เกือบจะตายฟรีเสียแล้ว นายสนิท หลักโคตร เฒ่าวัย 60 ชาวบางระกำ จ.พิษณุโลก ที่นึกอุตริโชว์หนังเหนียว เปิดอกลายสักยันต์ ท้าทาย พระปัตสา ญาณจาโส อายุ 75 ปี พระลูกวัดบางระกำ ให้ใช้ปืน .22 ยิงตัวเอง เพราะคิดว่าอยู่ ยงคงกระพัน

โป้งเดียวหงายหลัง...!?!

ที่มาของเรื่องเกิดจากการที่ทั้งคู่เกิดมีปากเสียงกัน ฝ่ายนายสนิท เอาวัวเข้ามาผูกเลี้ยงในวัดใกล้กุฏิที่พระปัตสาอาศัยอยู่ โดยที่ฝ่ายพระไม่พอใจเพราะมองเป็นเรื่องสร้างความเดือดร้อนรำคาญ อีกทั้งยังระแคะระคายมาว่านายสนิท ชอบแอบงัดกุฏิเข้าไปขโมยไฟฟ้าใช้เป็นประจำ

ทั้งคู่เปรียบเหมือนขมิ้นกับปูน วันเกิดเหตุโคจรมาพบกัน ศึกน้ำลายจึงเกิดขึ้นในวัดแห่งนั้น

ฝ่ายฆราวาสคิดว่าตัวเองมีของดีเป็นลายสักยันต์ ขณะที่ฝ่ายพระมีปืนอยู่ในย่าม คิดว่าต่อให้ขลังอย่างไรก็หนีลูกปืนไม่ได้ทั้งนั้น

ต่างฝ่ายต่างถือดีด้วยกันทั้งคู่จนเกิดท้าทายกัน

ผลคือนายสนิทถูกยิงอกทะลุปางตาย ฝ่ายพระถูกจับสึกดำเนินคดีเดี๋ยวนั้น

คนหนึ่งสาหัสอีกคนถูกจับยัดห้องขัง!??

ปฐมบทของเหตุการณ์ เกิดขึ้นตอนบ่ายวันที่ 11 ก.ย. พ.ต.ท.อุบล กันทะเขียว พงส.(สบ3) สภ.บางระกำ รับแจ้งเหตุยิงกันในวัดบางระกำ หมู่ 14 ต.บางระกำ อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก จึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบตามลำดับชั้น พร้อม พ.ต.ท.วิเชียร ทองน้อย สว.สส.สภ.บางระกำ และเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน รุดไปตรวจสอบพร้อมกัน

การเข้าไปตรวจที่เกิดเหตุสุดทุลักทุเล เพราะที่วัดบางระกำมีน้ำท่วมขังสูงกว่า 50 ซ.ม. ที่หน้ากุฏิพระปัตสา พบเพียงกองเลือดหยดเป็นทาง ส่วนนายสนิทคนถูกยิงถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลพุทธชินราชไปก่อนหน้า ซึ่งนายสนิทไม่ใช่ใครที่ไหน เป็นชาวบ้านในต.บางระกำใกล้ๆ วัดเข้ามาเลี้ยงวัวอยู่ที่วัดแห่งนี้เป็นประจำ ถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาด .22 เข้าชายโครงด้านขวา กระสุนฝังในอาการสาหัส ซึ่งมือยิงไม่ใช่ใครที่ไหน คือพระปัตสาที่ยืนถือปืนรอ มอบตัวอยู่ตรงนั้น

สารวัตรวิเชียร พาตัว พระปัตสา ไปสึกจากการเป็นพระ กลายเป็น นายปัดสา ทองแม่น นำตัวมาดำเนินคดีพร้อมยึดอาวุธปืนออโตเมติก ขนาด .22 กระสุน 4 นัด ไว้เป็นของกลางนำตัวไปสอบปากคำ

จากพระกลายเป็นผู้ต้องหาทันที

นายปัดสา ให้การว่า บวชเรียนมา 11 พรรษา ก่อนเกิดเหตุได้มีปากเสียงกับนายสนิทผู้บาดเจ็บซึ่งชอบนำวัวเข้ามาเลี้ยงก่อกวนในวัดและมีนิสัยเป็นนักเลง ซึ่งพระในวัดไม่มีใครกล้ายุ่งด้วย ก่อนเกิดเหตุนายสนิทได้เข้ามางัดประตูกุฏิของเณรกอล์ฟเพื่อต่อไฟฟ้าซึ่งขณะนั้นเณรไม่อยู่ได้ออกไปฉันเพลข้างนอก ตนเห็นเข้าจึงได้เข้าไปต่อว่าที่งัดห้องพักของเณรโดยพลการ จะต้องรับผิดชอบและนำกุญแจมาเปลี่ยนให้กับเณรด้วย แต่นายสนิทกลับพูดจาอย่างโมโห ด่าว่ามายุ่งเกี่ยวอะไรด้วยก่อนที่จะมีปากเสียงกันขึ้น

นายปัดสา กล่าวต่อว่า จากนั้นเจ้าตัวได้พูดจาท้าทาย ถ้าแน่จริงให้เอาปืนมายิงเลย โดยได้เลิกเสื้อยืดโชว์ลายสักยันต์เต็มหน้าอก พร้อมกับเดินตรงเข้ามาหาเหมือนจะทำร้ายร่างกาย ตนจึงได้ชักอาวุธปืนที่พกอยู่ที่เอว ออกมาจ่อยิงไป 1 นัด ก่อนที่นายสนิทจะกุมหน้าท้องเดินออกไป สำหรับอาวุธปืนมีมานานกว่า 5 ปีแล้ว โดยซื้อมาจากเพื่อนในราคา 4,500 บาท แล้วพกไว้เพื่อป้องกันตัว ส่วนสาเหตุที่ใช้อาวุธปืนได้อย่างคล่องแคล้วเพราะเคยเป็นทหารมา 3 ปี

ขณะที่นายปักษา ทับทิมทอง อายุ 24 ปี อยู่บ้านเลขที่ 187/1 ม.1 ต.บางระกำ อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก พยานที่เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า ขณะเกิดเหตุมาที่วัดพอดี เห็นนายสนิทกำลังงัดประตูกุฏิเณรรูปหนึ่งที่อยู่ใกล้กับกุฏิพระปัตสา เพื่อจะต่อไฟฟ้าไปห้องน้ำ จังหวะนั้นพระปัตสาได้เดินมาสอบถามนายสนิทจนเกิดมีปากเสียงกัน โดยนายสนิทพูดท้าทายพร้อมกับโชว์รอยสักยันต์หน้าอกและท้าให้ยิง เมื่อได้ยินดังนั้นพระปัตสาจึงชักปืนออกมายิงตามคำท้า 1 นัด กระสุนถูกท้องนายสนิทล้มฟุบลงตรงนั้น

"นี่ก็พระนั่นก็โยมไม่น่ามีปัญหากัน"

อาการของนายสนิทพ้นขีดอันตราย ท่ามกลางความอกสั่นขวัญแขวนของภรรยาและญาติ ที่ไม่คิดว่าจะเกิดเหตุร้ายแบบนั้น

ยังดีที่ปืนที่ใช้ยิงเป็นปืนขนาดเล็ก .22 อานุภาพการทำลายไม่ร้ายแรงและยิงไม่ถูกจุดสำคัญ

มิเช่นนั้นอาจกลายเป็นศพเพราะเชื่อของขลัง!?!