|
|
เคล็ดเคลียร์จิต-ลบกิเลส ปฏิบัติง่ายๆ ด้วยตัวเราเอง
เคล็ดเคลียร์จิต-ลบกิเลส ปฏิบัติง่ายๆ ด้วยตัวเราเอง
ทำไมเราต้อง Format จิต Delete กิเลส เป็นคำถามที่ใครหลายๆ คนคงเกิดความสงสัยก่อนที่จะได้ฟังการบรรยายจาก "พระราชญาณกวี" วัดพระรามเก้ากาญจนาภิเษก ในโครงการ "เรายกวัดมาไว้ที่เซเว่น" จัดโดย บมจ.ซีพี ออลล์ ผู้บริหารเซเว่น อีเลฟเว่น
การ Format จิต Delete กิเลส ถ้าในทางคอมพิวเตอร์ที่เราเข้าใจกันส่วนใหญ่ Format ก็คือการเคลียร์ข้อมูลให้เหลือพื้นที่ว่าง Delete ก็คือการลบสิ่งที่เราไม่ต้องการทิ้งไปแต่ทางด้านพระพุทธศาสนานั้น การ Format จิต Delete กิเลส ก็คงจะหมายถึงการที่เราจะต้องมี สติ สมาธิ และปัญญา
"กลุ่มวัยรุ่นในปัจจุบันไม่ค่อยที่จะคิดก่อนทำ ขาดสติ ขาดสมาธิ และขาดปัญญา ชอบกระทำอะไรไปตามความสนุก ความคึกคะนอง จนทำให้เกิดความผิดพลาดในชีวิต เช่น การตั้งครรภ์โดยที่ไม่ได้ตั้งใจ" พระราชญาณกวี กล่าวในขณะบรรยายธรรม
พระราชญาณกวี กล่าวอีกว่า อาตมาไปดูสถิติเด็กมัธยมทำแท้งปีหนึ่งๆ ประมาณ 600,000 คน ตอนนี้คนในประเทศไทยเป็นฆาตกรกันทั้งประเทศแล้ว บางคนทำแล้วก็ทำอีก หรือบางคนก็ปล่อยให้คลอดออกมา แต่ไม่มีพ่อ หรือแม่ ไม่มีคนเลี้ยง สังคมไทยของเราโอกาสที่จะเจริญก้าวหน้าคงยากแล้ว
เมื่อฟังเรื่องราวจากที่พระราชญาณกวี กล่าวมาแล้ว ให้รู้สึกสลดใจอยู่ไม่น้อยเลย การทำแท้งเท่ากับว่าเราฆ่าคน 1 คนตาย แต่ที่รู้สึกแย่ไปกว่านั้นก็คือ ฆ่าผู้ที่เป็นสายเลือดของตนเอง ดังนั้น ก่อนที่เราจะลงมือถือทำอะไร พูดอะไร ก็ควรที่จะต้องมีสติ ศีล สมาธิ ปัญญา เพราะถ้าเมื่อไหร่ที่ขาดสิ่งใดสิ่งหนึ่งไปก็อาจจะทำในสิ่งที่ไม่ควรทำลงไปก็ได้
จากนั้น "พระราชญาณกวี" ยังบรรยายอีกว่า ตอนนี้ภาระของเราก็คือ ภาระที่จะต้องทำให้จิตใจของผู้คนมีความสุข มีความเย็น มีความสงบ การที่เราจะ Format จิต Delete กิเลส ควรเริ่มจากเยาวชนก่อน ใครว่ากันว่าเยาวชนไม่มีกิเลส เยาวชนมีกิเลสและอาจจะมีมากกว่าผู้ใหญ่ด้วยซ้ำ
"ที่วัดพระรามเก้ากาญจนาภิเษกนี้ก็ได้มีเยาวชนมาบวชเป็นเณรอยู่จำนวนไม่น้อย พระราชญาณกวีเล่าถึงเหตุการณ์ของน้องเณรรูปหนึ่งให้ฟังว่า ตอนแรกอาตมาก็แทบจะเอาตัวไม่รอด เพราะว่าอนุญาตให้เณรที่มาบวชเรียนสามารถมีมือถือได้ อันนี้ไม่รอดเลยเพราะมันเล่นกดดูทุกสิ่งทุกอย่าง ไม่รู้กดคุยกะใคร ไม่เรียนหนังสือกันเลย เรื่องไม่รอดที่ 2 ก็คือ อาตมาอยากที่จะทันสมัย เลยติดอินเตอร์เน็ตไม่รอดเลยที่นี้ เกมส์มา อะไรมาสารพัด" พระราชญาณกวีกล่าวทิ้งท้าย
|
Update : 22/6/2554
|
|