|
|
สำนักพุทธฯ เฝ้าระวังพฤติกรรมพระใช้อินเตอร์เน็ตผิดทาง
สำนักพุทธฯเร่งตรวจสอบพระแพลงกิ้ง เฝ้าระวังพฤติกรรมพระใช้อินเตอร์เน็ตผิดทาง
นายอำนาจ บัวศิริ รอง ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) เปิดเผยว่า กรณีพบภาพพระสงฆ์ที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมโดยการทำท่าแพลงกิ้ง เผยแพร่ผ่านทางเว็บไซต์เครือข่ายสังคมออนไลน์ ได้สั่งการศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศของสำนักพุทธฯ ดำเนินการตรวจสอบว่า พระที่ทำแพลงกิ้งอยู่ในเฟซบุ๊ก เป็นพระอยู่ในสังกัดของวัดใด หรือใครเป็นเจ้าของภาพดังกล่าว และเจ้าของเฟซบุ๊กนั้น รวมทั้งจะต้องประสานกับทางกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร หาก สำนักพุทธฯ ตรวจสอบไม่ได้จริงๆ ทั้งนี้ คงจะต้องใช้ระยะเวลาในการตรวจสอบเพื่อความแน่ชัด เมื่อได้ข้อมูลที่ชัดเจนแล้วจะได้ประสานกับทางเจ้าคณะปกครองให้ดำเนินการตักเตือน สำหรับพระธรรมวินัยในเรื่องห้ามพระเล่นแพลงกิ้งคงไม่มี เพราะสมัยพุทธกาลเทคโนโลยีเหล่านี้ยังไม่มี แต่การเป็นพระภิกษุ-สามเณรควรที่จะสำรวม ไม่ควรเล่นเหมือนกับฆราวาส ดังนั้น สำนักพุทธฯ จะตั้งคณะทำงานเฝ้าระวังเหตุการณ์พระภิกษุ-สามเณร ในการใช้ระบบอินเตอร์เน็ต หรือเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร อาทิ เฟซบุ๊ก เอ็มเอสเอ็น เพื่อแจ้งเตือนหากพบเห็นพระสงฆ์-สามเณร มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมในระบบอินเตอร์เน็ต รวมทั้งให้ภาคประชาชนแจ้งเบาะแสเข้ามาได้ที่ศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศของสำนักพุทธฯ ได้ด้วย เพื่อเป็นการแจ้งเตือนและจะได้มีการตรวจสอบได้ทันท่วงที
ด้านนายสวัสดิ์ อโณทัย คณบดีคณะปรัชญาและศาสนา มหาวิทยาลัยเซนต์จอห์น กล่าวว่า พระเล่นแพลงกิ้ง เป็นพระจริงหรือผู้แต่งกายเลียนแบบพระแล้วเล่นแพลงกิ้ง แต่หากเป็นพระจริง ก็ไม่เหมาะแก่สมณสารูป ถึงแม้ว่าจะไม่มีระบุในพระธรรมวินัยก็ตาม แต่ก็ถือว่าอาบัติทุกกฎ ซึ่งหากจะอ้างว่า ทำตามกระแสก็ถือว่าไม่ถูกต้อง เป้าหมายของการมาบวชของพระสงฆ์ก็เพื่อศึกษาพระธรรม และเข้าถึงนิพพาน ดังนั้น พระสงฆ์ สามเณร ในยุคเทคโนโลยีสารสนเทศเช่นนี้ จะต้องเรียนรู้เท่าทันสื่อ ซึ่งพระพรหมคุณาภรณ์ (ป.อ.ปยุตโต) ได้เคยเขียนไว้ว่า พระสงฆ์ไม่ควรตามแฟชั่น ตามกระแส เพราะจะทำให้ไม่สำรวมและหลงอยู่ในกิเลสของวัตถุนิยมได้ ซึ่งหากพระสงฆ์รู้เท่าทันสื่อก็จะใช้สื่อให้เป็นประโยชน์ได้ เช่น ใช้เฟซบุ๊กเผยแผ่หลักธรรมทางพระพุทธศาสนา แต่มิได้นำไปเผยแพร่ภาพเล่นแพลงกิ้ง
|
Update : 23/6/2554
|
|