การเลี้ยงสัตว์เป็นบุญหรือเป็นบาป
ปุจฉา -วิสัชนา กับพระไพศาล วิสาโล
เกด ธนิสาร ปุจฉา : กราบนมัสการพระคุณเจ้าค่ะ ดิฉันอยากทราบว่าการนำสัตว์มาเลี้ยงเป็นบุญหรือเป็นบาปคะ? เนื่องจากตอนนี้หลานสาวซื้อกระต่ายมาเลี้ยงไว้ในกรง ดิฉันรู้สึกไม่สบายใจ เพราะคิดว่าการนำเขามาขังอย่างนี้อาจะเป็นบาปกับเรา แต่ถ้าเอาไปปล่อยก็เกรงว่าจะถูกสัตว์อื่นทำร้ายอีก ควรจะทำอย่างไรดีคะ
วิสัชนา : การเลี้ยงสัตว์ไม่ได้เป็นบาปเสมอไป อาจเป็นบุญด้วยซ้ำหากช่วยเหลือเอื้อเฟื้อเขาให้มีความสุข (บางคนเอามาเลี้ยงเพราะอยากช่วยให้พ้นทุกข์จากคนขาย) แต่ถ้าหากการเลี้ยงนั้นทำให้เขาเดือดร้อนเป็นทุกข์ กลายเป็นการเบียดเบียน ก็เป็นบาปได้ การกักขังเขานั้นเขาย่อมไม่ชอบ จะเรียกว่าเป็นบาปก็ได้ แต่ก็ไม่ใช่บาปหนัก เลี้ยงสัตว์แบบนี้จึงได้ทั้งบุญและบาป แต่ถ้าดูแลเขาให้ดีๆ ก็เป็นบุญมากกว่าบาป
จะว่าไปแล้วการเลี้ยงสัตว์ หลีกเลี่ยงการทำบาปได้ยาก (แม้ไม่ทำกับเขาก็อาจทำกับสัตว์อื่นที่รบกวนเขา เช่น แมลง) ดังนั้นก่อนจะเลี้ยงสัตว์ ก็ควรไตร่ตรองให้ดี หรือถ้าจำเป็นต้องช่วยเขา ก็ต้องพร้อมรับภาระและผลเสียที่จะเกิดขึ้นตามมา
เมื่อสัตว์ได้ฟังธรรมแล้วจะเป็นประโยชน์ไหม
เนียง เอกชัย ปุจฉา : นมัสการครับ อยากถามว่าสัตว์เลี้ยงที่ได้ลาจากกายหยาบ แต่นอนตาไม่หลับ ทุกคืนตอนมีชีวิตได้ฟังคนในครอบครัวสวดมนต์ให้ฟัง จนถึงสิ้นลมคนในครอบครัวก็ทำบุญถวาย, สังฆทาน, สวดมนต์ เขาจะไปสุขคติได้หรือไม่
วิสัชนา : ในพระไตรปิฎกและอรรถกถามีเรื่องเกี่ยวกับสัตว์ เช่น ไก่ กบ งู ค้างคาว ที่ได้ฟังเสียงสวดมนต์หรือได้ฟังธรรมแล้ว จิตใจก็สงบ เป็นกุศล (แม้ไม่รู้ความหมายของบทสวดหรือธรรมะ) แล้วจู่ๆ ก็ตายไปในขณะนั้น (เช่น ถูกฆ่า) ปรากฏว่าได้ไปเกิดเป็นมนุษย์บ้าง เทวดาบ้าง มีพระอรหันต์หลายท่านที่ชาติก่อนหน้านั้นเป็นสัตว์ที่บังเอิญได้ฟังธรรมหรือได้ฟังเสียงสวดมนต์
จากเรื่องราวที่ยกตัวอย่างมา แสดงว่าสัตว์นั้น (อย่างน้อยก็บางชนิด) มีจิตใจที่สามารถน้อมนำให้เป็นกุศล ซึ่งส่งผลต่อภพภูมิในชาติถัดไป