ความขัดแย้งแปลว่ากำลังหาหนทางอยู่
คันฉ่องและโคมฉาย ฝ่าวิกฤติเมืองไทย (6) โดย ว.วชิรเมธี
การลุกลามของปัญหามากมายในห้วงเวลาที่ผ่านมานั้น มาจากสาเหตุสำคัญประการหนึ่งก็คือ การบังคับใช้กฎหมายอย่างหละหลวมมาอย่างยาวนาน ส่งผลให้ “กระบวนการนอกประชาธิปไตย” ในรูปแบบต่างๆ ก่อตัวขึ้นอย่างเข้มแข็ง และปฏิบัติการท้าทายกฎหมายบ้านเมืองอย่างต่อเนื่องยาวนานหลายกลุ่ม หลายกระบวนการ หลายสีเสื้อ จนกระทั่งเจ้าหน้าที่รัฐเองไม่กล้าแม้แต่จะทักท้วง หรือไม่อาจหยัดยืนที่จะบังคับใช้กฎหมายให้ศักดิ์สิทธิ์เอากับกลุ่มใด
ผลก็คือ ประเทศเข้าสู่สภาวะ “อนาธิปไตย” ที่กฎหมายไม่มีผลในทางปฏิบัติ บ้านเมืองไร้ขื่อแป สภาวะเช่นนี้ ควรจะเป็นบทเรียนสำคัญที่คนไทยต้องเรียนรู้ร่วมกันว่า ในอนาคตจะต้องไม่มีปฏิบัติการนอกกฎหมายเช่นนี้เกิดขึ้นอีก
การเมืองการปกครองในระบอบประชาธิปไตยนั้น ประชาชนทุกคนเป็นเจ้าของอำนาจอธิปไตยร่วมกัน ดังนั้น ทุกคนจึงมีสิทธิเสรีภาพในด้านต่างๆ อย่างสมบูรณ์ภายใต้ข้อตกลงร่วมกันว่า “เสรีภาพภายใต้กรอบของกฎหมาย” แต่ถ้าหากกฎหมายไม่ศักดิ์สิทธิ์ เสรีภาพที่มีก็จะกลายเป็นเสรีที่จะทำอะไรก็ได้ ไม่เว้นแม้แต่เสรีที่จะทำร้ายประเทศชาติบ้านเมืองอันเป็นที่รักยิ่งของตนเองมาก่อน
ถ้ากฎหมายศักดิ์สิทธิ์ เสรีภาพจะต้องไม่เกินกรอบของกฎหมาย ทำอย่างไร เราจะร่วมกันสร้างวัฒนธรรมการเคารพกฎหมายให้เป็นวิถีชีวิตของคนไทย และทำอย่างไรเราจะทำให้มีการบังคับใช้กฎหมายอย่างศักดิ์สิทธิ์เสมอภาคกันในทุกกาลเทศะ คำว่า “สองมาตรฐาน” จะต้องหมดไป ไม่ปล่อยให้กลายเป็นเงื่อนไขที่ถูกหยิบยกขึ้นมาทำร้ายคนไทยด้วยกันอีก
นี่เป็นโจทย์ใหญ่อีกข้อหนึ่งที่คนไทยทั้งหมดจะต้องตอบร่วมกัน เพราะหากสังคมไม่มีกฎหมายเป็นหลักประกันในการอยู่ร่วมกันอย่างสันติ ความวุ่นวายจากกลุ่มผลประโยชน์ต่างๆ ก็จะเกิดขึ้นไม่สิ้นสุด และเมื่อคุมกันไม่อยู่ ผลสุดท้ายก็จะลงเอยด้วยเลือดและน้ำตาซ้ำซาก ประเทศไทยจะจมอยู่แต่ฉากเดิมๆ กับตัวละครเดิมๆ ไม่มีวันก้าวกระโดดออกมาจากวิกฤติอย่างยั่งยืน
๓.หยุดการใช้ความรุนแรงแล้วเปิดเวทีกลางเพื่อหาทางเจรจาร่วมกันระหว่างรัฐและผู้ชุมนุม
ที่ประเทศแอฟริกาใต้เมื่อหลายสิบปีมาแล้ว เคยเกิดสงครามกลางเมืองระหว่างชนผิวดำเจ้าของประเทศและผู้กุมอำนาจรัฐซึ่งเป็นฝรั่งผิวขาว ในสงครามกลางเมืองคราวนั้น ผู้นำทางการเมืองชาวแอฟริกาใต้คือ เนลสัน แมนเดลา ใช้วิธีการแบบกองโจรในการเข้าปล้นอำนาจรัฐคืน ครั้งแล้วครั้งเล่า แต่ไม่เพียงไม่ประสบความสำเร็จเท่านั้น สงครามกลางเมืองยังนำไปสู่การบาดเจ็บล้มตายของประชาชนดั่งใบไม้ร่วง ตัวเขาและมิตรสหายก็กลายเป็นอาชญากรที่รัฐประกาศจับ ต้องมีชีวิตอยู่อย่างหลบๆ ซ่อนๆ เป็นเวลายาวนาน ยิ่งรบยิ่งมองไม่เห็นทางชนะ ยิ่งสู้ยิ่งเข้าตาจน สูญทั้งเงิน สูญทั้งชีวิต ยิ่งใช้วิธีการจรยุทธสันติภาพยิ่งห่างออกไปทุกที