คณะสงฆ์จังหวัดพิจิตร ได้สูญเสียพระเถระชั้นผู้ใหญ่ ผู้เป็นปูชนียบุคคลที่สำคัญอีกรูปหนึ่งของชาวจังหวัดพิจิตร อันเป็นที่เคารพนับถือของชาวจังหวัดพิจิตร และคณะศิษยานุศิษย์

"พระสุทัสสีมุนีวงศ์" (ประสิทธิ์ สุชีโว) อดีตรองเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร และอดีตเจ้า อาวาสวัดหัวดง ต.หัวดง อ.เมือง จ.พิจิตร เป็นพระเถระที่เปี่ยมล้นด้วยเมตตา และส่งเสริมกีฬาประจำท้องถิ่น คือ การแข่งเรือยาว

อัตโนประวัติ มีนามเดิมว่า ประสิทธิ์ หมื่นสุวรรณ์ เกิดเมื่อวันศุกร์ที่ 24 สิงหาคม 2486 ที่บ้านเลขที่ 26 หมู่ 6 ต.วังจิก อ.โพธิ์ ประทับช้าง จ.พิจิตร

ในช่วงวัยเยาว์ สำเร็จชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนวัดดานน้อย ต.วังจิก อ.โพธิ์ ประทับช้าง จ.พิจิตร

เมื่ออายุครบ 23 ปีบริบูรณ์ ได้เข้าพิธีอุปสมบท เมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม 2509 ณ อุโบสถวัดดอกไม้ ต.ประศุก อ.อินทร์บุรี จ.สิงห์บุรี มีพระครูเมธีวรศาสน์ วัดดอกไม้ เป็นพระอุปัชฌาย์ ได้รับนามฉายาว่า สุชีโว

ภายหลังอุปสมบท ท่านได้มุ่งมั่นศึกษาพระปริยัติธรรม สามารถสอบได้นักธรรมชั้นตรี-โท-เอก จากสำนักศาสนศึกษาวัดรายชะโด ต.สามง่าม อ.สามง่าม จ.พิจิตร

นอกจากนี้ ท่านยังศึกษาค้นคว้าในพระไตรปิฎกและหนังสือธรรมะ มีความรู้แตกฉาน สามารถนำความรู้ไปอบรมสั่งสอนคณะศิษยานุศิษย์ และพัฒนาการศึกษา ท่านได้ผ่านการอบรมวิชาการเผยแพร่พระพุทธศาสนา จากหน่วยพัฒนาการทางจิต อภิธรรมมหาธาตุวิทยาลัย วัดมหาธาตุ กรุงเทพมหานคร อีกทั้งเข้ารับการถวายความรู้โครงการประชุมพระสังฆาธิการ เพื่อพัฒนาชุมชน ประจำปี 2526 ของกรมการศาสนา

ท่านมีความชำนาญการในหลากหลายด้าน อาทิ การทำบัญชี คอมพิว เตอร์ งานเลขานุการ การแสดงพระธรรมเทศนาการบรรยายธรรม การบริหารกิจการคณะสงฆ์

งานด้านการศึกษา ท่านยังได้เป็นครูสอนนักธรรม พ.ศ.2545 เป็นกรรม การฝ่ายอำนวยการอบรมบาลี ก่อนสอบของคณะสงฆ์ภาค 4 ณ วัด วรนาถบรรพต จ.นครสวรรค์

พ.ศ.2546 เป็นกรรมการสถานศึกษาโรงเรียนหัวดงรัฐชนูปถัมภ์ ต.ฆะมัง อ.เมือง จ.พิจิตร

พ.ศ.2549-2551 เป็นผู้อำนวยการสอบธรรมสนามหลวงชั้นโทและชั้นเอก ธรรมศึกษาชั้นตรี ชั้นโท และชั้นเอก สนามสอบวัดหัวดง อ.เมือง จ.พิจิตร

งานด้านการปกครองคณะสงฆ์ ท่านได้รับแต่งตั้งเป็นพระสังฆาธิการผู้ปกครอง พ.ศ.2524 ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นเจ้าอาวาสวัดหัวดง พ.ศ.2523 ได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าคณะตำบลหัวดง-ฆะมัง เขต 1 พ.ศ.2525 ได้รับแต่งตั้งให้เป็นรองเจ้าคณะอำเภอเมืองพิจิตรและพระอุปัชฌาย์

พ.ศ.2539 ได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งเจ้าคณะอำเภอเมืองพิจิตร พ.ศ.2541 เป็นพระวินยาธิการประจำจังหวัดพิจิตร

พ.ศ.2546 เป็นรองเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร

ลำดับสมณศักดิ์ พ.ศ.2520 ได้รับแต่งตั้งเป็นพระครูสมุห์ ฐานานุกรมของพระราชวิมลเมธี วัดมงคลทับคล้อ ต.ทับคล้อ อ.ทับคล้อ จ.พิจิตร

พ.ศ.2528 ได้รับพระราชทานแต่งตั้งเป็นพระครูสัญญาบัตรชั้นโท ราชทินนามพระครูพิศิษฎ์ธรรมโกศล พ.ศ.2542 ได้รับพระราชทานเป็นพระครูสัญญาบัตร เจ้าคณะอำเภอชั้นเอกในราชทินนามเดิม

พ.ศ.2546 ได้รับพระราชทานแต่งตั้งเป็นพระครูสัญญาบัตรชั้นพิเศษ ในราชทินนามเดิม

พ.ศ.2550 ได้รับพระราชทานแต่งตั้งเป็นพระราชาคณะชั้นสามัญที่ พระสุทัสสีมุนีวงศ์

พระสุทัสสีมุนีวงศ์ ถือเป็นพระเกจิชื่อดังของเมืองพิจิตร เป็นที่เคารพของลูกศิษย์มากมาย เป็นพระที่ปฏิบัติตนอยู่ในพุทธศาสนาอย่างเคร่งครัดและเป็นที่รู้จักกันในนามของพระนักเทศน์ชื่อดัง มักจะได้รับนิมนต์ไปเทศนาสอนญาติโยมในงานบุญต่างๆ

ซึ่งท่านได้สอดแทรกธรรมะและตลกขบขัน ให้พุทธศาสนิกชน ได้รับฟังธรรมแบบไม่เบื่อหน่ายและมีแง่คิด กลับไปพัฒนาชีวิตตนเอง

อีกทั้งยังชื่นชอบในกีฬาเรือยาว และสร้างเรือยาวให้เป็นจุดรวมใจของชาวบ้าน จนได้แชมป์ถ้วยพระราชทานจำนวนหลายสนาม

เรือที่มีชื่อในตำนานและยังเป็นเรือที่ได้รับความนิยมคือเรือไกรทอง ที่มีสัญลักษณ์รูปปั้นไกรทองอยู่ที่โขนเรือ เป็นสัญลักษณ์ที่ติดตราตรึงใจของแฟนเรือยาวทั่วประเทศ

พระสุทัสสีมุนีวงศ์ เริ่มอาพาธตั้งแต่ปี 2553 เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลวิชัยยุทธเป็นระยะ ครั้งสุดท้ายคณะศิษย์ได้พาเข้าโรงพยาบาลปิยะเวทอีก

จนกระทั่งเมื่อช่วงเช้าวันที่ 21 เมษายน 2554 ท่านได้มรณภาพอย่างสงบ ในวัย 67 พรรษา 44