|
|
กฎแห่งกรรม - รับทำแท้ง รับกรรมทันที
ทุกวันนี้สังคมไทยเปลี่ยนแปลงไปมาก หญิงสาวอายุยังน้อยมักตั้งท้องก่อนวัยอันควร ทำให้มีการทำแท้งกันมากขึ้น เหตุนี้เองจึงมีทั้งหมอที่ทำแท้งอย่างถูกกฎหมายและผิดกฎหมายเกิดขึ้น อย่างไรก็ตาม กฎแห่งกรรมไม่ได้แบ่งแยกว่า จะถูกกฎหมายหรือไม่ถูกกฎหมาย เพราะกฎแห่งกรรมตัดสินไปตามกฎเกณฑ์ของธรรมชาติ ใครฆ่าผู้อื่นก็นับว่าเป็นบาปทั้งนั้น ต่อไปนี้เป็นตัวอย่างหนึ่งของหมอทำแท้งเถื่อนที่ได้ประสบชะตากรรมด้วยตนเอง จากผลกรรมที่ตนเองกระทำไว้ เรื่องมีอยู่ว่า
ณ จังหวัดอุบลราชธานี มีชายสูงวัยคนหนึ่ง ชื่อสมยศ เขาเป็นคนฉลาด ชอบศึกษาหาความรู้อยู่เป็นประจำ โดยเฉพาะเรื่องเกี่ยวกับยา การรักษาโรคต่างๆ จนกระทั่งมีโอกาสได้เรียนรู้วิธีการทำแท้ง และสามารถทำแท้งได้ด้วยตัวเอง
สมยศทราบดีว่า ปัจจุบันมีผู้หญิงจำนวนมากในจังหวัดของเขาที่ตั้งท้องก่อนวัยอันควร และผู้หญิงเหล่านั้นก็แสวงหาสถานที่ทำแท้งกันอยู่ บางรายไม่กล้าไปหาหมอ ถึงกับทำแท้งตัวเอง หรือซื้อหายามากินเพื่อให้แท้งลูกก็มี
สมยศเห็นโอกาสเช่นนี้จึงคิดว่า หากเปิดคลินิกลับๆ ขึ้นมาเพื่อรับทำแท้งให้กับหญิงสาวพวกนี้ ก็น่าจะเป็นอาชีพที่มีรายได้ดี พอคิดได้เช่นนั้นสมยศจึงรีบปรึกษาภรรยา เมื่อภรรยาเห็นด้วย ทั้งสองก็ไม่รอช้า พากันไปซื้ออุปกรณ์การทำแท้ง และตกแต่งห้องสำหรับทำแท้งทันที
คลินิกเถื่อนของเขา หากมองภายนอกก็คงไม่มีใครรู้ว่า เป็นสถานที่สำหรับทำแท้ง แต่จะเป็นที่รู้จักกันดีในบรรดาหญิงสาว ซึ่งบอกกันปากต่อปาก สมยศเล่าว่า บางทีก็มีหญิงสาวเดินทางมาจากต่างจังหวัดไกลๆ ซึ่งแรกๆ เขาก็งงอยู่เหมือนกันว่า พวกเธอทราบได้อย่างไรว่าเขารับทำแท้ง แต่ก็ได้คำตอบว่า มีคนแนะนำมา
สมยศได้ทำแท้งให้กับผู้หญิงจำนวนมาก บางครั้งเด็กที่อยู่ในท้องเป็นเพียงก้อนเลือด บางรายก็เริ่มมีแขนมีขางอกมาแล้ว แต่ด้วยความเคยชิน เขาจึงไม่รู้สึกตกใจ กลัวแต่ประการใด และไม่รู้สึกว่าเป็นบาปเป็นกรรมใดๆ ทั้งสิ้น บางครั้งเขากลับคิดว่า เขาได้บุญเสียอีก ที่ได้ช่วยให้ผู้หญิงเหล่านี้แก้ปัญหาของพวกเธอได้ ที่เป็นเช่นนั้น ก็เพราะว่า เขาถูกมิจฉาทิฏฐิเข้าครอบงำแล้วนั่นเอง จึงแยกแยะไม่ออกระหว่างความดีกับความชั่ว!!
หลังจากเปิดคลินิกเถื่อนได้หลายเดือน สมยศกับภรรยามีฐานะร่ำรวยมากขึ้น มีเงินมีทองจับจ่ายซื้อของมากมาย ทั้งสองจึงเพลินกับการทำแท้ง โดยไม่คิดเลยว่า กรรมนี้จะมาให้ผลในรูปแบบใด หากมองในแง่หนึ่ง เขาทั้งสองกำลังมีอวิชชาบังตาอย่างเต็มที่
ต่อมาภรรยาของสมยศตั้งครรภ์ ขณะที่ทั้งคู่ก็ยังไม่เลิกอาชีพทำแท้ง เพราะมีหญิงสาวมารับบริการเป็นจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ แต่ระยะหลังๆ สมยศนอนไม่ค่อยหลับ มักจะมีภาพเด็กที่เขาเคยทำแท้งมาปรากฏให้เห็นอยู่เป็นประจำ เขายิ่งนึกถึงเด็กที่เคยฆ่าไว้มากเท่าไหร่ ก็ยิ่งรู้สึกเป็นห่วงลูกที่อยู่ในท้องของภรรยาตนเองมากขึ้นเท่านั้น
เขาพยายามปลอบใจตนเองว่า คิดมากไป จริงๆแล้วไม่มีอะไรหรอก เด็กที่ตายไปแล้ว จะมาทำอะไรเขาได้ แต่ว่ายิ่งคิดก็ยิ่งนอนไม่หลับ ยิ่งเป็นทุกข์มากขึ้นเรื่อยๆ สมยศห่วงลูกมากยิ่งกว่าอะไร กลัวว่ากรรมที่เขาก่อไว้นั้น มันจะเกิดขึ้นกับลูกของตัวเอง
หลังจากภรรยาเขาตั้งท้องเข้าเดือนที่ ๙ เขารู้สึกสบายใจขึ้นว่า ลูกของตนจะต้องปลอดภัย ไม่เป็นอะไรแน่นอน และการที่เขานึกถึงเด็กที่เคยทำแท้งให้กับบรรดาหญิงสาวนั้น เป็นเพียงการคิดมากของเขาเอง ไม่ใช่กฎแห่งกรรมอะไรทั้งสิ้น
ต่อมาภรรยาของเขาก็คลอดลูกออกมาอย่างปลอดภัย สมยศยิ่งโล่งใจขึ้นมาก และดีใจอย่างสุดซึ้งเมื่อเห็นลูกคลอดออกมามีมือเท้าครบ ทำให้เขาคิดว่า หากการทำแท้งเป็นบาปจริง เขาจะต้องได้รับกรรมคนเดียว เพราะเขาเป็นคนทำเอง ลูกของเขาไม่เกี่ยว แต่ความจริงมันไม่ใช่สิ่งที่เขาคิดทั้งหมด
เพราะเรื่องจริงที่เกิดขึ้นกับสมยศก็คือ ลูกของเขาได้กลายเป็นเด็กพิกลพิการ แปลกประหลาด พูดไม่ได้ เดินไม่ได้ กินข้าวกินน้ำก็กินอย่างทุกข์ทรมาน แม้ว่าในปัจจุบันลูกของเขาจะอายุสิบกว่าปีแล้ว แต่ก็ยังพูดไม่ได้ เดินไม่ได้ และกินข้าวกินน้ำอย่างทุกข์ทรมานอยู่นั่นเอง!!
นับแต่ที่หมอสมยศทราบว่าลูกของตนพิกลพิการ เขาก็เริ่มตระหนักแล้วว่า คงเป็นกรรมที่ตนเองเคยกระทำไว้นั่นเอง และตอนนี้กรรมนั้นมันได้มาสนองเขาแล้ว ดวงใจของเขาที่มอบไว้กับลูกนั้นแทบแหลกสลาย มันทุกข์ทรมานยิ่งกว่าลูกหลายร้อยหลายพันเท่า ยิ่งเห็นลูกของตัวเองทุกข์ทรมานเท่าใด ดวงใจของผู้เป็นพ่อเป็นแม่ก็ยิ่งทุกข์ทบเท่าทวีคูณ
สมยศกับภรรยาเลี้ยงดูลูกคนนี้ด้วยความทุกข์ยากลำบาก เงินที่ได้มาจากการทำแท้ง ก็หมดไปกับการเลี้ยงดูและค่ารักษาพยาบาลจำนวนมาก และยังมีค่าใช้จ่ายอื่นๆ อีกจิปาถะ เพราะลูกคนนี้นอกจากจะไม่สมประกอบแล้ว ก็ยังมีโรคภัยไข้เจ็บมากด้วย เงินที่หามาได้จากการทำแท้งจึงเก็บเอาไว้ไม่อยู่ ต้องจ่ายออกไปๆ ตลอดเวลา เหมือนกับว่าต้องใช้หนี้คืนเขาไป
เมื่อผลกรรมชั่วได้มาปรากฏกับตนเอง สองสามีภรรยาจึงรู้สึกสำนึกผิด จึงตั้งใจเลิกอาชีพรับทำแท้ง และหันหน้ามาทำความดี สร้างบุญสร้างกุศล หลายครั้งเขาพยายามที่จะทำบุญทำกุศลส่งไปให้กับเด็กจำนวนมากที่เขาเคยทำแท้งนั้น แต่ความผิดเมื่อทำลงไปแล้ว ก็ย่อมได้รับผล ลูกของเขาไม่มีทางที่จะกลับมาเป็นคนปกติได้ ต้องมีชีวิตอยู่อย่างทุกข์ทรมาน จนกระทั่งจะตายจากไป
แม้ว่าเขาจะขออโหสิกรรมกับบรรดาเด็กๆ ที่เขาฆ่าแล้วก็ตาม แต่ไม่่ว่าจะทำอะไร เขาก็มักจะนึกถึงกรรมชั่วที่เคยทำเสมอ เพราะนั่นคือธรรมชาติของจิต มันไม่สามารถลบออกไปจากใจได้ง่ายๆ ความดีความชั่วที่เคยทำไว้ มันจะมาปรากฏในใจของเราจนกระทั่งวันตาย และหากในขณะใกล้ตายเรานึกถึงกรรมชั่ว หรือกรรมชั่วมาปรากฏให้เห็น จิตของเราก็จะเศร้ามอง หลังจากตายแล้ว ก็ต้องไปเกิดในนรก หรือในภพภูมิที่เป็นทุกข์ นี่คือธรรมชาติของกฎแห่งกรรม
เมื่อทราบเช่นนี้แล้ว ทุกคนจึงควรหลีกเลี่ยงจากกรรมชั่วให้เด็ดขาด หากพลาดพลั้งไปทำแล้ว ย่อมยากที่จะสร้างความดีทดแทนกรรมดีทดแทนกรรมชั่วไม่ได้ มันทำได้เพียงทำให้ผลของกรรมชั่วเบาบางลงเท่านั้น
หากเราจะหนีจากกรรมชั่ว มีเพียงทางเดียวเท่านั้นคือ ต้องพยายามบำเพ็ญกุศล ปฏิบัติสมาธิภาวนา จนกระทั่งสามารถบรรลุธรรม เป็นพระอรหันต์ หลังจากนิพพานไปแล้ว กรรมที่เคยทำมาก็จะไม่ให้ผลอีกต่อไป นั่นแหละจึงจะพ้นจากผลของกรรมชั่วได้ แต่ตราบใดยังไม่บรรลุอรหันต์ กรรมชั่วก็ยังต้องตามให้ผลอยู่นั่นเอง
(จากหนังสือธรรมลีลา ฉบับที่ 115 มิถุนายน 2553 โดย มาลาวชิโร)
|
Update : 17/7/2554
|
|