|
|
การเลี้ยงกวาง-3
การผลิตเขากวางอ่อน (valvet antler)
|
ลักษณะของเขากวาง
กวางตัวผู้จะเริ่มสร้างเขาเมื่ออายุประมาณ 1 ปี จากปุ่มส่วนหน้าของกะโหลกศรีษะ เป็นอวัยวะที่เจริญมาจากส่วนของเนื้อเยื่อชั้นนอก (epidermis) โดยงอกติดกะโหลกด้านหน้า (frontal bone) แต่ไม่ได้เป็นส่วนของกะโหลกศรีษะ เขามีลักษณะตัน ไม่กลวงเหมือนเขาโค แพะ แกะ ในช่วงที่เขาอ่อน (valvet) จะมีเลือดมาหล่อเลี้ยงและอุดรมด้วยเนื้อเยื่อ vascular ซึ่งประกอบด้วยฮอร์โมนเทสโทสเตอโรน และแร่ธาตุแคลเซี่ยม โดยเฉพาะส่วนปลายเขามีแร่ธาตุซีลิเนี่ยมอยู่จำนวนมาก ตัวลำเขาของกวางป่ายาว 70-80 ซ.ม.
เขากวางแต่ละข้างจะมี 3 กิ่ง กิ่งแรกเรียก กิ่งรับหมา (brow tine) จะชี้ไปด้านหน้า ตัวลำเขาจริงจะชี้ไปด้านหลัง รอยต่อระหว่างกิ่งรับหมาและลำเขาจริงจะมีลักษณะคล้ายรูปตัวยู ก้ำกึ่งรูปตัววี ปลายของลำเขาจริงจะแตกแขนงออกเป็น 2 กิ่ง โดยที่กิ่งด้านหน้าจะยาวกว่ากิ่งด้านหลัง ลักษณะภายนอกของเขาอ่อนมีหนังหุ้มขนสั้นละเอียดคล้ายกำมะหยี่
เขากวางอ่อนเมื่อเวลาผ่านไป 2-3 เดือน จะแปรสภาพเป็นเขาแข็ง (antler) มีลักษณะคล้ายหินปูนสีขาว เขากวางจะแก่เต็มที่และแข็งแรงในช่วงฤดูผสมพันธุ์ (พฤษภาคม-กรกฎาคม) และเขาจะหลุดในเดือนกันยายน ซึ่งกวางจะสามารถผลัดเขาได้และสร้าขึ้นมาใหม่ทุกปี กวางจึงจัดอยู่ในตระกูล Cervidae ในขณะที่เขาของแพะแกะ (horn) ไม่สามารถผลัดเขาและสร้างขึ้นมาใหม่ได้เหมือนเขากวาง
กวางป่าจะมีการผลัดเขาทุกปีในช่วงเดือนมีนาคม-เมษายน ภายหลังจากเขาหลุด 7 วัน กวางจะสร้างเนื้อขึ้นมาหุ้มบริเวณที่เขาหลุด จากนั้นอีกประมาณ 21 วัน จะเริ่มงอกเขาใหม่ การเจริญเติบโตของเขากวางจะมีการเปลี่ยนแปลงในลักษณะที่เพิ่มขึ้นทั้งขนาดและความยาว จนกระทั่งกวางมีอายุ 9-10 ปี ความยาวของเขากวางจะลดลงแต่มีขนาดใหญ่ขึ้น (สวัสดิ์, 2527) ขณะที่สนั่นและคณะ (2539) รายงานว่า เขากวางอ่อนของกวางป่าอายุเฉลี่ย 6 ปี มีน้ำหนักสดข้างละ 820-1,640 กรัม ยาว 41-63 ซ.ม. เส้นรอบวง 11.5-17.2 ซ.ม.
จากการศึกษาการสร้างเขากวางของกวางรูซ่าทีเลี้ยงในศูนย์วิจัยและบำรุงพันธุ์สัตว์หนองกวาง พบว่า กวางรูซ่าเริ่มงอกเขาแรก (เขาเทียน) เมื่ออายุ 234 วัน เขามีความยาวสูงสุดเฉลี่ย 10.21 ซ.ม. (7.0-17.5) เส้นรอบวงเขาเฉลี่ย 7.13 ซ.ม. (5.5-10.5 ซ.ม.) และสลัดเขาแรกทิ้งเมื่ออายุ 418 วัน หลังจากสลัดเขาแรกทิ้ง 24.11 วัน จึงเริ่มสร้างเขาสองเมื่ออายุ 653.43 วัน น้ำหนักเขากวางอ่อนในแต่ละปี (ตารางที่ 9)
ตารางที่ 9 ผลการศึกษาน้ำหนักของเขากวางอ่อนรูซ่า
อายุกวาง
|
ก่อนอบ
|
หลังอบ
|
% น้ำหนักแห้ง
|
2 ปี
3 ปี
4 ปี
|
355.34
495.0
690.18
|
162.28
185.75
267.41
|
45.63
37.53
38.74
|
ที่มา : Yerex และ Spiers (1990)
|
เริ่มตัดครั้งแรกเมื่อกวางอายุได้ 3 ปี หลังจากนั้นจะตัดได้ทุกปีๆ ละครั้ง เมื่อกวางมีน้ำหนักมากขึ้นน้ำหนักเขาจะเพิ่มขึ้นด้วย เขากวางอ่อนที่ได้คุณภาพและเหมาะสมจะตัด คือเขาอ่อนที่มีอายุประมาณ 65-70 วัน นับจากวันที่เขาแก่หลุดออกไป หรือเมื่อเห็นว่าลำเขาจริงเริ่มแยกออกเป็น 2 กิ่ง ยาวออกมาไม่เกิน 2 นิ้ว |
|
ขั้นตอนการตัด
1. ควรทำงานในช่วงเช้าตรู่ หรือช่วงที่อากาศเย็น |
2. ต้อนกวางเข้าอาคารจัดการ ให้กวางเข้าไปอยู่ในซองบังคับตัวไว้ไม่ให้ดิ้น |
3. ใช้เลื่อยสำหรับตัวเขากวางโดยเฉพาะ เมื่อทาน้ำยาฆ่าเชื้อที่มีดและที่เขากวางแล้ว ใช้เลื่อยตัดในบริเวณที่สูงขึ้นมาจากโคนเขาประมาณ 2 นิ้ว ขั้นตอนนี้ใช้เวลาประมาณ 2-3 นาที เขาอ่อนที่ตัดแล้วให้วางโดยเอาด้านโคนขึ้น เพื่อกักเลือดให้อยู่ในเขาไม่ไหลทิ้ง |
4. ทายาห้ามเลือดที่รอยตัด หรือใช้ผงชูรสใส่แทน แล้วทายาหรือพ่นยาป้องกันและฆ่าตัวอ่อนของแมลงวัน (เนกาซัน) ให้ทั่วก่อนปล่อยกวางกลับเข้าแปลง เลือดจะแข็งตัวและแผลจะแห้งภายใน 5-10 นาที ช่วงนี้ปล่อยให้กวางอยู่อย่างสงบ |
5. เขากวางอ่อนที่ตัดมาแล้วควรเก็บไว้ในช่องแช่แข็ง ก่อนนำส่งไปอบแห้งต่อไป ซึ่งการแช่แข็งสามารถยืดอายุการจัดเก็บเขากวางอ่อนได้นานถึง 3-4 เดือน |
การอบเขากวางอ่อน
|
ก่อนอบแห้ง ให้ผ้าสะอาดชุบน้ำเช็ดถูเขาเพื่อล้างไขมันด้านนอก จากนั้นใช้น้ำเดือดเทราดหลายๆ ครั้ง เพื่อให้เขาอ่อนคงรูป และบริเวณที่ตัดจะถูกลวกจนกระทั่งเป็นสีเนื้อสุก ซึ่งจะเป็นการปิดกั้นไม่ให้เลือดในเขาไหลออกมาได้ง่าย รวมทั้งเป็นการฆ่าเชื้อโรคด้วย จากนั้นจำไปผึ่งลมให้แห้ง เรียงเขากวางลงในตะแกรง โดยหันด้านโคนเขาขึ้น ไม่ให้เลือกไหลออกจากเขาเพราะจะเสียคุณค่า เนื่องจากถือว่าเลือดที่มีอยู่ในเขาอ่อนมีประโยชน์ในทางยา ตู้หนึ่งอบได้ประมาณ 10 เขา อบที่อุณหภูมิ 60-65 องศาเซลเซียส เป็นเวลาประมาณ 2-4 วัน ขึ้นกับขนาดของเขา ถ้าเขาที่เล็กกว่าแห้งก่อน สามารถเปิดตู้หยิบออกมาก่อนได้ |
|
การจัดการอาหารช่วงระยะการสร้างเขา
หากกวางได้รับปริมาณอาหารไม่เพียงพอ หรือทำให้กวางเกิดความเครียดจากสาเหตุต่างๆ จะมีผลทำให้ผลผลิตเขาต่ำลง การเสริมอาหารข้นที่มีคุณภาพดีเพื่อต้องการเพิ่มผลผลเขานั้นให้ผลไม่แตกต่างกับการให้กวางได้กินอาหารพืชหญ้าคุณภาพดีในปริมาณเพียงพอกับความต้องการ ดังนั้น ในช่วงระยะการสร้างเขาจึงควรมีปริมาณอาหารที่เพียงพอวางให้กินอย่างเต็มที่ อย่าจำกัดอาหารและไม่จำเป็นจ้องเสริมอาหารข้น |
ระยะเวลาการตัดเขา
ระยะเวลาในการตัดเขาเป็นช่วงเวลาที่สำคัญมาก และมีข้อจำกัดเวลาในการตัดเขา คือ จะต้องตัดเขาในระยะเวลาที่เหมาะสม เมื่อเขามี 50-60 วัน หากตัดเขาเร็วก่อนเวลาเกินไป จะทำให้ได้ผลผลิตน้ำหนักของเขาน้อยลง (เงินจะน้อยลงไปด้วย) แต่ถ้าตัดเขาช้าเกินไปทำให้คุณภาพของเขาที่ได้ด้อยลง ดังนั้น จึงต้องคอมตรวจดูลักษณะเขาทุก 2-3 วัน ว่าตัวใดถึงเวลาตัดเขาหรือไม่ โดยปกติกวางที่โตเต็มที่เขาจะงอกยาวเฉลี่ยวันละ 1 ซ.ม. หรือคิดเป็นน้ำหนักเขาเพิ่มวันละ 50 กรัม ในกวางแต่ละตัวจะมีเวลาที่เหมาะสมในการตัดต่างกันไป ซึ่งจะต่างกันไปตามอายุของกวาง (Yerex และ Spiers, 1990) |
ตารางที่ 10 ระยะการตัดเขากวางรูซ่าและน้ำหนักเขาที่ได้
อายุกวาง
(ปี)
|
อายุเขาที่ตัด
(วัน)
|
น้ำหนักเขากวางรูซ่า
(กก.)
|
น้ำหนักเขากวางแดง
(กก.)
|
2
3
4
5
|
55
58
61
60
|
1.01
1.60
1.93
2.17
|
1.44
2.05
2.60
2.90
|
ที่มา : Yerex และ Spiers (1990)
ส่วนประกอบทางเคมีของเขากวาง
เขากวางเมื่ออบแห้งจะมีน้ำหนักประมาณ 35% ของน้ำหนักสด และเขาที่อบแห้งจะต้องมีความชื้นไม่เกิน 15% คุณค่าทางโภชนะของเขาประกอบด้วย โปรตีน 47%, แร่ธาตุ 33%, ไขมัน 3% และความชื้น 12% ผลผลิตน้ำหนักของเขาและคุณภาพแตกต่างกันไปตามสายพันธุ์และอายุกวาง คุณภาพของเขาแบ่งเป็นเกรด โดยเขากวางคุณภาพดีจะมีความยาวของลำเขาไม่น้อยกว่า 40 ซ.ม. ขนาดเส้นรอบวงลำเขาไม่น้อยกว่า 18 ซ.ม. ราคาการจำหน่ายเขาแบ่งตามสรรพคุณเป็น 3 ส่วน ส่วนปลายยอดเขาอ่อนมีราคาแพงที่สุด เนื่องจากมีคุณค่าทางโภชนะมากกว่าส่วนอื่น ส่วนกลางใช้รักษาโรคไขข้อ และส่วนโคนใช้รักษาในผู้ชราที่ขาดแร่ธาตุแคลเซียม |
สรรพคุณของเขากวางอ่อน
Kong และ But (1985) รายงานว่าเขากวางอ่อนมีสรรพคุณใช้เป็นยารักษาโรคโลหิตจาง ไขข้ออักเสบ และกามตายด้าน ขณะที่ Yoon (1989) ได้รายงานว่าเขากวางอ่อนใช้เป็นยาบำรุงสุขภาพ และสามารถป้องกันรักษาโรคในเด็กเล็กได้หลายโรค สำหรับในประเทศไทยผู้ที่นิยมบริโภคเขากวางอ่อนได้แก่ ชาวจีนสูงอายุ ส่วนใหญ่จะหาซื้อรับประทานเฉพาะช่วงฤดูอากาศหนาวเย็น เพื่อต้องการบำรุงสุขภาพทำให้ร่างกายอบอุ่น โดยทำการตุ๋นหรือดองเหล้าโรงร่วมกับสมุนไพรจีน (ฮวยซัว เก๋ากี้ และปั๊กคี้) คนที่เป็นความด้นโลหิตสูงไม่ควรรับประทาน นอกจากนี้มีรายงานว่าในเขากวางอ่อนมีฮอร์โมน Insulin-link Growth Factor (IGF1) |
กวางที่มีอายุระหว่าง 12-15 เดือน มักจะป่วยได้ง่ายกว่ากวางที่มีอายุเต็มวัย แต่โดยทั่วไปแล้วหากเลี้ยงกวางจำนวนไม่หนาแน่นเกินไปจะไม่ค่อยพบมีการติดเชื้อโรค โรคที่พบในกวาง คือ
|
1. โรคกวางที่เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย |
|
|
- วัณโรค เกิดจากเชื้อ Mycobacterium bovis ที่บริเวณปอดและต่อมน้ำเหลืองในช่องอกและที่เต้านม กวางมีร่างกายซูบผอม กินอาหารลดลง ระบบทางเดินหายใจผิดปกติ หายใจขัด ไอ |
|
- ท้องเสีย เกิดจากเชื้อ Salmonella spp. พบว่าส่วนมากเป็นสาเหตุการตาย |
|
2. โรคที่เกิดจากเชื้อไวรัส |
|
|
- โรคปากและเท้าเปื่อย อาการเริ่มแรกกวางมีน้ำลายฟูมปากและมีตุ่มใสเล็กๆ เกิดขึ้นภายในปาก บริเวณกีบเท้า มีอาการขาเจ็บ เดินกระเผลกและไม่กินอาหาร |
|
3. โรคพยาธิ พบน้อยในกวาง แต่ในการเลี้ยงเป็นฟาร์มควรจะมีการถ่ายพยาธิด้วย |
|
- กวางป่วย มีอาการหงอยซึม แยกออกจากฝูง ไม่หนีเมื่อเข้าใกล้ มักถูกตัวอื่นทำร้าย หัวและหูห้อยตก |
|
- อาการป่วยเนื่องจากพยาธิ กวางจะซูบผอม โตช้า ผิวหนังหยาบกร้าน ไอบ่อย |
|
- อาการป่วยจากโรคเลปโตสไปโรซีส เบื่ออาหาร มีฝ้าในปาก น้ำลาย น้ำมูกไหล หายใจลำบาก ลิ้นบวม |
|
- หากกวางป่วย ควรแยกออกจากฝูง และปรึกษาสัตวแพทย์ |
|
- ควรแยกกวางที่ได้มาใหม่ กักไว้สักระยะหนึ่ง (ประมาณ 1 เดือน) ตรวจดูอาการ |
|
- ควรให้อาหารที่มีคุณค่า ทำวัคซีน และถ่ายพยาธิ |
|
- รักษาความสะอาดในโรงเรือน รางอาหารและน้ำ |
|
- อย่าให้กวางถูกขังในคอกที่อับชื้นและสกปรกโดยเฉพาะในตอนกลางคืน |
|
- แหล่งน้ำต้องสะอาดเพื่อป้องกันตัวกลางของพยาธิใบไม้ในตับ |
|
- ทำการทดสอบวัณโรค (Tuberculin Test) ปีละครั้ง |
จากการพิจารณาความคุ้มทุนในการทำฟาร์มกวางขนาด 10 แม่ เลี้ยงในพื้นที่ 5 ไร่ ใช้แรงงานในครอบครัว ผลิตลูกกวางขนาดหย่านม เพื่อจำหน่ายพันธุ์ และตัดเขากวางอ่อนจากพ่อพันธุ์ มีค่าใช้จ่าย ดังนี้
|
ต้นทุนคงที่ |
|
|
- ค่าพันธุ์ พ่อ 1 ตัว แม่ 10 ตัว ราคาตัวละ 20,000 บาท เป็นเงิน 220,000 บาท |
|
|
- ค่ารั้วความยาว 600 เมตรๆ ละ 300 บาท (รวมเสา) เป็นเงิน 180,000 บาท |
|
|
ต้นทุนผันแปร |
|
|
ค่าอาหาร |
|
|
- อาหารข้น พ่อแม่พันธุ์ กิน 0.5 กก./ตัว/วัน (อาหารข้นราคา กก.ละ 8 บาท ให้กิน 365 วัน 11 ตัว) เป็นเงิน 16,060 บาท |
|
|
- อาหารหยาบ กิน 1 กก./ตัว/วัน (วัตถุแห้ง) (อาหารหยาบราคา กก.ละ 1.0 บาท ให้กิน 365 วัน 11 ตัว) เป็นเงิน 4,015 บาท |
|
|
รวมค่าอาหาร (ปีแรก) เป็นเงิน 20,075 บาท
รวมต้นทุนค่าใช้จ่าย (ปีแรก) เป็นเงิน 420,075 บาท |
|
|
- อาหารข้นสำหรับลูกกวาง กิน 0.2 กก./ตัว/วัน (อาหารข้น กก.ละ 9 บาท ให้กิน 120 วัน 10 ตัว) เป็นเงิน 2,160 บาท
ปีถัดไป ใช้จ่ายเฉพาะค่าอาหารปีละ (20,075+2,160) เป็นเงิน 22,235 บาท |
|
|
รายได้ จากการจำหน่ายผลผลิต (เริ่มรับในปีที่ 2) |
|
|
- จำหน่ายลูกกวางหย่านมปีละ 6 ตัวๆ ละ 18,000 บาท เป็นเงิน 108,000 บาท |
|
|
- จำหน่ายเขากวางเฉลี่ย 1 กก.ๆ ละ 5,000 บาท เป็นเงิน 5,000 บาท |
|
|
รวมรายรับทั้งหมด เป็นเงิน 113,000 บาท |
|
|
ผลตอบแทนที่ได้รับ เป็นรายปี |
|
ปีที่
|
ต้นทุน
|
รายได้
|
1
2
3
4
5
6
|
420,075
22,235
22,235
22,235
22,235
|
-
113,000
113,000
113,000
113,000
113,000
|
รวม
|
531,250
|
565,000
|
ผลการเลี้ยงจะได้ต้นทุนคืนเมื่อเข้าสู่ปีที่ 6 ดังนั้นผู้ที่คิดจะทำฟาร์มเลี้ยงกวางเป็นอาชีพจะต้องมีเงินลงทุนระยะยาว แต่สามารถลดต้นทุนการผลิตโดยหาลูกกวางที่เกิดในประเทศ ใช้วัสดุพื้นบ้านในการกั้นคอก และจัดหาวัสดุเหลือใช้จากการเกษตรเลี้ยงกวาง นอกจากนี้ต้องมั่นใจว่าจะมีตลาดรองรับที่สามารถขายลูกกวางได้ดีโดยราคาจำหน่ายพันธุ์ประมาณตัวละ 20,000-25,000 บาท หรือจำหน่ายเป็นเนื้อกวางชำแหละราคา กก.ละ 300-500 บาท หรือเขากวางอ่อน กก.ละ 8,000-10,000 บาท
ดังนั้น การทำฟาร์มเลี้ยงกวางโดยผลิตเขากวางอ่อน เนื้อกวาง และผลิตภัณฑ์จากหนังกวาง สามารถกระทำได้โดยเฉพาะกวางพันธุ์รูซ่า ซึ่งนำมาเลี้ยงขยายพันธุ์ให้ลูกกวางได้ตลอดทั้งปี ลูกกวางมีอัตราการเจริญเติบโตและมีอัตราการเลี้ยงรอดสูง สามารถปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมได้ดี ขณะที่กวางแดงและกวางฟอลโลซึ่งเป็นกวางพันธุ์จากยุโรปมีฤดูกาลผสมพันธุ์มีอัตราการเกิดลูกต่ำ โดยเฉพาะกวางฟอลโลมัอัตราการตายแรกเกิดสูง และอัตราการเลี้ยงลูกรอดต่ำ นอกจากนี้ยังมีกวางซีก้าที่นิยมเลี้ยงเพื่อผลิตเขากวางอ่อน
1. การทำฟาร์มกวางอาจยังเป็นเรื่องที่ยุ่งยากในการจัดหากวางพ่อ-แม่พันธุ์ เนื่องจากกวางรูซ่าที่มีขนาดเล็กกว่ากวางม้า ทำให้ได้ผลผลิตเนื้อและเขาน้อยลงไปด้วย ถ้าเป็นไปได้ควรใช้กวางม้าที่มีขนาดรูปร่างใหญ่กว่าเป็นพ่อพันธุ์ แม่พันธุ์ใช้กวางรูซ่าที่เกิดในประเทศ ผลิตเป็นลูกผสมกวางม้า-รูซ่า |
2. ปัจจัยทางด้านตลาด ยังขาดการสำรวจปริมาณความต้องการของตลาดที่แท้จริงของตลาดภายในประเทศ การขยายตลาดของกลุ่มผู้บริโภคเขากวางยังจำกัดเนื่องจากมีราคาแพง ประกอบกับปัญหาทางด้านเศรษฐกิจในปัจจุบันที่ตกต่ำ ปัญหาคนว่งงาน ต้องประหยัด่าใช้จ่ายต่างๆ และยังไม่มีการยืนยันที่แนชัดทางการแพทย์หรือจากองค์การอาหารและยาในการรับรองสรรพคุณ เขากวางอ่อนที่มีความเชื่อว่าเป็นยาอายุวัฒนะ หรือเพิ่มสมรรถภาพทางเพศ รวมทั้งคุณภาพของผลผลิตที่สามารถส่งไปจำหน่ายยังตลาดต่างประเทศ เนื่องจากกรรมวิธีการแปรรูปและการเก็บรักษายุ่งยาก นอกจากนี้ยังมีข้อจำกัดในเรื่องโรคปากและเท้าเปื่อย เช่นเดียวกัยผลผลิตจากโคและสุกร
ทั้งนี้เพื่อสามารถผลักดันอาชีพการเลี้ยงกวางให้เป็นสัตว์เศรษฐกิจได้อย่างแท้จริง
|
ราคาจำหน่ายพันธุ์กวางของกรมปศุสัตว์
กวางรูซ่า กวางแดง และกวางฟอลโล ทั้งเพศผู้และเพศเมีย คิดราคาตามน้ำหนักในวันจำหน่าย ราคากิโลกรัมละ 250 บาท บวกค่าสายพันธุ์อีกตัวละ 6,000 บาท |
ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่
1. กลุ่มงานเล็ก กองบำรุงพันธุ์สัตว์ กรมปศุสัตว์ ถนนพญาไท เขตราชเทวี กทม. 10400 โทร.0-2653-4453
2. ศูนย์วิจัยและบำรุงพันธุ์สัตว์หนองกวาง อ.โพธาราม จ.ราชบุรี ตู้ ปณ.9 อ.เมือง จ.ราชบุรี 70000 โทร.0-3226-1090, 0-1437-9280
3. สหกรณ์กวางแห่งประเทศไทย ศูนย์วิจัยวิทยาศาสตร์เนื้อสัตว์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน จ.นครปฐม 73140 โทร.0-3435-1905
|
Update : 1/8/2554
|
|