หน้าแรก สมาชิก รายการวัตถุมงคล ตะกร้าวัตถุมงคล วิธีชำระวัตถุมงคล วิธีบูชาวัตถุมงคล ประวัติวัด ติดต่อวัด เว็บบอร์ด
สมาชิก Log in
อีเมล์
รหัสผ่าน
สมัครสมาชิกใหม่
ลืมรหัสผ่าน
















ค้นหาวัตถุมงคล
 
 
 
หมวดวัตถุมงคล
  เครื่องราง พระอาจารย์ป้อม
  พระเครื่อง พระอาจารย์ป้อม
  พระเครื่อง หลวงพ่อสวัสดิ์
  พระเครื่อง หลวงปู่พิมพ์มาลัย
  พระเครื่อง หลวงพ่อสง่า
วัตถุมงคลของคุณ
รหัสวัตถุมงคล ราคา จำนวน
ยังไม่มีวัตถุมงคลอยู่ในตะกร้า
  • ชำระค่าวัตถุมงคล
  • แก้ไขรายการวัตถุมงคล
  • วิธีสั่งบูชาวัตถุมงคล
  •  

    กฎแห่งกรรม - เจ็บป่วยบ่อย เพราะชอบฆ่าสัตว์
    การฆ่าสัตว์เป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดมามีอายุสั้น การเบียดเบียนสัตว์เป็นสาเหตุทำให้เกิดมามีโรคภัยไข้เจ็บมาก สิ่งเหล่านี้เป็นกฎเกณฑ์ของธรรมชาติ ที่หากผู้ใด ล่วงเกินลงไป ย่อมได้รับผลเองโดยอัตโนมัติ ไม่ต้องรอ ให้ศาลมาตัดสิน กฎเกณฑ์ของธรรมชาติย่อมให้ผลเอง และเท่าเทียมกันกับทุกคน ไม่มีคำว่าสองมาตรฐานอย่างแน่นอน ผู้ใดทำกรรมใดไว้ ผู้นั้นย่อมได้รับผลกรรมนั้น
           
           ต่อไปนี้เป็นอีกตัวอย่างหนึ่งของหนุ่มผู้หลงผิด ชอบฆ่าสัตว์ เบียดเบียนสัตว์ เพราะความมัวเมาสนุกสนานของตน จนเป็นเหตุให้ต้องประสบกับชะตากรรมอันน่าสะพรึงกลัว และยากที่จะลืมเลือนไปตลอดชีวิต
           
           “นฤพน” เป็นลูกชาวนา อำเภอประโคนชัย จังหวัดบุรีรัมย์ บ้านของเขามีป่าอยู่ไม่ไกลจากหมู่บ้านมากนัก เขาชอบเข้าป่าล่าสัตว์ อาวุธสำคัญที่นฤพนชอบเป็นชีวิตจิตใจ ก็คือปืน และเขาเป็นคนที่ยิงปืนแม่นมาก ถึงขั้นที่ว่าสามารถยิงถูกหัวนกที่จับอยู่ปลายไม้ได้อย่างไม่พลาดในแต่ละวัน ชายหนุ่มจึงเข้าป่าล่าสัตว์ แต่บางครั้งก็ไม่ได้ล่ามาทำอาหาร แต่เพื่อฝึกซ้อมฝีมือยิงปืนเท่านั้นเอง
           
           ความสุขของนฤพนจึงกลายเป็นความทุกข์ของสัตว์จำนวนมากในป่า ทุกครั้งที่เขาเข้าป่า บรรดาสัตว์เล็กสัตว์น้อยเหมือนจะรู้ว่าเพชฌฆาตกำลังเดินเข้ามาหา มันจะพากันวิ่งหนีทันที แม้แต่นกทั้งหลายก็บินหนีไปหมด แต่เขาก็ไม่ได้สนใจอะไร เพราะนั่นเป็นปกติธรรมดาของสัตว์ ทั้งหลายอยู่แล้ว เมื่อรู้ว่าภัยมาถึงตัวก็ต้องรีบหาทางเอาตัวรอดไว้ก่อน
           
           ถึงแม้ว่าสัตว์น้อยใหญ่จะพยายามหลบหลีกอย่างไร แต่ก็ไม่พ้นเงื้อมมือของนฤพนไปได้ เขาเป็นคนมีพรสวรรค์ ในการล่าสัตว์มาก ทุกครั้งที่แบกปืนเข้าป่า จะต้องได้สัตว์กลับออกมา ไม่อย่างใดก็อย่างหนึ่ง ทุกครั้งที่ชาวบ้านเห็นเขาแบกสัตว์ป่ากลับมา ทุกคนก็จะยกย่องชมเชย ว่าเขาเป็นคนเก่ง ที่สามารถล่าสัตว์ได้เยอะกว่าคนอื่น นฤพนจึงหลงยินดีไปกับคำยกยอสรรเสริญนั้น ทำให้เขายิ่งมีความขยันและฝึกฝนกลยุทธ์ต่างๆ ในการล่าสัตว์ให้ได้มากขึ้นทุกวัน
           
           สัตว์ที่เขาล่ามาได้นั้น บางครั้งก็เอามาแจกจ่ายให้กับชาวบ้านได้ปรุงเป็นอาหารบ้าง บางครั้งก็ชวนเพื่อนๆ วัยรุ่น มาร่วมวงกินเหล้าและกับแกล้มกันอย่างสนุกสนาน นฤพนหลงผิดอยู่กับการกระทำความชั่วอย่างนั้นอยู่นานหลายปีทีเดียว โดยที่เขาไม่เคยรู้เลยว่า สิ่งที่ตนได้กระทำลงไปนั้นมันจะย้อนกลับมาหาตัวเองอย่างไร เพราะตลอดเวลาที่ผ่านมา เขามีแต่ได้รับคำชมว่า เป็นคนเก่ง คนมีฝีมือ การฆ่าสัตว์ตัดชีวิตจึงเป็นสิ่งที่สร้างชื่อเสียงให้กับเขา
           
           ด้วยความที่อวิชชาได้ปิดบังดวงตาของชายหนุ่มอย่าง แนบสนิทนี้ ทำให้เขาได้ทำกรรมจากการฆ่าสัตว์ตัดชีวิตไว้มากมาย หากนับรวมๆแล้ว สัตว์ที่ถูกเขาฆ่าคงไม่น้อยกว่าพันๆ ตัว ไม่ว่าจะเป็นกระรอก กระต่าย นก งู และอีก สารพัด เรียกว่าหากไปพบสัตว์ชนิดใดเข้า เขาก็จะยิงทันที โดยไม่เคยคิดสงสารและไม่เคยคิดเลยว่า สิ่งนั้นเป็นกรรม ที่จะย้อนกลับมาหาตัวเอง
           
           ต่อมานฤพนถูกสลัดรักจากหญิงสาวคนหนึ่งในหมู่บ้าน ความอกหักทำให้เขาอยากหนีจากชีวิตที่เต็มไปด้วยความทุกข์ จึงขอแม่มาหางานทำที่กรุงเทพ นั่นนับว่าเป็นครั้งแรกที่นฤพนได้วางมือจากการฆ่าสัตว์ตัดชีวิต
           
           หลังจากนฤพนมาอยู่กรุงเทพฯได้สองปี ผลแห่งกรรมที่เขากระทำไว้ ก็เริ่มจะแสดงฤทธิ์ออกมาทีละเล็กละน้อย เขาเริ่มเจ็บป่วยเป็นโน่นเป็นนี่อยู่ตลอดเวลา ไม่เคยหายสักที เดี๋ยวก็ป่วยเป็นโรคนั้น ป่วยเป็นโรคนี้ ทำให้ต้องเข้ารับการรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลเป็นประจำ
           
           ทุกครั้งที่นฤพนนอนรักษาตัวที่โรงพยาบาล เขาจะนึกถึงกรรมชั่วที่ตนเคยกระทำไว้ตลอด นึกถึงภาพแห่งความ เจ็บปวดทุกข์ทรมานของสัตว์ทั้งหลายเวลาถูกเขายิง ภาพเหล่านี้ทำให้ชายหนุ่มน้ำตาไหล และรู้สึกเจ็บปวดในหัวใจยิ่งขึ้น ขณะเดียวกันก็รู้สึกหวาดกลัว ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่สัตว์เหล่านั้นจะมาทวงคืนสิ่งที่เขาทำกับพวกมัน ทุกวินาทีของนฤพนจึงเต็มไปด้วยความหวาดผวา กลัวว่ากรรมเหล่านั้นจะตามมาให้ผลกับเขาในชาตินี้
           
           แต่สิ่งที่เขากลัวก็ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ เพราะเป็น การกระทำที่เขาก่อขึ้นเอง ย่อมให้ผลเองตามกฎเกณฑ์ของธรรมชาติ
           
           วันหนึ่ง..ในระหว่างที่เขาเดินออกไปจากโรงพยาบาลนั้น เขารู้สึกหน้ามืดเหมือนกับว่าจะเป็นลม แต่เขาก็พยายามประคองตัวเดินต่อไป แต่เดินไปได้ไม่เท่าไหร่ ก็ล้มลงจนร่างไปเสียบเข้ากับเหล็กชิ้นหนึ่ง แถวบริเวณที่ก่อสร้างริมถนน แต่นับว่ายังโชคดีที่ยังไม่โดนหัวใจ!!

           
           เขาถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลอีกครั้งหนึ่ง คราวนี้ต้องนอนรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลหลายวัน ชายหนุ่มนอนมองบาดแผลที่เกิดขึ้น ยิ่งทำให้เขารู้สึกว่า การที่เขาล้มลงถูกเหล็กเสียบนั้น ก็คงเป็นเพราะกรรมที่เขาเคยยิงสัตว์ไว้มากนั่นเอง ตัวแล้วตัวเล่าที่เขายิงที่ลำตัวของมัน กรรมนั้นคงตามให้ผลแล้ว
           
           ทุกครั้งที่นฤพนหลับตาลง ภาพกรรมเก่าที่เคยทำไว้ ก็มาปรากฎหลอกหลอนอยู่ตลอดเวลา จิตใจของเขาไม่มีช่วงเวลาแห่งความสุขเลย กรรมชั่วนั้นช่างมีผลมากมายเสียจริงๆ ชาตินี้เขาได้เผชิญกับกรรมชั่วของตนเองทั้งทางกายและทางใจ จึงประจักษ์ชัดแล้วว่า กรรมชั่วนั้น หากใครหลงผิดไปทำแล้ว ย่อมได้รับผลเป็นความทุกข์อย่างแน่นอน
           
           นฤพนได้ประสบกับความทุกข์ด้วยตนเองอย่างนั้นแล้ว จึงตั้งใจที่จะทำความดีและอุทิศบุญกุศลไปให้กับเจ้ากรรมนายเวรเหล่านั้น หลังจากเขาออกจากโรงพยาบาล ก็ได้ไปปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐาน ๗ วัน และทำบุญตักบาตรอย่างสม่ำเสมอ เพื่ออุทิศบุญกุศลให้กับเจ้ากรรม นายเวรที่เขาได้กระทำไว้ เพราะเขาชื่อว่า ผลบุญนี้ จะทำให้ผลแห่งกรรมชั่วของเขาเบาบางลงไปได้

           
           ถึงแม้ว่าในปัจจุบัน นฤพนยังคงมีโรคภัยไข้เจ็บเบียดเบียนอยู่บ้าง แต่ก็ทำให้เขาสบายใจขึ้น ที่ได้ทำความดีอยู่ทุกวัน เพื่อชดเชยกับความชั่วที่เขาสั่งสมมานานหลายปี หากเขาไม่พบแสงแห่งธรรมเลย ชีวิตของเขาคงจะพบกับความทุกข์ทรมานมากกว่านี้อีกหลายเท่า
           
           ทุกวันนี้ยังมีผู้คนอีกจำนวนมากที่ตกอยู่ในความมืดของอวิชชา ทั้งๆ ที่พระพุทธเจ้าได้จุดแสงสว่างแห่งธรรมขึ้นมาบนโลกนี้หลายพันปีแล้ว คนที่ได้รับแสงสว่างแห่งธรรม ย่อมดำเนินชีวิตไปอย่างราบรื่น บนเส้นทางแห่งความสุข ส่วนคนที่อยู่ในความมืด ย่อมดำเนินชีวิตไปบนคราบน้ำตา
           
           (จากหนังสือธรรมลีลา ฉบับที่ 119 ตุลาคม 2553 โดย มาลาวชิโร)


    • Update : 10/7/2554
    © Copyright 2011 www.watnongmuang.com All rights reserved 999arch