หน้าแรก สมาชิก รายการวัตถุมงคล ตะกร้าวัตถุมงคล วิธีชำระวัตถุมงคล วิธีบูชาวัตถุมงคล ประวัติวัด ติดต่อวัด เว็บบอร์ด
สมาชิก Log in
อีเมล์
รหัสผ่าน
สมัครสมาชิกใหม่
ลืมรหัสผ่าน
















ค้นหาวัตถุมงคล
 
 
 
หมวดวัตถุมงคล
  เครื่องราง พระอาจารย์ป้อม
  พระเครื่อง พระอาจารย์ป้อม
  พระเครื่อง หลวงพ่อสวัสดิ์
  พระเครื่อง หลวงปู่พิมพ์มาลัย
  พระเครื่อง หลวงพ่อสง่า
วัตถุมงคลของคุณ
รหัสวัตถุมงคล ราคา จำนวน
ยังไม่มีวัตถุมงคลอยู่ในตะกร้า
  • ชำระค่าวัตถุมงคล
  • แก้ไขรายการวัตถุมงคล
  • วิธีสั่งบูชาวัตถุมงคล
  •  

    กรมอุทยานฯเพิ่มพื้นที่อนุรักษ์ 25 แห่ง เพื่อธรรมชาติ

    กรมอุทยานฯเพิ่มพื้นที่อนุรักษ์ 25 แห่ง เพื่อธรรมชาติที่ยั่งยืน

    นายสุนันต์ อรุณนพรัตน์ อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช  กล่าวว่า ปัจจุบันมีอุทยานแห่งชาติ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า และเขตห้ามล่าสัตว์ป่า ที่ได้รับการประกาศจัดตั้งตามกฎหมายแล้ว คิดเป็นเนื้อที่รวมกันประมาณ 64 ล้านไร่ คิดเป็นร้อยละ 20 ของพื้นที่ประเทศ ดังนั้น เพื่อเป็นการเพิ่มพื้นที่ป่าเพื่อการอนุรักษ์ ตามนโยบายการป่าไม้แห่งชาติ กรมอุทยานแห่งชาติฯ จึงมีนโยบายจัดตั้งอุทยานแห่งชาติเพิ่มเติม  25 แห่ง โดยจะเตรียมผนวกป่าสงวนแห่งชาติ เป็นพื้นที่อุทยานอีก 37 แห่ง รวมพื้นที่ 8 ล้านไร่ แบ่งเป็นอุทยานใหม่ 6.1 ล้านไร่ ป่าสงวนที่จะผนวกอีก 1.9 ล้านไร่
       
    การเพิ่มพื้นที่อุทยานแห่งชาติ ทั้ง 25 แห่ง จะเป็นการดำเนินงานตามนโยบายการป่าไม้แห่งชาติโดยการเพิ่มพื้นที่ป่าเพื่อการอนุรักษ์ ให้ได้สัดส่วนในอัตราร้อยละ 25 ของพื้นที่ประเทศและเพื่อคุ้มครองรักษาทรัพยากรธรรมชาติที่มีอยู่ เช่น พันธุ์ไม้และของป่า สัตว์ป่า ตลอดจนทิวทัศน์ป่าและเขา ให้คงอยู่ในสภาพธรรมชาติเดิม มิให้ถูกทำลายหรือเปลี่ยนแปลงไป เพื่ออำนวยประโยชน์ทั้งทางตรงและทางอ้อมแก่ประชาชน
       
    ด้าน นายรัชฎา สุริยกุล ณ อยุธยา ผู้อำนวยการสำนักอุทยานแห่งชาติ  กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กล่าวต่อว่า พื้นที่อุทยานแห่งชาติ 25 แห่ง ที่ประกาศเพิ่มเติมประกอบด้วย อุทยานแห่งชาติที่ยังไม่ผ่านคณะกรรมการอุทยานแห่งชาติ จำนวน 3 แห่ง ได้แก่ อุทยานฯ ลำน้ำกก จ.เชียงราย 450,000 ไร่, หมู่เกาะระ-พระทอง จ.พังงา 140,000 ไร่, อ่าวมะนาว-เขาตันหยง จ.นราธิวาส 23,278.25 ไร่
       
    อุทยานแห่งชาติที่ผ่านคณะกรรมการอุทยานแห่งชาติแล้ว จำนวน 10 แห่ง ได้แก่ น้ำตกเจ็ดสาวน้อย จ.สระบุรี 25,917 ไร่, นายูง-น้ำโสม จ.อุดรธานี 281,875 ไร่, น้ำตกพาเจริญ จ.ตราด 530,000 ไร่, แม่เงา จ.แม่ฮ่องสอน ตาก เชียงใหม่ 257,650 ไร่, อุทยาน สันกาลาคีรี 130,000 ไร่ครอบคลุมพื้นที่ปัตตานี สงขลาและยะลา, น้ำตกซีโป จ.นราธิวาส 180,000 ไร่, อุทยานฯ ออบขาน จ.เชียงใหม่ 140,000 ไร่, อุทยานฯ แก่งเจ็ดแคว จ.พิษณุโลก 140,000 ไร่, อุทยานฯ แม่โถ จ.เชียงใหม่ 300,000 ไร่
       
    อุทยานแห่งชาติที่ผ่านคณะรัฐมนตรี ครั้งที่ 1 รับหลักการและส่งให้ สนง.คกก.กฤษฎีกา จำนวน 7 แห่ง ได้แก่ อุทยานฯ เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์ 300,000 ไร่, อุทยานฯ ขุนขาน จ.เชียงใหม่ 129,959 ไร่, อุทยานฯ ดอยภูนาง จ.พะเยา  538,125 ไร่, ถ้ำผาไท จ.ลำปาง 763,087.25 ไร่,หาดขนอม-หมู่เกาะทะเลใต้ จ.สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช 196,875 ไร่, แม่ตะไคร้ จ.เชียงใหม่ ลำพูน 222,912
    ไร่, เฉลิมพระเกียรติไทยประจัน จ.ราชบุรี 205,777 ไร่
       
    อุทยานแห่งชาติที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาเสร็จแล้ว จำนวน  5 แห่ง ได้แก่ นันทบุรี จ.น่าน  283,319 ไร่, ดอยจง จ.ลำปาง ลำพูน 216,365 ไร่,  ดอยเวียงผา จ.เชียงใหม่ เชียงราย  222,986 ไร่, ขุนสถาน จ.น่าน 252,826 ไร่, ถ้ำสะเกิน จ.น่าน พะเยา 157,377 ไร่
       
    “อย่างไรก็ดีการประกาศอุทยานใหม่เพิ่มเติม บางแห่งต้องใช้เวลา 10 ปี เนื่องจากมีชาวบ้านอยู่อาศัยมาก่อน ชาวบ้านบางกลุ่มก็เข้าไปบุกรุกยึดถือครอบครองโดยผิดกฎหมาย ทำให้การสำรวจรังวัดจัดทำแนวเขตอุทยานแห่งชาติ ต้องมีการเปลี่ยนแปลงแนวเขตไม่ได้ข้อยุติ” ผู้อำนวยการสำนักอุทยานแห่งชาติ กล่าว.


    • Update : 28/6/2554
    © Copyright 2011 www.watnongmuang.com All rights reserved 999arch