันว่ามีบทบาทต่อพระเจ้าแผ่นดินมากนิยมปลูกเฉพาะในพระราชวังเท่านั้น ไว้ให้มเหสีหรือยนางสนมรับประทาน ห้ามบุคคลโดยทั่วไปปลูกโดยเด็ดขาด
คีเปล หรือ STELESHOCARPUS BURAHOL (BLUME) HOOK.F-THOMS (ANNON) ชื่อสามัญ KEPEL เป็นไม้ในวงศ์กระดังงายืนต้น สูง 10-15 เมตร ใบเดี่ยว ออกสลับ รูปรี ปลายแหลม โคนสอบ ดอก ออกเป็นช่อกระจุกตามซอกใบและกิ่งก้าน มีดอกย่อยหลายดอก มีกลีบเลี้ยง 4 กลีบ กลีบดอก 4 กลีบ สีเหลือง มีกลิ่นหอมแรงทั้งวัน ใจกลางดอกมีเกสรเป็นกระจุก
สรรพคุณเด่นๆ ของไม้ชนิดนี้ คือ เมื่อรับประทานผลแล้วจะทำให้เหงื่อหรือกลิ่นตัวหอมสดชื่น นอกจากนี้ยังมีสรรพคุณทางสมุนไพร คือ ช่วยให้ถ่ายปัสสาวะได้คล่อง และ มีกลิ่นหอม คีเปล เป็นไม้ยืนต้นขนาดกลาง แต่บางต้นที่โตเต็มที่อาจสูงถึง 21 เมตร มีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางถึง 40 เซนติเมตร
ลักษณะลำต้นตั้งตรง แตกกิ่งก้านสาขาเป็นจำนวนมาก เปลือกต้นเรียบสีน้ำตาล ใบเป็นใบเดี่ยว ออกเวียนสลับตามกิ่ง รูปทรงรี กว้างราว 3 – 5 เซนติเมตร ยาว 6 – 8 เซนติเมตร โคนใบสอบ ปลายใบแหลมขอบใบเรียบ ใบอ่อนสีแดงชมพู ใบแก่สีเขียว ดอกออกเป็นช่อตามต้นแลกิ่งขนาดเล็กสีเหลือง ส่งหลิ่นหอมทั้งวัน ออกดอกปีละ 2 ครั้ง ผลของคีเปลออกตามลำต้นห้อยระย้าจำนวนมาก เปลือกผลอ่กนสีน้ำตาลแก่ผิวหยาบ เมื่อแก่ผิวเรียบสีขาวอมเหลือง และจะเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลเมื่อแก่จัด มีกลิ่นหอมมาก รสหวานมีน้ำมาก มีเนื้อน้อย เพราะเมล็ดมีขนาดใหญ่เกือบเต็มผล สีน้ำตาลแก่ ในหนึ่งผลจะมีเมล็ด 3-6 เมล็ดคีเปลขยายพันธุ์ด้วยการเพาะเมล็ดหรือตอนกิ่ง ชอบความชุ่มชื้นหรือร่มเงา
การเพาะเมล็ด : เนื่องจากเมล็ดคีเปลแข็งและหนา จึงต้องใช้ตะใบขัดถูหือทำลายเปลือกหุ้มเมล็ดมนแตกออกก่อนแล้วจึงนำมาเพาะลงกระถางจนอายุ 0.5-1.5 ปี จึงย้ายปลูกได้ ต้นไม้ชนิดนี้จะเริ่มติดผลเมื่ออายุ 3-6 ปี ปีละ 2 ครั้ง คือ ระหว่างเดือนธันวาคมถึงมีนาคม และ มิถุนายน-กรกฎาคม แต่ในช่วงนี้จะติดผลน้อยกว่าช่วงแรก โดยใช้เวลาตั้งแต่เริ่มออกดอก จนกระทั่งติดผลนาน 3.5-4 เดือน ผู้มีบทบาทสำคัญคือ ผู้ว่า DIY Sri Paku AlamVII . เล็งเห็นความสำคัญของต้น คีเปล ซึ่งป็น ต้นไม้หายาก และ ใกล้สูญพันธุ์จึงออกคำสั่งให้อนุรักษ์ ต้นไม้นี้เอาไว้
คีเปลเป็นไม้ผลที่น่าสนใจตรงที่นอกจากจะดอกหอมแล้วผลของเขาก็หอมและทานได้ ดอกมีกลิ่นหอมและใบอ่อนเขาจะสวยคือมีสีแดงอมชมพูแต่ได้ทดลอง ซื้อมาปลูกหลายครั้ง ครั้งแรกๆ ที่เคยได้เห็นก็ซื้อมาต้นละประมาณ 3,500 บาท ต้นสูงไม่เกิน 30 เซนติเมตร ราคา 15,000 จากร้านวิเศษพันธุ์ไม้(บางขุนนนท์) แต่พอปลูกได้ไม่นาน ต้นก็ค่อยๆ ทยอยตายไปทีละต้นสองต้น จนกระทั่งขณะนี้เวลาผ่านไป 4 ปีแล้ว ที่บ้านผม ซึ่งการเติบโตไปไม่ถึงไหน ต้นที่เหลือขณะนี้ผ่านมา 4 ปี สูงประมาณ 120 เซนติเมตร เท่านั้น มันคงเป็นเพาระ ดิน ฟ้า อากาศ ไม่เอื้ออำนวยแบะการบำรุงรักษาไม่ดี ผิดกับที่บ้านพันผาสวรรค์ อ.ทองผาภูมิ ที่สามารถปลูกผลไม้ได้ทุกชนิด เพราะอากาศที่นั่นช่วงร้อนก็ร้อนจัด พอหนาวก็หนาวจัด พอถึงฤดูฝนๆ ก็ตกหนัก และผลได้ลองซื้อคีเปลมาปลูกใหม่ ประมาณ 500 กว่าต้น ต้นสูงประมาณ 30 เซนติเมตร ขณะนี้ป่านมา 3 ปี กว่า บางต้นมีความสูงเกือบ 300 เซนติเมตร คาดว่าสัก 1-2 ปี น่าจะออกดอกผลให้ชมกันบ้าง
ที่มา : ดร.ไพโรจน์ สุขจั่น.คู่มือเกษตรกรไทย ปลูกไม้ยืนต้น ผลกินได้ โครงการลดภาวะโลกร้อน