|
|
คณะสงฆ์ภูฏานอัญเชิญ พระทันตธาตุ ร่วมเฉลิมฉลองพระเกียรติ84พรร
คณะสงฆ์ภูฏานอัญเชิญ พระทันตธาตุ ร่วมเฉลิมฉลองพระเกียรติ84พรรษา
นายอำนาจ บัวศิริ รอง ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) เปิดเผยว่า เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ท่านทริซิน เซริง ริมโปเช รองสมเด็จ พระสังฆราชรูปที่ 1 และนายมินจุน ดอร์จี รมว.มหาดไทยและวัฒนธรรม แห่งราชอาณาจักรภูฏาน ได้เดินทางมาเยี่ยมชมกิจการของคณะสงฆ์ไทย พร้อมทั้งเยี่ยมชมการดำเนินงานของสำนักงานพระพุทธศาสนาฯ ซึ่งรองสมเด็จพระสังฆราชของภูฏาน ได้แจ้งกับทางสำนักงานพระพุทธฯ ว่า คณะสงฆ์ภูฏานต้องการที่จะร่วมเฉลิมฉลองเนื่องในวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเจริญพระชนมพรรษาครบ 7 รอบ 84 พรรษา 5 ธ.ค. 2554 โดยจะมอบพระทันตธาตุของพระกัสสปะพุทธเจ้า ซึ่งเป็นพระพุทธเจ้าองค์ที่ 3 โดยคณะสงฆ์ภูฏานยืนยันว่าเป็นชิ้นเดียวในโลก และได้รับการเก็บรักษามาอย่างดี ไม่เคยมีการนำออกนอกประเทศมาก่อน แต่เพื่อร่วมเฉลิมฉลองเนื่องในวโรกาสดังกล่าว ประเทศไทยจะเป็นประเทศแรกในโลกที่จะได้รับมอบพระทันตธาตุดังกล่าวมาประดิษฐานในประเทศไทยเป็นการชั่วคราว เพื่อให้พุทธศาสนิกชนได้สักการะ และเพื่อร่วมเฉลิมฉลองเนื่องในวโรกาสดังกล่าวด้วย
ทั้งนี้ คณะสงฆ์ภูฏาน ต้องการที่จะนำพระทันตธาตุเข้ามาในช่วงเดือนตุลาคม 2554 แต่ได้ชี้แจงไปว่า ในช่วงเวลาดังกล่าวเกรงว่าจะไม่สามารถดำเนินการได้ทัน เนื่องจากต้องการให้เป็นโครงการที่ดำเนินงานในนามรัฐบาลของทั้งสองประเทศ จึงขอให้ทางภูฏานทำหนังสือในนามรัฐบาลภูฏาน แจ้งถึงโครงการดังกล่าวมาถึงรัฐบาลไทย เพื่อจะได้มีการเตรียมการเฉลิมฉลองให้สมกับที่เป็นโครงการที่ร่วมเฉลิมพระเกียรติ พร้อมกันนี้ได้ของให้ทางภูฏานเร่งทำเรื่องแจ้งมาที่รัฐบาลไทย เพื่อต้องการให้ทันก่อนวันที่ 5 ธันวาคม 2554 ซึ่งจะถือว่าเป็นช่วงเวลาที่มีความเหมาะสมอย่างยิ่ง และจากนั้นจะประดิษฐานไว้ที่ประเทศไทยประมาณ 5 เดือน
ด้านน.ส.เบญจลักษณ์ ภูตินาถ ผู้ประสานงานกิจการภูฏานในประเทศไทย กล่าวว่า ได้รับการประสานงานจากคณะสงฆ์ภูฏานให้ช่วยดำเนินงานโครงการดังกล่าว ที่ต้องการกระชับความสัมพันธ์ระหว่าง 2 ประเทศ ซึ่งพระทันตธาตุนี้แม้คนภูฏานเองก็ไม่สามารถที่จะเข้าสักการะได้ง่ายๆ เพราะมีการประดิษฐานไว้ในสถานที่เฉพาะ โดยที่ผ่านมาคณะสงฆ์ภูฏานไม่เคยให้มีการนำออกนอกประเทศมาก่อน ดังนั้น ถือได้ว่าเป็นประเทศแรก ในโลกที่จะมีการอัญเชิญพระทันตธาตุดังกล่าวมาประดิษฐานไว้ในประเทศไทย ซึ่งในส่วนการหารือกับทางคณะสงฆ์ภูฏานในเบื้องต้นต้องการจะนำมาประดิษฐานไว้ในประเทศไทยตั้งแต่เดือนตุลาคม 2554 จนถึงช่วงต้นปี 2555 เพื่อต้องการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ข้ามปี
|
Update : 16/8/2554
|
|