ในที่นี้ผมจะขอแนะนำให้ท่านหาซื้ออาหารเม็ดสำเร็จรูป ที่เป็นอาหารกบโดยตรงมาใช้นะครับ ยี่ห้ออะไรก็แล้วแต่ท่านสะดวกที่จะหามาได้นะครับ หลายๆคนและหลายๆที่ก็แนะนำว่าเป็นปลาต้มสับ ก็ได้เหมือนกัน แต่ปัจจุบันทุกอย่างเร่งรีบ และอาหารแบบตามธรรมชาติก็ลดน้อยลงไปมาก ผมจึงแนะนำตามความคิดผมด้านบนนะครับ เพราะอาหารเม็ด ปัจจุบันก็ราคาเฉลี่ย 480 – 530 บาท / กระสอบ(20 กก.) นะครับ ( ยึดตามราคาที่ฟาร์มของผมจำหน่ายอยู่ครับ )
หลักการให้อาหารกบ คือ
1. การให้อาหารและขนาดเม็ดอาหาร ให้ดูคร่าวๆจากอายุกบ ไปเลยครับ ไม่ต้องสนใจหลักการอะไรมากครับ เช่น
- กบเล็กอายุ 15 – 35 วัน ให้กินอาหารเม็ดเล็กสุด หรือที่เรียกว่าเม็ดโฟม ให้กินพออิ่ม อย่าให้มาก เพราะกบจะท้องอืดตายได้
- กบเล็กอายุ 36 – 45 วัน ให้กินอาหารเม็ด เบอร์ 1 ได้ครับ
- กบรุ่นอายุ 46- 59 วัน ให้กินอาหารเม็ด เบอร์ 2 ได้เลยครับ
- กบโตอายุ 60 วัน ขึ้นไป ให้กินอาหารเม็ด เบอร์ 3 ได้เลยครับ และก่อนจับก็ให้กินเบอร์ 4 เพื่อรอคนมาจับได้นะครับ
2. อาหารยิ่งเบอร์เล็ก ยิ่งแพง เพราะว่าในช่วงกบอายุน้อยๆจะต้องการโปรตีนปริมาณสูงกว่ากบโต จึงทำให้อาหารเบอร์เล็กแพงกว่าเบอร์ใหญ่ๆครับ
3. กบเล็ก อายุ 30 – 60 วัน ให้กินอาหารวันละ 3 มื้อ ให้กินพออิ่ม อันนี้ต้องดูเอาว่ากบกินทั่วถึงแล้วหรือไม่ ไม่ต้องไปคำนวณตามสูตรอะไรมากมาย เอาง่ายๆพอครับ
4. กบรุ่นและกบโต อายุ 60 วันขึ้นไปให้กินอาหารวันละ 2 มื้อ ก็พอครับ จะได้ไม่เปลืองมาก อย่าให้อาหารมากเกิน เพื่อป้องกันกบท้องอืด และตาย
5. การให้อาหารควรเคล้ายาให้กบบ้าง ตามอาการที่กบเป็นโรค หรือเพื่อป้องกันโรค ส่วนยาก็ไปที่ร้านเกษตรทั่วไปแล้วเลือกดูเอาครับตามที่พบอาการว่ากบมีอาการเป็นอะไรบ้าง สมัยนี้มียารักษาและป้องกันหลายยี่ห้อครับ แต่แนะนำให้ใช้ยาให้น้อยที่สุด หรือเท่าที่จำเป็นนะครับ ตรงนี้สำคัญมากถ้าต้องการส่งออกกบในอนาคตครับ
6. ตามปกติกบจะกินอาหารเรื่อยๆไม่มีหยุด เรียกว่ากินจนท้องอืดและตายในที่สุด ดังนั้นอย่าคิดว่ากบกินอาหารหมดแสดงว่ากบหิว จริงๆแล้วให้ดูโดยรวมๆว่ากินทั่วถึงแล้วหรือยัง ถ้าทั่วถึงแล้วก็ให้หยุดให้อาหารในมื้อนั้นๆและจำเป็นมาตรฐานไว้ว่าเราควรจะให้มื้อละกี่กิโลกรัมครับ
หลายๆที่แนะนำให้เลี้ยงกบด้วยอาหารปลาดุก ผมมีความคิดเห็นต่างออกไปนะครับ เพราะว่าอาหารปลาดุกนั้นโปรตีนจะต่ำกว่าอาหารกบอย่างมาก นั่นหมายความว่าถ้าเราใช้อาหารปลาดุกมาใช้เลี้ยงกบ ก็จะทำให้กบโตช้าและแกร็น เพราะในช่วง 1 – 2 เดือนแรก กบจะมีการเจริญเติบโตสูงและต้องการโปรตีนสูงตามไปด้วย การใช้อาหารปลาดุกเท่ากับเป็นการลดโปรตีนลงไป กบจะไม่โตเท่าที่ควร และไม่ได้น้ำหนัก(โต แต่กลวงๆ)
แล้วเราจะใช้อาหารปลาดุกเมื่อใด เพราะว่ามันราคาถูก น่านำมาใช้แทนอาหารกบซะเหลือเกิน?
คำตอบคือ ตอนกบอายุ 100 วันไปแล้ว และอยู่ในช่วงที่กบโตในท้องตลาดมีราคาถูกซะจนรับไม่ได้ จะให้อาหารกบแท้ไปทำไม เมื่อขนาดกบก็ 4 – 5 ตัว / กก. อยู่แล้ว แต่ราคาขายถูกจนต้องตัดสินใจเลี้ยงต่อไว้ก่อนเพื่อรอราคาขึ้น แบบนี้ต้องเอาอาหารปลาดุกมาให้กบกินประทังชีวิตไปก่อนครับ เพื่อรอขายอย่างเดียว ไม่ได้ต้องการให้กบโตเพิ่มแต่อย่างใด อันนี้ผมว่าเหมาะสมครับ
อันนี้เป็นความคิดส่วนตัวผมและผมก็ทำอยู่ครับ ใครพิจารณาแล้วเห็นตรงกันก็ลองนำไปปรับใช้ดูได้ครับ ไม่เห็นด้วยก็อย่าว่ากันนะครับ
แนะนำสูตรอาหารกบและปลาดุก แบบประหยัด (แหล่งที่มา : ศูนย์ทางด่วนข้อมูลการเกษตร *1677 | http://www.rakbankerd.com)
สูตรอาหารกบ
วัตถุดิบที่ต้องใช้
1.หอยเชอรี่…………….จำนวน…….32…..กิโลกรัม
2.มันเส้น……………….จำนวน…….14…..กิโลกรัม
3.ข้าวโพด………………จำนวน…….10…..กิโลกรัม
4.ข้าวเหนียวแห้ง……….จำนวน…….10…..กิโลกรัม
5.ใบกระถินสด………….จำนวน…….10…..กิโลกรัม
6.กากมะพร้าว………….จำนวน……..4……กิโลกรัม
7.รำอ่อน……………….จำนวน……..24….กิโลกรัม
8.กล้วยสุก……………..จำนวน……..12….หวี
9.ผงฟู/ยีสต์……………จำนวน………2…..ซอง
10.ปลายข้าว………….จำนวน………20…กิโลกรัม
รวมน้ำหนัก…………………….100-120…กิโลกรัม
วิธีการผสม
- นำส่วนผสมทั้งหมดมาบดใส่เครื่องบดผสมกัน ซึ่งจะมีขนาดของหัวอาหารแบ่งเป็นเบอร์ คือ เบอร์1 / เบอร์ 2 และ เบอร์ 3 จากนั้นให้นำมาตากแดดไว้จนแห้งประมาณ 1-2 วัน แล้วจึงนำไปให้สัตว์กิน
- สามารถเป็นหัวอาหารให้กับกบ และ ปลาดุก ได้ เพื่อเป็นอาหารบำรุงให้สัตว์มีสุขภาพแข็งแรง และมีความอ้วนถ้วนสมบูรณ์
ผมเคยเจอผู้ที่ขายอุปกรณ์และวัตถุดิบอยู่บ้าง เข้าดูตามลิ้งนี้นะครับ
- สำหรับเครื่องบดและอัดเม็ด ลงดูที่นี่ดูก่อนครับ ที่ http://www.pui-thai.com
- ส่วนวัตถุดิบที่ใช้ แนะนำให้ปรึกษาผู้ขายที่ [email protected] ผมเห็นเขาประกาศขายอยู่หลายเว็ปครับ
- หรือไปที่ http://www.thaifeed.net ก็มีคนขายเยอะครับ