หน้าแรก สมาชิก รายการวัตถุมงคล ตะกร้าวัตถุมงคล วิธีชำระวัตถุมงคล วิธีบูชาวัตถุมงคล ประวัติวัด ติดต่อวัด เว็บบอร์ด
สมาชิก Log in
อีเมล์
รหัสผ่าน
สมัครสมาชิกใหม่
ลืมรหัสผ่าน
















ค้นหาวัตถุมงคล
 
 
 
หมวดวัตถุมงคล
  เครื่องราง พระอาจารย์ป้อม
  พระเครื่อง พระอาจารย์ป้อม
  พระเครื่อง หลวงพ่อสวัสดิ์
  พระเครื่อง หลวงปู่พิมพ์มาลัย
  พระเครื่อง หลวงพ่อสง่า
วัตถุมงคลของคุณ
รหัสวัตถุมงคล ราคา จำนวน
ยังไม่มีวัตถุมงคลอยู่ในตะกร้า
  • ชำระค่าวัตถุมงคล
  • แก้ไขรายการวัตถุมงคล
  • วิธีสั่งบูชาวัตถุมงคล
  •  

    การเลี้ยงปลากดเหลือง-2

     โดยฉีดกระตุ้นทั้งเพศผู้และเพศเมียในเพศเมียฉีดเข็มแรกในอัตรา 5-7 ไมโครกรัมและยาเสริมฤทธิ์ 5  มิลลิกรัมต่อแม่ปลาน้ำหนัก 1 กิโลกรัม  เข็มที่สอง ห่างจากเข็มแรก 6 ชั่วโมง  ในอัตรา 15-20 ไมโครกรัม  และยาเสริมฤทธิ์ 5 มิลลิกรัมต่อแม่ปลาน้ำหนัก 1 กิโลกรัม  ส่วนปลาเพศผู้ฉีดในอัตรา 5 ไมโครกรัม  และยาเสริมฤทธิ์ 5 มิลลิกรัม  ต่อพ่อปลาน้ำหนัก 1 กิโลกรัม

                  ทั้งนี้แม่ปลาพร้อมที่จะรีดไข่ผสมน้ำเชื้อหลังจากฉีดน้ำยาเข็มที่ 2 ประมาณ 6-8 ชั่วโมง  ถ้าหากปลาเพศผู้อยู่ในสภาวะสมบูรณ์เพศเต็มที่ก็ไม่จำเป็นต้องฉีดฮอร์โมนกระตุ้นก็ได้
     
     ตำแหน่งที่ฉีดฮอร์โมน 
                  การฉีดฮอร์โมนปลากดเหลืองนั้น  ตำแหน่งที่เหมาะสมที่สุดคือ  บริเวณกล้ามเนื้อใต้ครีบหลังส่วนต้นเหนือเส้นข้างตัว  โดยใช้เข็มเบอร์ 24 แทงเข็มเอียงทำมุมกับลำตัวประมาณ 30 องศา  แทงลึกประมาณ 1 นิ้ว ( 2 เซนติเมตร )
    การรีดไข่ผสมน้ำเชื้อ
                ก่อนการรีดไข่ปลากดเหลืองเพื่อผสมกับน้ำเชื้อจะต้องเตรียมวัสดุและอุปกรณ์ต่างๆ ในการฟักไข่ให้พร้อม  ได้แก่  กะละมังเคลือบที่เช็ดแห้งสนิท  คีมคีบผ้าขาวบาง  ขนไก่  และอวนมุ้งไนลอนตาถี่สีฟ้า  หรือ  กระชังผ้าโอลอนแก้วสำหรับฟักไข่ ฯลฯ
     
     
     
     
                  การรีดไข่โดยจับแม่ปลาให้แน่นพร้อมทั้งเช็ดลำตัวให้แห้ง  รีดไข่ใส่กะละมังพร้อมกันนี้ผ่าเอาถุงน้ำเชื้อจากพ่อปลา  ใช้คีมคีบถุงน้ำเชื้อออกมาขยี้ในผ้าขาวบางให้น้ำเชื้อไหลลงไปผสมกับไข่  ใช้ขนไก่คนให้ไข่กับน้ำเชื้อผสมเข้ากันอย่างทั่วถึงในขั้นตอนนี้ต้องทำอย่างรวดเร็ว  และรีบนำไข่ที่ผสมแล้วไปฟัก  โดยโรยบนอวนมุ้งไนลอนตาถี่สีฟ้า  หรือบนกระชังผ้าโอลอนแก้ว  ในระดับน้ำลึกประมาณ 20-30 เซนติเมตร  การโรยไข่ปลาพยายามให้ไข่กระจายอย่าทับซ้อนกันเป็นก้อนเปิดน้ำไหลผ่านตลอดเวลาและมีเครื่องเพิ่มอากาศใส่ไว้ในบ่อฟักไข่ปลาด้วย
     
     การฟักไข่ 
                   ไข่ปลากดเหลืองเป็นไข่ติด  ไข่ที่ดีซึ่งได้รับการผสมควรมีลักษณะกลมมีสีเหลืองสดใสและพัฒนาฟักออกเป็นตัว  โดยใช้เวลาประมาณ 27-30 ชั่วโมง  ที่อุณหภูมิของน้ำ 26-28 องศาเซลเซียส  ถุงอาหาร (yolk sac) จะยุบตัวหมดในเวลา 3 วัน  หลังจากนั้นลูกปลาจะเริ่มกินอาหาร
                   บ่อเพาะฟักลูกปลากดเหลืองควรมีหลังคาคลุมบังป้องกันแสงแดดและน้ำฝนได้
     
     การอนุบาลลูกปลาวัยอ่อน 
                   นำลูกปลาวัยอ่อนที่ฟักออกเป็นตัวใหม่ๆ  ไปอนุบาลในบ่อซีเมนต์ขนาด 50 ตารางเมตร  ระดับน้ำลึก 20-30 เซนติเมตร  สามารถอนุบาลลูกปลาได้ 50,000-100,000 ตัว  หรือ 1,000-2,000 ตัว/ตารางเมตร  ให้ออกซิเจนตลอดเวลา
                  อาหารลูกปลา  ในสัปดาห์แรกเป็นอาหารที่มีชีวิต  ได้แก่  ไรแดงหรือ  อาร์ทีเมีย  จนกระทั่งลูกปลามีอายุ 8-10 วัน  จึงเริ่มฝึกให้กินอาหารสมทบ  ได้แก่  เนื้อปลาบดผสมวิตามินและแร่ธาตุ  ส่วนปริมาณการให้อาหารจะให้น้อยๆแต่บ่อยครั้ง  ในระยะนี้อาจผสมยาปฎิชีวนะกับอาหารในอัตรา 3 กรัม/อาหาร  1 กิโลกรัม  เพื่อป้องกันโรคพวกแบคทีเรีย  โดยให้วันละ 1 ครั้ง  ติดต่อกัน 5-7 วัน
                ระดับน้ำ  ในบ่ออนุบาลลูกปลาวัยอ่อนระยะแรกประมาณ  20-30 เซนติเมตรและค่อยๆ เพิ่มปริมาณน้ำเป็น 50 เซนติเมตร เมื่อเริ่มให้อาหารสมทบจำพวกเนื้อปลาบด  และส่วนผสม  ทั้งนี้  การทำความสะอาดพื้นบ่อเป็นสิ่งจำเป็นมาก  โดยดูดตะกอนพื้นบ่อ  เปลี่ยนถ่ายน้ำประมาณ 1 ใน 3 ของบ่อ  และเพิ่มประมาณน้ำให้เท่าเดิมในช่วงนี้
                   การป้องกันโรค  ควรใส่ฟอร์มาลินในความเข้มข้น 40 พีพีเอ็ม  แช่ตลอด 24 ชั่วโมง  สัปดาห์ละ 1 ครั้ง
                   การคัดขนาด  เมื่ออนุบาลลูกปลามีอายุ 8-10 วัน  จะเริ่มขนาดต่างกันจึงต้องหมั่นคัดขนาดลูกปลาเพื่อช่วยลดการกินกันเอง  และระยะเวลา 45 วัน  จะได้ลูกปลาขนาด 1.5-2.0 นิ้ว
     การอนุบาลลูกปลาในบ่อซีเมนต์ 
                   จากการอนุบาลปลากดเหลืองขนาดความยาว 3-4 เซนติเมตร  อัตราการปล่อย 50 ตัว/ตารางเมตร  ในบ่อซีเมนต์ 
     
     
     
     
                  พบว่า  ลูกปลาที่ได้รับอาหารกุ้งเบอร์ 2  มีอัตราการเจริญเติบโตและอัตรารอดตายดีที่สุด  เมื่อเทียบกับอาหารปลาดุก (โปรตีน 31 เปอร์เซ็นต์) และเนื้อปลาสับ (โปรตีน 10 เปอร์เซ็นต์)  คือลูกปลามีขนาดความยาว 5-8 เซนติเมตร  ภายใน 7 สัปดาห์
     
     การอนุบาลลูกปลาในบ่อดิน 
                 บ่อดินที่ใช้อนุบาลลูกปลาต้องมีการกำจัดศัตรูของลูกปลาก่อนและพื้นบ่อควรเรียบสะอาด  ปราศจากพืชพรรณไม้น้ำต่างๆ  ควรมีร่องขนาดกว้าง 0.5-1.0 เมตร  ยาวจากหัวบ่อจรดท้ายบ่อ  และลึกจากพื้นบ่อประมาณ 20 เซนติเมตร
     
     
     
     
                  เพื่อความสะดวกในการรวบรวมลูกปลาตรงปลายร่องมีแอ่งลึก  พื้นที่ประมาณ 2-4 ตารางเมตรเป็นแหล่งรวบรวมลูกปลา  ลูกปลากดเหลืองอายุ 12-15 วัน  ขนาด 1-1.5 เซนติเมตร  บ่อขนาด  800 ตารางเมตร  ระดับน้ำลึก 0.50-0.80 เมตร  อัตราการปล่อยอนุบาลบ่อละ 50,000-70,000 ตัว  ให้อาหารผสมได้แก่  เนื้อปลาบด 80 เปอร์เซ็นต์  อาหารผง (powder food)  19.6 เปอร์เซ็นต์  วิตามินและแร่ธาตุ 0.4 เปอร์เซ็นต์  ปั้นเป็นก้อนเล็กๆโยนให้ลูกปลาในบ่อกินวันละ 2 ครั้ง  เช้าและเย็น  โดยปรับปริมาณอาหารที่ให้ทุกสัปดาห์เพื่อให้เพียงพอกับจำนวนลูกปลา  นอกจากนี้อาจผสมน้ำมันปลาหมึกในอาหารจะช่วยดึงดูดลูกปลาให้กินอาหารได้ดีขึ้น  เมื่อลูกปลาอายุประมาณ 15 วัน  จะมีขนาด 4.5-5.0 เซนติเมตร
     
     การเลี้ยงปลาขนาดตลาด 
                    การเลี้ยงปลากดเหลืองให้ได้ขนาดตามที่ตลาดต้องการนั้นสามารถเลี้ยงได้ทั้งในบ่อดินและกระชัง
    1.   การเลี้ยงในบ่อดิน  ควรปรับสภาพบ่อโดยใช้หลักการเตรียมบ่อเลี้ยงปลาทั่วๆไปดังนี้
      1.1   ตากพื้นบ่อให้แห้งพร้อมทั้งปรับสภาพก้นบ่อให้สะอาด
          1.2  ใส่ปูนขาวเพื่อปรับสภาพของดินโดยใส่ปูนขาวในอัตราประมาณ 60-100 กิโลกรัม/ไร่
         1.3   ใส่ปุ๋ยคอกเพื่อให้เกิดอาหารธรรมชาติสำหรับลูกปลาควรใส่ปุ๋ยคอกในอัตราประมาณ 60-100 กิโลกรัม/ไร่
          1.4 นำน้ำเข้าบ่อโดยกรองไม่ให้ศัตรูของลูกปลา  ติดเข้ามากับน้ำระดับน้ำลึก 30-40 เซนติเมตร  วันรุ่งขึ้นจึงปล่อยปลาและเพื่อให้ลูกปลามีอาหารกิน  ควรเติมไรแดงในอัตราประมาณ 5 กิโลกรัม/ไร่  หลังจากนั้นจึงให้อาหารผสมแก่ลูกปลา  ก่อนที่จะนำลูกปลามาเลี้ยงควรตรวจดูด้วยว่าเป็นลูกปลาที่มีสุขภาพดีและแข็งแรง
     
                   การปล่อยลูกปลา ลงบ่อเลี้ยงจะต้องปรับสภาพอุณหภูมิของน้ำ ในถุงและน้ำในบ่อให้เท่าๆกันก่อน  โดยแช่ถุงบรรจุลูกปลาในน้ำประมาณ 30 นาทีจึงปล่อยลูกปลา  เวลาที่เหมาะสมในการปล่อยลูกปลาควรเป็นเวลาตอนเย็นหรือตอนเช้า
                   การเลี้ยงปลากดเหลืองในบ่อดินขนาด 2 ไร่จำนวน 2 บ่อ  ของเกษตรกรกิ่งอำเภอคลองหอยโข่ง จังหวัดสงขลา  ในอัตราการปล่อยปลาขนาดความยาว 15.0-17.0 เซนติเมตร  น้ำหนักระหว่าง 22-42 กรัม  ตารางเมตรละ 1 ตัวหรือ  ไร่ละ 1,600 ตัว  โดยให้อาหารจำพวกปลาเป็ดสับผสมวิตามินและแร่ธาตุ ใช้ระยะเวลาในการเลี้ยงประมาณ 7 เดือน  จึงจับปลาจำหน่าย  ได้น้ำหนักปลาทังสิ้น 2,125 กิโลกรัม  เป็นผลผลิตไร่ละ 1,062.5 กิโลกรัม  น้ำหนักตัวระหว่าง 400-500 กรัม  (ประมาณ 2.40 ตัว/กิโลกรัม)  ได้ปลา 5,110 ตัว  อัตราการรอดตาย 79.82 เปอร์เซ็นต์  โดยใช้ปริมาณอาหารทั้งหมด 9,562 กิโลกรัม  มีอัตราแลกเนื้อ (FCR) เท่ากับ 2 : 4.5  ดังตารางต่อไปนี้
     
      ตารางที่ 1   การเลี้ยงปลากดเหลืองในบ่อดินของเกษตรกรจังหวัดสงขลา
     

    บ่อ
    จำนวนที่ปล่อย (ตัว)
    น้ำหนักเริ่มปล่อย(ตัว)
    จำนวนปลาที่เหลือ(ตัว)
    อัตราการรอด(%)
    น้ำหนักเฉลี่ย(กรัม)
    น้ำหนักรวม(กิโลกรัม)
    3,200
    3,200
    15.41
    15.80
    2,548
    2,760
    73.38
    86.25
    419.50
    413.00
    985
    1,140
    เฉลี่ย
    3,200
    15.60
    2,654
    76.80
    416.25
    1,062.5

    ที่มา  สถานีประมงน้ำจืดจังหวัดสงขลา ,2537

    • Update : 12/8/2554
    © Copyright 2011 www.watnongmuang.com All rights reserved 999arch