|
|
เททองสร้าง'เทพพระราหู' ประดิษฐาน-4พระอาราม
เมื่อเร็วๆ นี้ "สถาบันพยากรณ์ศาสตร์" นำโดย โหรฟันธง-อาจารย์ลักษณ์ เรขานิเทศ ได้จัดพิธีมหามงคลไหว้ครู บูรพาจารย์ พิธีเจริญมนต์นพเคราะห์ พระสงฆ์เจริญชัยมงคลคาถา เพื่อให้เกิดสิริมงคลแก่ประเทศไทย จัดอย่างยิ่งใหญ่ที่วัดพระศรีมหาธาตุฯ บางเขน กรุงเทพฯ โดยมีประชาชนร่วมพิธีอย่างล้นหลาม รถติดตั้งแต่วัดพระศรีมหาธาตุฯ บางเขน ถึงอนุสาวรีย์หลักสี่
ถือว่าเป็นมหามงคลพิธีที่ยิ่งใหญ่ ที่ทำบุญให้แก่ประเทศชาติ และถวายเป็นพระราชกุศลแด่องค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในพิธีส่งและรับพฤหัสบดีเข้าสู่ชะตาเมือง โดยในวันพิธีดังกล่าว มีพิธีไหว้ครูบูรพาจารย์ ทำพิธีเททองหล่อ พระพุทธพฤหัสบดีศรีรัตนโกสินทร์ เททองหล่อพระกริ่งบรมครู เพื่อเป็นกำลังแผ่นดิน ถวายเป็นพุทธบูชา ธรรมบูชา สังฆบูชา บิดามารดา คุรุปัชฌายาจริยะและกษัตริยบูชา เป็นมหามงคล
อาจารย์ลักษณ์ กล่าวว่า วันที่ 24 พฤษภาคม 2554 ถือเป็นวันสำคัญอีกวันหนึ่งตามหลักการโคจรดวงดาวในทางโหราศาสตร์ กล่าวคือ ดาวราหูย้ายราศี จากราศีธนูไปสู่ราศีพิจิก ได้ตำแหน่งเป็น "มหาอุจ" ส่งผลต่อชะตาเมืองและชะตาบุคคลใน 12 ราศี ตำแหน่งของราหู "มหาอุจ" คือตำแหน่งที่โดดเด่นหรือตำแหน่งที่ยิ่งใหญ่
|
ในทางโหราศาสตร์ ดาวใดที่ได้ตำแหน่งมหาอุจนั้น ถือว่าเป็นตำแหน่งที่โดดเด่นที่สุด แล้วจะให้คุณให้โทษได้มากที่สุด ราหูจะมีวิถีแห่งการโคจรผ่านรอบจักรราศีหนึ่ง ใช้เวลา 18 ปี กล่าวคือ ใน 1 ราศี จะใช้เวลาโคจรประมาณ 1 ปีครึ่ง 12 ราศีก็เท่ากับ 18 ปี ในห้วงเวลาของวันที่ 24 พฤษภาคม 2554 เป็นต้น ใครที่เคยเกิดเมื่อ 18 ปีที่แล้ว เมื่อ 36 ปีที่แล้ว จะมีราหูได้ตำแหน่งนี้แหละ และราหูที่ได้ตำแหน่งตรงนี้ ก็จะเป็นตำแหน่งที่สำคัญ กล่าวคือ จะบันดาลให้เกิดโชคลาภ บันดาลให้เกิดความเป็นสิริมงคลตามอิทธิฤทธิ์ของเทพพระราหู และที่สำคัญ เป็นตำแหน่งที่ส่งผลดีต่อดวงเมืองประเทศไทย และส่งผลดีต่อประชาชนผู้ประกอบกุศลวัตร ทำคุณงามความดี และมีวิริยะ อุตสาหะ
สำหรับ "เทพพระราหู" นั้นมีอยู่ในทุกประเทศที่นับถือพระพุทธศาสนา โดยเฉพาะจะเห็นว่าเทพพระราหูจะอยู่สถิตหน้าบันพระอุโบสถ ประตูเทวสถาน หรือพุทธสถาน ที่มหาเจดีย์ชเวดากอง ทางทิศเหนือ ก็จะมีเทพพระราหูอยู่ด้านบนเจดีย์, นครวัด นครธม ก็มีภาพเทพพระราหูอยู่แทบทุกหนแห่ง, ยิ่งมหาเจดีย์บุโรพุทโธ จะมีเทพพระราหูอยู่ตามซุ้มประตูอันศักดิ์สิทธิ์ ถือว่าเทพองค์นี้มีฤทธิ์ที่อยู่คู่กับโลกใบนี้มาช้านาน และมีประวัติมานับพันปีแล้ว จึงเป็นเหตุผลที่พระราหูจึงควรสถิตอยู่คู่กับพระพุทธศาสนา เพราะมีความเชื่อของเทพพระราหูในการคุ้มครองป้องกันมิให้เกิดเหตุเภทภัยกับพระพุทธศาสนาและสาธุชนทั้งหลาย และเป็นคติความเชื่อในเรื่องของการคุ้มครองผู้นับถือพระพุทธศาสนาและพระพุทธศาสนาให้ดำรงคงอยู่ด้วยบารมีของพระราหู ด้วยความเชื่อในทางโหราศาสตร์ ตามปรัชญาทางโหราศาสตร์ก็มีการกล่าวถึงพระราหูในตำนานของนพเคราะห์ และประวัติในทางพระพุทธศาสนา
ด้วยเหตุนี้จึงเป็นที่มาของโครงการการสร้างเทพพระราหู 4 องค์ เพื่อประดิษฐานใน 4 พระอารามที่สำคัญ โดยสถาบันพยากรณ์ศาสตร์ เริ่มโครงการนี้ โดยองค์ที่ 1 จะนำไปประดิษฐานภาคกลาง ณ วัดป่าธรรมโสภณ จ.ลพบุรี ทำพิธีเททอง ณ วัดพระศรีมหาธาตุฯ บางเขน เมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม, องค์ที่ 2 ภาคเหนือ ประดิษฐาน และเททอง ณ วัดพระธาตุหริภุญชัย จ.ลำพูน จะมีเททองในวันที่ 23-24 กรกฎาคม 2554, องค์ที่ 3 ภาคใต้ จะนำไปประดิษฐานและประกอบพิธีเททอง ณ วัดนางพระยา จ.นครศรีธรรมราช ประมาณเดือนตุลาคม องค์ที่ 3 ภาคอีสาน จะนำไปประดิษฐานและประกอบพิธีเททอง ณ วัดศาลาลอย จ.นครราชสีมา ประมาณเดือนพฤศจิกายน สร้างให้ครบ 4 ภาค เพื่อเป็นกำลังแผ่นดิน และถวายเป็นพระราชกุศลแด่องค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสปีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษาครบ 84 พรรษา
เมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม ได้มีพิธีเททองหล่อเทพพระราหู เพื่อประดิษฐาน 4 ภาค, พิธีเจริญพุทธมนต์มหาสมัยสูตร และมหาพุทธมนต์มหาราช (ภาณยักษ์) และพิธีนพเคราะห์มังคลาภิเษก มีการแสดงโขนสดตอนกำเนิดเทพพระราหู สมโภชอย่างยิ่งใหญ่ เพื่อให้ผู้ที่ร่วมพิธีได้เกิดสิริมงคล ผู้ที่ได้เข้าร่วมในพิธีสวดบูชาเทวดานพเคราะห์คือเทวดาทั้ง 9 องค์
โดยเฉพาะการส่งและการรับเทพพระราหูจากราศีธนูสู่ราศีพิจิก ชาวราศีธนูกับราศีมิถุนก็จะพ้นเคราะห์โพยภัย ชาวราศีพิจิกกับพฤษภก็จะมีเหตุเภทภัยบางประการ แต่ได้ร่วมพิธีอันเป็นมหามงคล เรียกว่า "สวดมหาพุทธมนต์นพเคราะห์" ก็จะเกิดความเป็นสิริมงคล
ติดตามรายละเอียดได้ที่ www.thefuntong.com
|
|
|
Update : 7/6/2554
|
|