หน้าแรก สมาชิก รายการวัตถุมงคล ตะกร้าวัตถุมงคล วิธีชำระวัตถุมงคล วิธีบูชาวัตถุมงคล ประวัติวัด ติดต่อวัด เว็บบอร์ด
สมาชิก Log in
อีเมล์
รหัสผ่าน
สมัครสมาชิกใหม่
ลืมรหัสผ่าน
















ค้นหาวัตถุมงคล
 
 
 
หมวดวัตถุมงคล
  เครื่องราง พระอาจารย์ป้อม
  พระเครื่อง พระอาจารย์ป้อม
  พระเครื่อง หลวงพ่อสวัสดิ์
  พระเครื่อง หลวงปู่พิมพ์มาลัย
  พระเครื่อง หลวงพ่อสง่า
วัตถุมงคลของคุณ
รหัสวัตถุมงคล ราคา จำนวน
ยังไม่มีวัตถุมงคลอยู่ในตะกร้า
  • ชำระค่าวัตถุมงคล
  • แก้ไขรายการวัตถุมงคล
  • วิธีสั่งบูชาวัตถุมงคล
  •  

    ศรีอยุธยา (4)

    สมเด็จพระรามาธิบดีที่ 2 พระราชโอรสของสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถครองราชย์นานถึง 38 ปี ในสมัยรัชกาลที่ 5 เมื่อทรงครองราชย์ขึ้นปีที่ 39 นับว่านานที่สุด โปรดฯ ให้จัดพระราชพิธีบวงสรวงสมเด็จพระบูรพมหากษัตริยาธิราชเจ้า มีสมเด็จพระรามาธิบดีที่ 2 เป็นอาทิ เสด็จขึ้นไปทำพิธีที่พระนครศรีอยุธยา
       
    คราวนั้นนักประวัติศาสตร์ยังคำนวณไม่พบว่าแท้จริงแล้วสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ พระชนกของสมเด็จพระรามาธิบดีที่ 2 ต่างหากที่ครองราชย์นานถึง 40 ปี นับว่านานที่สุด
       
    ประวัติศาสตร์ไทยต่างจากประวัติ ศาสตร์ต่างประเทศที่ว่าเราไม่ใคร่จะขีดเขียนอะไรไว้ชัดเจนแม่นยำนัก สิ่งที่พอจะพึ่งพาได้คือลำดับเหตุการณ์ในแต่ละรัชกาลซึ่งเรียบเรียงเป็นพระราชพงศาวดาร แต่ก็คลาดเคลื่อนเสียมาก เพราะ 1. มักเขียนเมื่อสิ้นรัชกาลแล้วจึงผิดพลาดได้เพราะใช้ความทรงจำ 2. คนเขียนต้องระวังไม่ให้กระทบพระเกียรติยศ บางครั้งถ้าเขียนในรัชกาลที่ได้อำนาจมาจากการแย่งชิงราชสมบัติก็มักเขียนถึงแผ่นดินก่อนด้วยอคติ 3. เมื่อตกทอดมาถึงชั้นหลังยังจะมีการชำระอีกหลายหนจึงมีการ “ตัดทอน” และ “แต่งเติม” ขึ้นใหม่ 4. พระราชพงศาวดารไทยให้ความสำคัญกับวันเดือนปี และเหตุการณ์เกี่ยวกับพระมหากษัตริย์มากกว่าชาวบ้านทั่วไป ทั้งการแปลงวันเดือนปีเป็นเวลาปัจจุบันก็ยิ่งยากมาก
       
    การจะศึกษาให้ได้ความจริงจึงต้องอ่านพระราชพงศาวดารอย่างไตร่ตรองด้วยเหตุผล แล้วเทียบเคียงกับบันทึกอื่นที่ร่วมสมัย เช่น บันทึกชาวต่างประเทศที่เข้ามาในสมัยนั้น ปูมโหร จดหมายเหตุบัญชีน้ำฝน พงศาวดารของต่างประเทศ เช่น พม่า ลาว กัมพูชา เป็นต้น อย่างเรื่องราวในสมัยสมเด็จพระนารายณ์เราได้ความรู้จากบันทึกที่บาทหลวงชาวฝรั่งเศสได้เขียนขึ้นในสมัยนั้นมากกว่าพระราชพงศาวดารของเรา และที่เรารู้ว่าคนไทยแต่งตัว กินอาหารอย่างไร ชีวิตความเป็นอยู่ บ้านเรือน แม่น้ำลำคลองเป็นอย่างไร เรารู้จากจดหมายเหตุของลาลูแบร์ ราชทูตฝรั่งเศสเป็นส่วนใหญ่
       
    เมื่อกรุงศรีอยุธยาแตกครั้งที่ 2 พม่าเกณฑ์คนไทยเป็นเชลยไปพม่า คราวนั้นคุมสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอุทุมพร กษัตริย์พระองค์ที่ 33 ซึ่งขณะนั้นผนวชเป็นพระไปด้วย พม่าเสียอีกที่อยากรู้เรื่องอยุธยา ได้สัมภาษณ์พระเจ้าอยู่หัวอุทุมพรและชาวบ้านที่เป็นเชลยว่าชีวิตความเป็นอยู่ของชาวอยุธยาเป็นอย่างไร แล้วจดบันทึกไว้ ภายหลังเราจึงไปแปลกลับมาเป็นภาษาไทยเรียกว่าคำให้การชาวกรุงเก่า คำให้การขุนหลวงหาวัด จากบทสัมภาษณ์นี้เองที่เรารู้ว่าชาวอยุธยากินอะไร ขนมอะไรยอดฮิต มีซ่องโสเภณีไหม อยู่ตรงไหน มีวัดอะไรบ้าง ตลาดอะไรบ้าง แม้แต่แผนที่แผนผังอยุธยาฝรั่งที่เข้ามาสมัยก่อนวาดขึ้นทั้งนั้น
       
    เมื่อสมเด็จพระรามาธิบดีที่ 2 สวรรคต พระราชโอรสคือพระอาทิตยวงศ์ได้ขึ้นเป็นสมเด็จพระบรมราชาหน่อพุทธาง กูร รัชกาลที่ 11 สมเด็จพระรามาธิบดีที่ 2 มีพระราชโอรสหลายพระองค์ นอกจากพระอาทิตยวงศ์ซึ่งได้เป็นกษัตริย์ต่อจากพระราชชนกแล้ว ยังมีพระไชยราชาและพระเทียรราชา ช่วยจำพระนามสองพระองค์นี้ไว้ด้วย เพราะต่อมาได้เป็นกษัตริย์ทั้งหมด
       
    สมเด็จพระบรมราชาหน่อพุทธางกูรเป็นกษัตริย์ได้ 4 ปีก็สวรรคตด้วยไข้ทรพิษ เจ้านายและขุนนางยกพระราชโอรส พระชนมพรรษา 5 พรรษาเป็นกษัตริย์รัชกาลที่ 12 ทรงพระนามว่าสมเด็จพระรัฎฐาธิราชกุมาร แต่เมื่อครองราชย์ได้เพียง 5 เดือนก็ถูกพระเจ้าอา (น้องชายของพ่อ) คือ พระไชยราชาจับสำเร็จโทษ (ประหารชีวิต) ในปี 2077 ซึ่งคือยึดอำนาจชิงราชสมบัตินั่นเองแล้วขึ้นครองราชย์เป็นสมเด็จพระไชยราชาธิราช รัชกาลที่ 13
       
    คนที่ดูหนังของท่านมุ้ยเรื่องสุริโยไทคงจะจำได้ว่าในหนังเรื่องนั้น พงษ์พัฒน์ วชิรบรรจง เล่นเป็นสมเด็จพระไชยราชาธิราช
       
    สังเกตไหมครับว่าตั้งแต่พระเจ้าอู่ทองทรงตั้งกรุงศรีอยุธยาในปี 1893 จนขึ้นแผ่นดินสมเด็จพระไชยราชาธิราช รวม 12 รัชกาล กินเวลา 184 ปี กรุงศรีอยุธยายังไม่เคยรบกับพม่าและไม่เคยทำสงครามใหญ่ ๆ เลย ถ้าจะมีเรื่องไม่สงบสุขก็คือการแย่งราชสมบัติกันเอง และการทำสงครามเล็ก ๆ เช่นกับเชียงใหม่ แต่บัดนี้จะลั่นกลองรบแล้วล่ะครับ!
       
    ประวัติศาสตร์นั้นต้องอ่านด้วยความระวัง ต้องศึกษาด้วยใจที่กว้าง เราอาจไม่รู้เหตุผลว่าทำไมคนสมัยก่อนจึงทำอะไรที่คนรุ่นเราเห็นว่าโหดร้าย ป่าเถื่อน หรือไม่ฉลาด เราต้องพิจารณาด้วยใจเป็นธรรม ไม่อาจใช้มาตรฐาน พ.ศ.นี้ ซึ่งมนุษย์ไปดวงจันทร์ได้ มีทวิตเตอร์ เฟซบุ๊ก กูเกิล นาโนเทคโนโลยี มีปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชนมาตัดสินความถูกผิดของคนยุคก่อน
       
    ขนาดใกล้ตัวเราแท้ ๆ เรายังไม่รู้จริงเลยว่าทำไมจึงเกิดการปฏิวัติ 19 กันยายน 2549 ทำไมคุณยิ่งลักษณ์จึงเลือกคนโน้นมาเป็นรัฐมนตรีแล้วไม่เอาคนนั้นซึ่งมีชื่อติดมาทุกโผตั้งแต่ต้น การที่พระไชยราชาจับหลานอาฆ่าแล้วขึ้นเป็นกษัตริย์ จะมองว่าทารุณโหดร้าย บ้าอำนาจมักใหญ่ใฝ่สูงก็คงได้ แต่กรุงศรีอยุธยาคราวนั้นกำลังเปราะบาง ขุนนางจะอาสัตย์อาธรรม์อ่อนแอหรือไม่ก็ไม่รู้ ซ้ำกษัตริย์ยังอายุแค่ 5 พรรษา ดีไม่ดียังไม่อดนมด้วยซ้ำ!
       
    ครั้งนั้นพม่าบ้านใกล้เรือนเคียงของเราและเป็นใหญ่อยู่ทางทิศตะวันตกยกทัพลงไปทางใต้ตีมอญได้สำเร็จ พม่ากับมอญนั้นเป็นคนละอาณาจักร ยิ่งใหญ่พอกัน แต่มอญดูจะเป็นปัญญาชนกว่า เพราะรุ่งเรืองด้วยพุทธศาสนา พระเก่ง ๆ นักปราชญ์ดัง ๆ เป็นมอญทั้งนั้น กฎหมายที่ไทยใช้มาแต่สร้างกรุงคือพระธรรมศาสตร์ เราก็ได้มาจากพระธัมมสัตถัมของมอญ ซึ่งมอญไปได้มาจากอินเดียอีกทอด เมืองหลวงพม่าคืออังวะ เมืองหลวงมอญคือหงสาวดี แต่มีเมืองใหญ่อีกแห่งไม่ขึ้นต่ออังวะคือตองอูซึ่งต่อมาตีอังวะได้
       
    กษัตริย์ตองอูยุคนั้นคือพระเจ้าตะเบ็งชะเวตี้ เชื้อสายพม่าได้ร่วมกับญาติซึ่งเป็นนักรบชื่อบุเรงนอง (แปลว่าพี่) ในเรื่องผู้ชนะสิบทิศก็คือจะเด็ดนั่นเอง ยกทัพไปตีมอญได้จึงย้ายฐานที่ตั้งจากตองอูและอังวะลงไปอยู่หงสาวดีเพราะคิดว่าเมื่อได้หงสาวดีแล้วก้าวต่อไปน่าจะเข้าตีกรุงศรีอยุธยาเสียด้วยเพราะอยู่ไม่ไกลกัน ต่อมาจึงลองเชิงขยับลงไปตีเมืองเชียงกราน เมืองขึ้นของอยุธยาอยู่ใกล้กาญจนบุรี ราษฎรเป็นมอญทั้งสิ้นเมื่อ พ.ศ. 2081 พระเจ้าตะเบ็งชะเวตี้หาเหตุว่าเมื่อได้หงสาวดีแล้วมอญอยู่ที่ไหนก็ต้องตามไปตีเอามาให้หมด
       
    สมเด็จพระไชยราชาธิราชยกทัพไปต่อสู้จนได้ชัยชนะ นับเป็นสงครามไทยรบกับพม่าครั้งแรกในประวัติศาสตร์ กองทัพไทยคราวนั้นมีชาวโปรตุเกสไปด้วย พวกนี้ใช้ปืนไฟทำสงคราม เสร็จศึกจึงทรงปูนบำเหน็จแก่พวกโปรตุเกสให้ที่ดินสร้างวัดสอนศาสนาคริสต์ สมเด็จพระไชยราชาธิราชทรงใช้สอยพวกโปรตุเกสมาก เช่น ให้ขุดคลองลัดแม่น้ำเจ้าพระยาจากโค้งข้างศิริราชไปเชื่อมกับโค้งข้างวัดอรุณฯ กลายเป็นแม่น้ำเจ้าพระยาสายตรงผ่านธรรมศาสตร์ ส่วนแม่น้ำสายเดิมตรงโค้งข้างศิริราชกลายเป็นคลองบางกอกน้อย แม่น้ำสายเดิมตรงโค้งวัดอรุณฯ กลายเป็นคลองบางกอกใหญ่
       
    หลังจากนั้นเชียงใหม่ถูกเจ้าแสนหวีพวกไทยใหญ่ยกทัพมาล้อม สมเด็จพระไชยราชาธิราชยกทัพขึ้นไปช่วย พระมหาเทวีจิระประภาเจ้าเมืองเชียงใหม่เห็นความดีจึงยอมถวายบรรณาการ ต่อมาพระนางได้สละราชสมบัติให้พระไชยเชษฐาโอรสกษัตริย์ลาวแต่พระชนนีเป็นธิดากษัตริย์เชียงใหม่ขึ้นครองราชย์ แต่แค่ 2 ปีพระไชยเชษฐาก็เสด็จกลับไปครองกรุงศรีสตนาคนหุตเป็นกษัตริย์ลาว โดยเชิญพระพุทธรูปคู่เมืองเชียงใหม่ไปไว้ที่ลาวด้วย 2 องค์ คือ พระแก้วมรกตและพระพุทธสิหิงค์ ภายหลังได้คืนพระพุทธสิหิงค์มาแต่เก็บพระแก้วมรกตไว้เป็นเวลากว่า 200 ปี ส่วนเชียงใหม่ก็กลับไปตกเป็นของพม่ายุคพระเจ้าบุเรงนอง
       
    สมเด็จพระไชยราชาธิราชมีพระสนมเอกคนโปรดคือท้าวศรีสุดาจันทร์ ระหว่างเสด็จขึ้นไปทำสงครามที่เชียงใหม่ นัยว่าอาจไปติดใจพระมหาเทวีจิระประภาเข้าด้วย ในหนังเรื่องสุริโยไท เพ็ญพักตร์ ศิริกุลเล่นเป็นพระมหาเทวี ดูมีเสน่ห์งามนัก ได้ทรงตั้งท้าวศรีสุดาจันทร์เป็นผู้รักษาราชการอยุธยา ท้าวศรีสุดาจันทร์ลอบเป็นชู้กับพันบุตรศรีเทพ พนักงานเฝ้าหอพระ สมเด็จพระไชยราชาธิราชกลับลงมาไม่นานก็ถูกวางยาพิษสวรรคต
       
    พระยอดฟ้า พระราชโอรสสมเด็จพระไชยราชาธิราชประสูติจากท้าวศรีสุดาจันทร์ขึ้นครองราชย์ขณะมีพระชนมพรรษาเพียง 11 พรรษา เรียกกันว่าสมเด็จพระยอดฟ้าเป็นรัชกาลที่ 14 ที่จริงผู้มีสิทธิและเหมาะสมที่สุดในเวลานั้นน่าจะเป็นพระเทียรราชา พระราชอนุชาของสมเด็จพระไชยราชาธิราช แต่ทรงเห็นว่าบ้านเมือง “เป็นทุรยศ” ท้าวศรีสุดาจันทร์มีอำนาจมากทั้งยังกีดกันต่าง ๆ นานาจึงเสด็จออกทรงผนวชที่วัดราชประดิษฐาน (วัดนี้ยังมีอยู่) เพื่อหลีกข้อระแวงต่าง ๆ
       
    สมเด็จพระยอดฟ้าเป็นนอมินีครองราชย์โดยมีท้าวศรีสุดาจันทร์เป็นซูสีไทเฮาบงการอยู่ข้างหลังได้ 2 ปี 6 เดือนก็ถูกจับสำเร็จโทษที่วัดโคกพระยาซึ่งเป็นวัดนอกกรุงและเป็นที่ประหารกษัตริย์และเจ้านายมาตลอดสมัยอยุธยา วันนี้เหลือแต่ซากแต่นับว่าเป็นสถานที่อันควรดูให้เกิดความสลดสังเวชใจ แล้วท้าวศรีสุดาจันทร์ซึ่งคงมีส่วนรู้เห็นในการยึดอำนาจจากลูกก็ยกชู้ซึ่งได้เลื่อนจากพันบุตรศรีเทพเป็นขุนชินราชและขุนวรวงศาธิราชขึ้นเป็นกษัตริย์รัชกาลที่ 15 โดยที่ผู้คนไม่ยกย่องนับถือเท่าไรนัก
       
    ดูไปแล้วก็เป็นกงเกวียนกำเกวียนของสมเด็จพระไชยราชาธิราช อำนาจช่างไม่เข้าใครออกใครแต่นักประวัติศาสตร์บางคนไม่ได้ตำหนิท้าวศรีสุดาจันทร์ เพียงแต่ยังหาเหตุผลไม่ได้ว่าทำไมจึงหน้ามืดตามัวหลงชู้ปานนั้น แต่อย่างน้อยท่านก็คงมีความสามารถ ไม่งั้นสมเด็จพระไชยราชาธิราชคงไม่ตั้งให้รักษาอยุธยาระหว่างไปรบที่เชียงใหม่ เจ้านายผู้ชายอื่นมีอีกถมไป
       
    ข้อสำคัญคือท่านคงเสน่ห์แรงเอา การ ในหนังเรื่องสุริโยไทของท่านมุ้ย ใหม่ เจริญปุระ เล่นเป็นท้าวศรีสุดาจันทร์ดูเหมาะสมดี เสียแต่ที่จอนนี่ แอนโฟเน่เล่นเป็นขุนวรวงศาธิราช ดูหน้าตาแมนดีมีเสน่ห์ควรที่ท้าวศรีสุดาจันทร์จะติดใจ
       
    แต่พอเห็นหน้าตาเป็นฝรั่งขนหน้าอกยุ่บยั่บ ก็นึกไม่ออกว่าพนักงานหอพระชาวอยุธยามีคนรูปร่างหน้าตาอย่างนี้จริงหรือ!.

    วิษณุ เครืองาม
    [email protected]


    • Update : 7/9/2554
    © Copyright 2011 www.watnongmuang.com All rights reserved 999arch