หลวงพ่อคูณน้ำหนักเพิ่มเป็น 41.5 กิโลกรัม สภาพร่างกายพร้อมรับการผ่าตัด แพทย์เจาะเลือดตรวจก่อนส่งศิริราช
6 ก.ย.54 ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าอาการอาพาธของพระเทพวิทยาคม หรือหลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ เจ้าอาวาสวัดบ้านไร่ ต.กุดพิมาน อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา
ล่าสุดผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา คณะแพทย์ที่ทำการรักษา รวมถึงลูกศิษย์คนสนิทต่างพากันลงมติว่า จะนำตัวหลวงพ่อคูณเข้าทำการผ่าตัดเจาะช่องท้อง เพื่อให้อาหารผ่านทางสายยางที่โรงพยาบาลศิริราช ทางคณะแพทย์จะนำตัวหลวงพ่อคูณ เดินทางโดยเครื่องบินของสำนักฝนหลวงและการบินเกษตร ในวันที่ 8 ก.ย. 2554 นี้
เมื่อเวลา 11.30 น. ทางคณะแพทย์พยาบาลได้ทำการเจาะเลือดของหลวงพ่อคูณเพื่อนำไปตรวจวิเคราะห์ผลทางแล็ป ดูว่าหลังจากการหยุดให้ยาละลายเลือดมาตั้งแต่เมื่อวันที่ 2 ก.ย.2554 จนถึงปัจจุบันแล้วผลออกมาเป็นอย่างไร เพราะก่อนหน้านี้ทางคณะแพทย์จำเป็นที่จะต้องให้ยาละลายเลือดกับหลวงพ่อคูณเนื่องจากเกรงว่าโลหิตของหลวงพ่อคูณจะไปอุดตันเส้นเลือดที่ไปหล่อเลี้ยงสมอง รวมถึงหัวใจ จนอาจจะทำให้อาการทรุดลงได้ แต่เมื่อมีการเตรียมการที่จะทำการผ่าตัดหลวงพ่อคูณในครั้งนี้ก็จำเป็นที่จะต้องหยุดการให้ยาละลายเลือด เพื่อเนื่องจากหากหลวงพ่อคูณยังรับยาละลายเลือดอยู่ในยามผ่าตัดจะเกิดปัญหาเลือดไหลไม่หยุดและเป็นอันตรายกับหลวงพ่อคูณได้
นอกจากนี้เลือดของหลวงพ่อคูณอีกส่วนหนึ่งจะถูกนำไปตรวจอย่างละเอียดเพื่อให้ทราบผลว่าหลวงพ่อคูณจะไม่มีการติดเชื้อในกระแสโลหิตแทรกมาอีก ก่อนที่จะนำตัวหลวงพ่อคูณส่งไปรักษาที่โรงพยาบาลศิริราชในวันที่ 8 ก.ย.2554 นี้
นายแพทย์พินิศจัย นาคพันธุ์ แพทย์ประจำตัวหลวงพ่อคูณ เปิดเผยถึงการเตรียมการเพื่อเคลื่อนย้ายตัวหลวงพ่อคูณไปทำการรักษาที่โรงพยาบาลศิริราชว่า ขณะนี้ทางคณะแพทย์จะต้องดูแลในเรื่องของสภาพร่างกายของหลวงพ่อคูณให้แข็งแรงเต็มที่ ซึ่งเบื้องต้นอาการโดยรวมในวันนี้หลวงพ่อคูณดูดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัดทั้งสภาพร่างกายที่มีการตอบสนองอาหารทางสายยางได้เป็นอย่างดีจนทำให้น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นจากเดิมที่เคยมีน้ำหนักตัวอยู่ที่ 35 กิโลกรัม เป็น 41.5 กิโลกรัมแล้ว
รวมถึงสภาพทางอารมณ์จากที่เคยซึมเศร้าขณะนี้ก็กลับมาเป็นเหมือนเดิม พูดคุยกับลูกศิษย์เป็นปกติ ซึ่งหากอาการของหลวงพ่อคูณยังคงเป็นเช่นนี้ไปจนถึงวันก่อนเดินทางในวันที่ 8 ก.ย.2554 ก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร และพร้อมที่จะเข้ารับการผ่าตัดได้ แต่อย่างไรก็ตามช่วงนี้คณะแพทย์จะต้องดูแลหลวงพ่อคูณอย่างดีเป็นพิเศษเพื่อให้สภาพของหลวงพ่อคูณพร้อมเต็มที่ และจะต้องมีการตรวจระบบต่างๆของร่างกายอย่างละเอียดที่สุดก่อนเดินทาง
นายแพทย์พินิศจัย กล่าวถึงความพร้อมในการส่งตัวหลวงพ่อคูณไปรับการผ่าตัดที่โรงพยาบาลศิริราช ว่า ขณะนี้การเตรียมพร้อมของทางโรงพยาบาลมหาราชนั้นมีความพร้อมเต็มที่ แต่ทั้งนี้ก็อยู่ที่ตัวของหลวงพ่อคูณเองด้วยว่าร่างกายของหลวงพ่อจะมีความสมบูรณ์พร้อมที่รับการผ่าตัดตามกำหนดหรือไม่ ซึ่งก็จำเป็นที่จะต้องดูอาการของหลวงพ่อไปจนกว่าวันเดินทางจะมาถึง ซึ่งหากว่าก่อนเดินทางหลวงพ่อคูณมีอาการทรุดลงไปอีก ก็จำเป็นที่จะต้องเลื่อนการเดินทางออกไปจนกว่าตัวหลวงพ่อเองจะพร้อม แต่หากไม่มีปัญหาอะไรก็จะเดินทางตามกำหนดการเดิม ซึ่งจะเริ่มเดินทางในช่วงเช้าของวันที่ 8 ก.ย.2554 โดยเครื่องบินของสำนักฝนหลวงและการบินเกษตร
ทางโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา จะจัดเตรียมคณะแพทย์รวมทั้งตนเองคอยดูแลหลวงพ่อคูณจำนวน 3 คน พยาบาลอีก 3 คน พร้อมอุปกรณ์การกู้ชีพ อุปกรณ์การช่วยชีวิต เครื่องช่วยหายใจ และอุปกรณ์การแพทย์ฉุกเฉินในระดับการเตรียมพร้อมสูงสุด เพื่อรับมือกับสถานการณ์ที่ไม่คาดฝัน และจะอนุญาตให้ลูกศิษย์คนสนิทติดตามไปด้วยไม่เกิน 2 คน เท่านั้น
นายแพทย์พินิศจัย กล่าวว่า ส่วนตัวแล้วประเมินว่าการเดินทางไปรับการผ่าตัดของหลวงพ่อคูณในครั้งนี้ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร เพราะส่วนตัวของหลวงพ่อคูณเองก็เคยถูกลำเลียงตัวทางเครื่องบินของสำนักฝนหลวงฯ ไปรับการผ่าตัดอาการเส้นเลือดในสมองแตกที่โรงพยาบาลศิริราชมาแล้วตั้งแต่เมื่อ 7 ปีก่อน ซึ่งในครั้งนั้นหลวงพ่อคูณก็ไม่ได้มีอาการแพ้เครื่องบิน หรือมีอาการผิดปกติในระหว่างลำเลียงตัวแต่อย่างใด ซึ่งในครั้งนี้ตนเองก็เชื่อว่าการลำเลียงหลวงพ่อคูณทางเครื่องบินก็ไม่น่าจะเกิดปัญหาขึ้นมาเช่นเดียวกันกับครั้งก่อน