หน้าแรก สมาชิก รายการวัตถุมงคล ตะกร้าวัตถุมงคล วิธีชำระวัตถุมงคล วิธีบูชาวัตถุมงคล ประวัติวัด ติดต่อวัด เว็บบอร์ด
สมาชิก Log in
อีเมล์
รหัสผ่าน
สมัครสมาชิกใหม่
ลืมรหัสผ่าน
















ค้นหาวัตถุมงคล
 
 
 
หมวดวัตถุมงคล
  เครื่องราง พระอาจารย์ป้อม
  พระเครื่อง พระอาจารย์ป้อม
  พระเครื่อง หลวงพ่อสวัสดิ์
  พระเครื่อง หลวงปู่พิมพ์มาลัย
  พระเครื่อง หลวงพ่อสง่า
วัตถุมงคลของคุณ
รหัสวัตถุมงคล ราคา จำนวน
ยังไม่มีวัตถุมงคลอยู่ในตะกร้า
  • ชำระค่าวัตถุมงคล
  • แก้ไขรายการวัตถุมงคล
  • วิธีสั่งบูชาวัตถุมงคล
  •  

    คลังกดปุ่มประกันภัยข้าวดีเดย์1ก.ค.54

    คลังกดปุ่มประกันภัยข้าวดีเดย์1ก.ค.54

    คลังกดปุ่มประกันภัยชาวนา ดีเดย์ 1 ก.ค.นี้ ระบุเป็นครั้งแรกให้ชาวนาจ่ายค่าเบี้ยประกัน 50 บาทต่อไร่ แต่ได้รับชดเชยถึงไร่ละ 2,006 บาทต่อไร่ คาดมีพื้นที่เกษตรเข้าร่วมกว่า 10 ล้านไร่ทั่วประเทศ...

    เมื่อวันที่ 28 มิ.ย. นายกรณ์ จาติกวณิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยภายหลังการเปิดโครงการประกันภัยข้าวนาปี 2554 และการเป็นสักขีพยานการลงนามบันทึกความร่วมมือระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งภาครัฐและเอกชนรวม 5 หน่วยงานในการพัฒนาระบบประกัน ภัยพืชผลให้ครอบคลุมถึงพื้นเศรษฐกิจหลักในอนาคต ว่า วันนี้ (28 มิ.ย.) เป็นการร่วมเปิดโครงการประกันภัยพืชผล ซึ่งเป็นโครงการสำคัญที่รัฐบาลพยายามขับเคลื่อน หลังจากที่รัฐบาลมีนโยบายคุ้มครองด้านรายได้ให้กับเกษตรกรที่ทำนาสามารถ มั่นใจว่าทำนาแล้วมีกำไร ก็ยังมีความเสี่ยงในเรื่องภัยธรรมชาติที่มีผลกระทบต่อพืชผลทางการเกษตร ดังนั้น นโยบายประกันภัยพืชผล จะทำให้เกษตรกรมีความมั่นใจ ว่าถึงแม้จะเกิดความเสียหายก็จะได้รับการชดเชย โดยโครงการดังกล่าว ได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหลายๆ แห่ง เช่น กระทรวงเกษตร และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.)

    ทั้งนี้ เบี้ยประกันต่อไรจะอยู่ที่ 130 บาท ตามมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) รัฐบาลออกให้ 70 บาทต่อไร่ และ ธ.ก.ส.ออกให้อีก 10 บาทต่อไร่ โดยเกษตรกรมีภาระที่ 50 บาทต่อไร่ ขณะที่หากพืชผลได้รับความเสียหายก็จะได้รับการชดเชยสูงถึง 2006 บาทต่อไร่ นอกจากนั้น ชาวนาที่สมัครเข้าโครงการประกันพืชผล และกู้เงินจากธนาคาร ธ.ก.ส. ยังได้รับการลดดอกเบี้ยให้อีก 1% เป็นเวลา 6 เดือน เพื่อจูงใจให้เกษตรกรมาเข้าโครงการจำนวนมาก โดยจะเริ่มดำเนินการโครงการดังกล่าว 1 ก.ค.นี้ เพื่อให้ทันการเพาะปลูกข้าวนาปีในปีนี้ ทั้งนี้ รัฐบาลตั้งงบประมาณในส่วนของเบี้ยชดเชยอยู่ที่ประมาณ 4,000 ล้านบาท ซึ่งมั่นใจว่าจะเพียงพอกับเกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนในโครงการประกันรายได้ ทั้งหมด

    “ตั้งเป้าในปีแรกคาดว่าจะมีประมาณ 8-10 ล้านไร่ หรือ 15-20% จากพื้นที่ที่ขึ้นทะเบียนในโครงการประกันรายได้กว่า 57 ล้านไร่ทั่วประเทศ และจะขยายวงของเกษตรกรที่ได้รับการคุ้มครองให้กว้างออกไปเรื่อยๆ ในปีต่อๆ ไป แต่ถือว่าปีนี้เป็นปีแรก และถือเป็นการเพิ่มความมั่นคงชิ้นสุดท้ายของรัฐบาลนี้ หลังจากมีนโยบายต่างๆ เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรออกมาโดยตลอด” นายกรณ์ กล่าว

    ด้าน นายนริศ ชัยสูตร ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) กล่าวว่า โครงการประกันภัยข้าวนาปี 2554 ถือเป็นส่วนหนึ่งของแผนปฏิบัติการตามยุทธศาสตร์ชาติในการพัฒนาการประกันภัยพืชผล จากปัญหาภัยธรรมชาติ และเพื่อเป็นการสร้างแรงจูงใจให้เกษตรกรทั่วประเทศเข้าร่วมโครงการ รัฐจะอุดหนุนค่าเบี้ยประกันภัยสำหรับเกษตรกรในส่วนที่เกินกว่า 60 บาทต่อไร่ จากอัตราเบี้ยประกันภัยสุทธิ 129.47 บาทต่อไร่ ในกรณีที่เกิดความเสียหาย เกษตรกรผู้ปลูกข้าวที่เข้าร่วมโครงการจะได้รับความสินไหมทดแทนจากผู้รับประกันภัยเอกชน เพิ่มเติมจากการช่วยเหลือผู้ประสบภัยของรัฐปัจจุบัน โดยจำนวนค่าสินไหมทดแทนจะขึ้นกับระยะเวลาเพาะปลูก โดยแบ่งออกเป็น 2 ระยะ คือ 60 วันแรก นับจากวันที่เริ่มเพาะปลูก จำนวน 606 บาทต่อไร่ และวันที่ 61 ขึ้นไป จนถึงวันสุดท้ายก่อนการเก็บเกี่ยว จำนวน 1,400 บาทต่อไร่

    สำหรับโครงการประกันภัยพืชผลครั้งนี้ ได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากสมาคมประกันวินาศภัย โดยบริษัทเอกชนผู้รับประกันภัยตามโครงการนี้ได้ยืนยันความพร้อมในการจ่ายค่า สินไหมทดแทนภายใน 15 วัน นับจากวันที่ได้รับเอกสารประกอบการจ่ายสินไหมทดแทนครบถ้วน นอกจากนี้ ธ.ก.ส.ในฐานะผู้บริหารโครงการจะทำหน้าที่ขับเคลื่อนโครงการจากผู้รับประกันภัยไปยังเกษตรกรทั่วประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเกษตรกรรายย่อยให้สามารถเข้าถึงกรมธรรม์ประกันภัยได้อย่างทั่วถึง ทั้งนี้ เกษตรกรทั่วทุกภาคยกเว้นภาคใต้ จะสามารถซื้อกรมธรรม์ประกันภัยข้าวนาปีได้ที่ ธ.ก.ส. ตั้งแต่วันที่ 1 – 31 ก.ค.54 และสำหรับภาคใต้สามารถซื้อได้ตั้งแต่ 1 – 31 ส.ค.54


    • Update : 28/6/2554
    © Copyright 2011 www.watnongmuang.com All rights reserved 999arch