การเลี้ยงกบในกล่องโฟมคอนโด
อันนี้ต้องยกเครดิตให้คุณลุงฉะอ้อน นะครับข้อมูลส่วนที่ผมรวบรวมมาจะเป็นแนวคิดที่คุณลุงท่านนี้ริเริ่มไว้ แล้วผมมาเล่าต่อนะครับ
ก่อนอื่นต้องหากล่องโฟมขนาดกว้าง 40 ซม.ยาว 60 ซม. สูง 30 ซม. โดยหาซื้อได้จากห้างสรรพสินค้า ที่ห้างใช้ใส่ผักผลไม้มาวางจำหน่าย ประมาณราคากล่องละ 70 – 80 บาท แต่ต้องเลือกกล่องโฟมที่ใช้ในการใส่ผักและผลไม้เท่านั้น เนื่องจากกล่องโฟมเหล่านี้จะไม่ก่อให้เกิดสารพิษตกค้างเมื่อนำมาใช้เป็นสถานที่เลี้ยงกบ และต้องเลือกดูว่ากล่องโฟมไม่มีการรั่วซึมหรือไม่
จากนั้นนำมาทำความสะอาดและดัดแปลงโดยการเจาะรูรอบกล่องทั้ง 4 ด้านเพื่อให้อากาศถ่ายเทได้สะดวก นำเทปกาวมาติดยึดฝากล่องให้พับปิดเปิดได้ แล้วเจาะรูด้านบนฝากล่อง ตัดปากขวดน้ำดื่มพลาสติก ยัดใส่ลงไปในรูที่เจาะไว้เพื่อใช้เป็นที่ให้อาหาร เมื่อหาที่วางกล่องเรียบร้อย ใส่น้ำลงไปให้สูงประมาณ 1 ซม. นำกบจากบ่ออนุบาลที่มีอายุ 2 เดือนใส่กล่องละ 100 ตัว ไปวางไว้ในโรงเรือนหรือที่ใดก็ได้ แต่ห้ามไปตั้งกลางแจ้งหรือถูกแดดเด็ดขาดเพราะจะทำให้กบร้อนตายได้
เพื่อประหยัดเนื้อที่ นำกล่องโฟมตั้งซ้อนกันไว้แต่ไม่ควรเกิน 4 ชั้น เพราะจะสะดวกต่อการให้อาหาร โดยการให้อาหารกบก็จะใช้หัวอาหารกบหรืออาหารปลาดุกโตวันละ 2 มื้อ เช้า-เย็น ส่วนการเปลี่ยนถ่ายน้ำก็ควรจะเปลี่ยน 2 วันต่อครั้ง เพื่อไม่ให้น้ำสกปรก ส่วนการเปลี่ยนน้ำก็ทำได้ง่ายๆ โดยการแง้มฝากล่องแล้วเทน้ำออกจากนั้นก็นำสายยางสอดลงไปในที่ให้อาหาร ปล่อยน้ำเข้ากลับไปเหมือนเดิม จากนั้นหมั่นตรวจดูการเจริญเติบโตของกบทุก 2 สัปดาห์ และคัดแยกกบที่โตช้ากว่าตัวอื่นๆ ออก เนื่องจากหากปล่อยไว้กบจะกัดกันและเป็นแผลซึ่งอาจทำให้เกิดโรคตามมาได้
กระทั่งกบอายุได้ 4 เดือน ก็ให้แยกกบออกจนเหลือ 50-60 ตัว เนื่องจากกบจะเริ่มโต หากปล่อยไว้จะทำให้แออัดกบจะกัดกัดตายได้ จากนั้นก็ดูแลไปอีก 2 เดือน ก็สามารถจับไปขายได้แล้ว กบก็จะมีน้ำหนักอยู่ที่ตัวละ 400-500 กรัม
“การเลี้ยงกบกล่องโฟมทำได้ง่าย สะดวกมาก เพราะกล่องมีน้ำหนักน้อย ง่ายต่อการเคลื่อนย้าย ยกเปลี่ยนน้ำได้สะดวก ถือเป็นการเลี้ยงระบบปิดทำให้กบปลอดจากโรค ประหยัดเนื้อที่ เพียงแต่มีพื้นที่ 4×6 ตารางวา ก็จะเลี้ยงกบได้ถึง 5,000 ตัวเลยทีเดียว” คุณลุงฉะอ้อนกล่าวไว้นะครับ
นับเป็นอีกหนึ่งวิธีในการเลี้ยงกบที่ผู้สนใจสามารถนำไปทดลองเลี้ยงได้ โดยเฉพาะคนเมืองซึ่งมีเนื้อที่น้อยได้ก็สามารถใช้ประโยชน์จากการเลี้ยงกบเพื่อสร้างรายได้เสริมอีกทางหนึ่งด้วย
ข้อดี
1. เลี้ยงในบริเวณบ้าน หรือมีพื้นที่จำกัดได้ดีพอสมควร และดีกว่าการเลี้ยงแบบใส่ขวดพลาสติก
2. ลงทุนต่ำ กว่าเลี้ยงในบ่อปูนหรือบ่อดิน
3. ให้อาหารกบได้ง่ายและทั่วถึง ไม่เปลืองอาหาร
4. ควบคุมโรคได้ง่าย ถ่ายน้ำสะดวก และใช้น้ำน้อยกว่า
5. เหมาะกับผู้ที่เริ่มศึกษาการเลี้ยง หรือเลี้ยงเป็นอาชีพเสริมเล็กๆน้อยๆเท่านั้น ไม่หวังผลกำไร
ข้อเสีย
1. ใช้เวลาถ่ายน้ำและให้อาหารนาน หากเลี้ยงจำนวนหลายๆกล่อง เพราะใส่ได้แค่กล่องละ 100 ตัว เท่านั้น
2. ไม่เหมาะกับการเลี้ยงจริงจังเชิงพาณิชย์ ที่ต้องมีปริมาณผลผลิตต่อเดือนสูง ถ้าหากมีแรงงานน้อยหรือผู้เลี้ยงมีเวลาไม่มากพอ
3. ไม่คุ้มค่าเวลาเลี้ยง เหน็ดเหนื่อยกว่าปกติ ไม่มีกำไร เหมือนขี่ช้างจับตั๊กแตน ไม่คุ้มค้า
หมายเหตุ
ทางฟาร์ม ไม่เคยเลี้ยงกบในกล่องโฟม อย่างจริงจังมาก่อน ข้อมูลด้านบนได้รวบรวมมาจากแหล่งต่างๆ เพื่อให้ท่านได้ศึกษาเบื้องต้นเท่านั้น