ดวงพม่า ฉายา พรายกระซิบ-1
โดย.....แม้นเมือง
ตอนที่ 1 : กรรมเก่าในอดีตชาติ กำหนดชะตาใหม่ในชาตินี้ว่าเมื่อ เราเกิดมาต้องเป็นอย่างไร ...
ชายวัยกลางคนรูปร่างผอม ทำหน้า งง ๆ เดินมาเขม้นมองป้าย ที่เขียนไว้หน้าโต๊ะอยู่สักพัก แล้วถามว่า “ดูดวงพม่าเหรอ ?”
“ค่ะดูดวงพม่าค่ะ”
“อ้าว ! คนไทยทำไมไม่ใช้ดวงไทยดู คนไทยดูดวงพม่ามันจะใช้กันได้หรือ ?”
อึ้ง !!? เออมีเหตุผลแฮะ....
”เดี๋ยวลุงจะนั่งรอนะ ดูดวงเท่าไหร่ล่ะ”
อ้าววว...นึกว่าไม่ดูเห็นถามซะ..! “เชิญนั่งเลยค่ะ จะอธิบายให้ฟัง”
มิงกะลาบาเชี้ยน (สวัสดีค่ะ) ทักทายกันแบบภาษาพม่าเลยนะ ขึ้นชื่อว่า ดวงพม่า คาดว่าคงเป็นเรื่องที่น่าสนใจอยู่ไม่น้อย เพราะหลายคน ศรัทธาในความ แม่นยำของศาสตร์นี้ ยิ่งชาวพม่าด้วยแล้ว การดูดวงนั้นเปรียบเสมือนเป็น อาหารมื้อหนึ่ง เลยทีเดียว แม้แต่เว็บไซต์ของรัฐบาล ก็ยังมีการออกคำทำนายโชคชะตาตามราศี ไว้บริการให้กับ ประชาชน
นอกจากนี้ยังมีการจัดนักพยากรณ์ของทางราชการ ไว้คอยทำนายโชคชะตา บริการให้กับประชาชนเป็นรายวันอีกด้วย ถึงขนาดหยอกล้อ กันว่า หากไม่รู้ว่าจะทำมาหา กินอะไร ก็ให้ยึดอาชีพ เป็นนักพยากรณ์ทำมาหากินได้ แต่ผู้ที่ประกอบวิชาชีพนี้ก็ใช่ว่าจะมี ชื่อเสียงได้โดยง่าย เพราะผู้ที่จะเป็นนักพยากรณ์ ได้นั้น ต้องเป็นบุคคลที่น่าเชื่อถือในสังคม เช่น พระสงฆ์ ร่างทรง ผู้ถือศีล หรือบุคคลที่ ชาวบ้าน เชื่อว่ามีญาณพิเศษ นั่นหมายความว่า นักพยากรณ์ต้องเกี่ยวข้อง กับความ ศักดิ์สิทธิ์หรือ ที่เรียกว่า “พลังแห่งเทพ” ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง เนื่องจากชาวพม่ามีความเชื่อ ในเรื่องความฝัน และคำเล่าลือ และเป็นความเชื่อที่ไม่ต้องการ คำอธิบายเหตุผล และเชื่อว่าเป็นจริงโดยไม่ ต้องพิสูจน์ และเชื่อว่าบางครั้งความฝัน เสามารถบอกเหตุการณ์ ล่วงหน้าได้ จึงมักนำความฝันโดยเฉพาะเป็นฝันดี ไปปรึกษานักพยากรณ์เพื่อตี ความหมายเสมอ
ปัจจุบันเมื่อกล่าวถึงประเทศพม่า เราอาจนึกถึงความเป็นคู่ปรับ กันมาในอดีต และทางกีฬาก็ชิงดีชิงเด่นกัน ที่จริงแล้วพม่านับเป็นเพื่อนบ้าน ที่มีอาณาเขต ติดต่อกับ ประเทศไทยมากที่สุด จึงไม่น่าแปลกที่วิชา โหราศาสตร์ของพม่า จะไหลเข้ามาใน ประเทศไทย ถ่ายทอดสู่คนไทย และเป็นมรดกตกทอดสู่คนหลายรุ่น มาจนถึงทุกวันนี้
ในตอนที่ 1 นี้ ผู้เขียนอยากจะทำความเข้าใจให้ท่านผู้อ่านผู้มีเกียรติได้ทำความรู้จักกับศาสตร์ของด
วงพม่ากันก่อนว่า หลักการตั้งดวงชะตาหรือที่เราเรียกว่า “แผนธาตุ” นั้นมีอยู่ 2 ระบบ คือ
1. ตั้งแผนธาตุด้วยระบบ วัน – เดือน – ปี
2. ตั้งแผนธาตุด้วยระบบ ปี – เดือน – วัน
แต่เราก็ใช้หลักการพยากรณ์จาก วัน เดือน ปีเกิด เช่นเดียวกับโหราศาสตร์โดยทั่วไป ส่วนการทำนายนั้นมีเทคนิคมากมาย เช่น ใช้ยาม(เวลา)ก็ได้, ใช้ชื่อก็ได้, ใช้วันเกิด ปีเกิด ก็ด๊ายยย…..ค่ะ แต่ผู้เขียนต้องขอออกตัวไว้ก่อนเลยว่า ผู้เขียนยังมิอาจเป็นผู้เชี่ยวชาญ ในศาสตร์นี้มากนัก ที่เขียนมาเล่านี้อาศัยประสบการณ์ที่ดูดวงให้ลูกค้าเป็นอาชีพมาพอสมควร ยังต้องปรึกษาหารือ กับอาจารย์ดวงพร ผู้ประสิทธิ์ประสาทวิชานี้มาให้อยู่เป็นประจำ ซึ่งผู้เขียนเองถือเป็นวาสนายิ่งนัก ผิดพลาดประการใดต้องขออภัยครูบาอาจารย์ มา ณ ที่นี้ด้วยค่ะ
หลายคนเข้าใจว่าดวงพม่า เหมือนกับวิชาเลข 7 ตัวของไทย อาจจะคล้ายกันตรงที่ว่าใช้ดาวเพียง 7 ดวงเหมือนกัน แต่หลักการ วางรูปดวงชะตาซึ่งเราจะใช้ระบบที่ 2 และในการเปลี่ยนปีเกิดนั้น เราจะใช้การเปลี่ยน จ.ศ. แทน พ.ศ. ทำให้ มีหลักในการพยากรณ์ ต่างกันคนละขั้ว ความพิเศษของดวงพม่า คือ มีศาสตร์รองรับการทำนายได้ครบถ้วนทุกเรื่องราวได้อย่างละเอียดลึกซึ้ง โดยเฉพาะด้าน การวิเคราะห์พฤติกรรมของคน โดยหลักของการพยากรณ์ ดวงพม่า ประกอบด้วย :
1. วิชาทักษาพยากรณ์ ดาวที่เสวยอายุก่อให้เกิดโชคหรือเคราะห์
2 . วิชามหาบท (กาลโยค) คือจุดตัดสินบ่งบอกคุณภาพของดาวว่าจะให้ผลออกมาในทางใด
3. วิชาแผนธาตุ คือรูปดวงชะตา วางโดยใช้ระบบปีเดือนวัน นั่นคือ วาสนาชะตาชีวิตตลอดอายุขัย
4. วิถีธาตุ เปรียบเสมือนกราฟที่บ่งบอกช่วงวัยของชีวิตว่าขึ้นลงระดับใด
5. หลักแห่งเสามหาพุทธะ ใช้บ่งบอกคุณภาพของเรือนชะตาในวิชาแผนธาตุประกอบการทำนาย
6. วิชาการจับยาม (เวลา) เพื่อตัดสินเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้น
7. หลักแห่งนามวิญญาณ ใช้ชื่อของบุคคล เพื่ออ่านเหตุการณ์ พฤติกรรม และความในใจของบุคคลนั้น
8. หลักแห่งชัยภูมิศาสตร์ ใช้จัดบ้านที่อยู่อาศัยให้เหมาะกับดวงชะตา
9. หลักแห่งพิธีกรรม เพื่อแก้ไขเคราะห์ ฯ เช่น การบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ พฤติกรรมที่กระทำแล้วเป็นผลดี
ความเชื่อในทางวิชาโหราศาสตร์ เชื่อว่า ชะตาชีวิตคนเราได้ถูกกำหนดมาแล้วส่วนหนึ่ง ณ วันที่เราแหกปากอุแว้เป็นครั้งแรก กรรมเก่าในอดีตชาติ กำหนดชะตาใหม่ในชาตินี้ว่าเมื่อเราเกิดมาต้องเป็นอย่างไร ....กรรมเก่าลิขิตมาแล้วครึ่งหนึ่ง อีกครึ่งหนึ่งคือเราต้องกำหนด ชีวิตเราเอง พฤติกรรมความประพฤติที่เรากระทำ เป็นผู้ที่จะนำพาชะตาชีวิตของเราให้ดีหรือเลว เป็นเศรษฐีหรือยาจก เป็นนายหรือเป็นบ่าว ขึ้นสวรรค์หรือลงนรก...คนละครึ่งจริงหรือไม่จริง
ผู้เขียนขอยกตัวอย่างดวงจริงจากลูกค้าคนหนึ่ง เธอเป็นหญิงสาววัยราว 40 เห็นจะได้ กว่าเธอจะมาถึงก็เป็นเวลาเกือบ 4 โมงเย็นแล้วเพราะมัวแต่ไปหลงทาง เข้าซอยไม่ถูก ผู้เขียนเริ่มจับยาม ณ เวลาที่เธอก้าวพ้นประตูเข้ามา จึงรู้ว่าครั้งนี้เธอมีความทุกข์อยู่ 3 ข้อ
ข้อที่ 1 คือเรื่องงานที่เธอเพิ่งลาออกมาจากงานราชการ มาทำงานเอกชนยังไม่รู้ชะตากรรม
ข้อที่ 2 คือ การเงินของเธอไม่พอใช้แถมมีหนี้ด้วย
ข้อที่ 3 คือ เรื่องความรัก เธอไปรักคนที่เขามีเจ้าของแล้ว เขารักเธอด้วยหรือปล่าวก็ไม่รู้
ผู้เขียนวิเคราะห์ดวงของเธอให้อย่างละเอียดทุกเรื่องราวจนเธอร้องให้ด้วยความตื้นตัน
แต่ในที่นี้ถ้าจะบรรยายทุกเรื่องพื้นที่เขียนคงไม่พอแน่ๆ จึงขออนุญาตยกเฉพาะเรื่องความรักของเธอมาวิเคราะห์เพื่อเป็นตัวอย่าง ให้เห็นดวงพม่าแบบชัดๆ
เธอผู้นั้น (ขอสงวนนาม) เกิด 20 มีนาคม 2505 ก่อนฟ้าสาง วางรูปชะตาออกมาดังนี้ :
เมื่อเห็นดวงของเธอแล้วผู้เขียนรู้สึกสงสารเธอมาก เธอยังไม่แต่งงานแน่นอน เพราะดาวศุภะ ที่เป็นดาวแต่งงานของเธออยู่ตำแหน่ง ตีนเสา (เปรียบคือรากของต้นไม้) แถมยังได้ตำแหน่งเสื่อมอีกด้วย หากเป็นแบบนี้ชีวิตนี้ไม่มีโอกาสได้ใส่ชุดเจ้าสาวแน่นอน ดาวปัตนิ ที่หมายถึงคู่ครองก็ได้ตำแหน่งทุกขัง มีรักเมื่อใดก็มีทุกข์เมื่อนั้น เธอมีแฟนมาหลายคนแล้วแต่ไม่เคยคบกับใครยืดเลย เพราะดาวเจ้าเรือนความรัก ตกอยู่ในตำแหน่งปูติ (แปลว่า พลัดพราก) แต่ก็ได้ตำแหน่งราชาในมหาบท หมายความว่ากว่าจะทิ้งเธอไปก็ไถเงินเธอไปเยอะ และที่เป็นหนี้อยู่ ทุกวันนี้ก็เพราะอุปถัมภ์แฟน (ที่เธอคิดเอาเอง) นี่แหละ
“ตอนนี้รู้จักเพื่อนใหม่คนนึง เขาเป็นยังงัยคะ แต่หนูไม่รู้วันเดือนปีเกิดเขานะคะ เขาชื่อ .....ส. ค่ะ” คงต้องนำชื่อมายิงที่ดวงประจำวัน นั้นเพื่อทาย “โอ๊ย..เขามีภรรยาอยู่แล้ว เป็นตำรวจชั้นผู้น้อย กำลังมีปัญหากับภรรยา แถมตัวเองก็ป่วยเป็นโรคเกี่ยวกับไต ต้องหาหมอบ่อยด้วย เขาไม่ได้รักเรา คิดแค่เพื่อน แต่เขากำลังหาที่พึ่งต่างหาก” “ หนูสงสารเขา เขาไม่มีเงินไปหาหมอ หนูจะให้เขายืมดีมั๊ย” ? “ไม่ดีแน่” “หรือคะ” ทำหน้าเศร้าเสียงอ่อยอีกแล้ว “แล้วมีอีกคนนึงชื่อ น....” เอ้า..เอาเข้าไปยังไม่เข็ดอีก..”หนูจะได้แต่งงานกับเขามั๊ยคะ” จะคบใครก็ไม่เป็นไรหรอกนะแต่อย่าให้เขายืมเงิน เพราะจะไม่ได้คืน เป็นกรรมเก่าต้องอดทน ต้องรอให้ชีวิตอยู่ในวัยคู่ครอง คือ
อายุ 43 –45 ช่วงนั้นจะมีแฟนได้ แต่ก็ต้องเลือกให้ดี ดวงแบบนี้ต้องทำบุญเพื่อเปลี่ยนรูปแบบกรรมให้ส่งผลในทางที่ดี ก็จะมีคู่กับเขาได้เหมือนกัน
* ดวงนี้ไม่มีแฟนไม่ได้แต่งงาน ต้องไปปลูกต้นพุทราในสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ แล้วต้องคอยดูแล อย่าให้ตาย ต้องให้รากของต้นไม้ยาวถึงศอกจึงจะได้แต่งงาน (กว่าจะถึงศอกคงต้องรอ จนเฒ่า ถ้าอายุขนาดนี้ไม่ต้องปลูกก็ได้เพราะหมดไฟแล้ว ให้สาวๆ เขาปลูกกันเถอะ)
* มีแฟนแล้วไม่ดีมีแต่ทุกข์ ต้องใส่บาตรด้วยส้ม4 ผล เป็นประจำแล้วกรวดน้ำแผ่เมตตา ทุกข์ก็จะคลายลง
* พูดแล้วไม่มีคนเชื่อ ไม่มีคนเกรงใจ ให้งดรับประทานอาหารที่หมูกิน เช่น หยวกกล้วยต้นบอนคัน ห้ามกินหนังหมู ไส้หมู เลือดหมู กินได้แต่ เนื้อหมู ทำได้เช่นนี้พูดแล้วจะมีคนเกรงใจศรัทธา
* แฟนไม่อุปถัมภ์เรื่องเงิน ให้แจกหนังสือธรรมะเป็นทาน ปิดทองพระประธาน จำนวนเท่า อายุทุกปี จะมีคนอุปถัมภ์
***ดูดวงแล้วก็ให้รู้ทันดวงนะ ต้องแก้ไข อย่าไปคล้อยตามดวง ถ้าดวงไม่ดีก็ ต้องทำให้ ดีกว่าดวง หากทำตามที่แนะนำให้ครบทุกข้อ แล้วจะดีเอง
ตอนนี้ก็ค่ำมากแล้วรีบกลับบ้านเถอะ บ้านอยู่ซอยลึกไม่ใช่เหรอ รอเข้าพร้อม คนอื่น นะจะได้ไม่อันตราย......โชคดีนะคะ ไปทำงานที่ใหม่ขอให้ขยัน ไม่ขาดลามาสาย จะดีเอง***