หน้าแรก สมาชิก รายการวัตถุมงคล ตะกร้าวัตถุมงคล วิธีชำระวัตถุมงคล วิธีบูชาวัตถุมงคล ประวัติวัด ติดต่อวัด เว็บบอร์ด
สมาชิก Log in
อีเมล์
รหัสผ่าน
สมัครสมาชิกใหม่
ลืมรหัสผ่าน
















ค้นหาวัตถุมงคล
 
 
 
หมวดวัตถุมงคล
  เครื่องราง พระอาจารย์ป้อม
  พระเครื่อง พระอาจารย์ป้อม
  พระเครื่อง หลวงพ่อสวัสดิ์
  พระเครื่อง หลวงปู่พิมพ์มาลัย
  พระเครื่อง หลวงพ่อสง่า
วัตถุมงคลของคุณ
รหัสวัตถุมงคล ราคา จำนวน
ยังไม่มีวัตถุมงคลอยู่ในตะกร้า
  • ชำระค่าวัตถุมงคล
  • แก้ไขรายการวัตถุมงคล
  • วิธีสั่งบูชาวัตถุมงคล
  •  

    หลวงพ่อคูณมีน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นเป็น 40 กก.

    คณะแพทย์ เฝ้าติดตามอาการหลวงพ่อคูณอย่างใกล้ชิด หวั่นระดับน้ำตาลในเลือดลดลงหรือสูงขึ้นอย่างเฉียบพลัน ขณะที่น้ำหนักตัวหลวงพ่อคูณ เพิ่มขึ้นเป็น 40 กิโลกรัม

    นครราชสีมา-ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดนครราชสีมา รายงานความคืบหน้าอาการอาพาธของพระเทพวิทยาคม หรือหลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ เจ้าอาวาสวัดบ้านไร่ อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา ซึ่งพักรักษาอาการอาพาธวัณโรคปอด อยู่ที่ห้องผู้ป่วยพิเศษ วีไอพี 9821 อาคารเฉลิมพระเกียรติ ชั้น 8 โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา ตั้งแต่เมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม 2554

    โดยคณะแพทย์ได้ให้ยาวัณโรคกว่า 3 สัปดาห์ที่ผ่านมา โดยคณะแพทย์ต้องให้อาหารโดยการใส่สายยางผ่านช่องโพรงจมูกด้านขวาลงไปอยู่ในกระเพาะอาหารโดยตรง ซึ่งล่าสุดหลวงพ่อคูณมีน้ำหนักตัวอยู่ที่ 37 กิโลกรัม ซึ่งเพิ่มขึ้นจากตอนที่หลวงพ่อคูณเข้ามารักษาตัวที่โรงพยาบาลมหาราชในวันแรกเพียง 35 กิโลกรัม


    ล่าสุดวันนี้(1 มิ.ย.54) เจ้าหน้าที่พยาบาลโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมาได้ถอดถุงอาหารเหลวที่ทางคณะแพทย์จัดให้ออกจากหลวงพ่อคูณ หลังที่หลวงพ่อคูณรับอาหารจากทางสายยางจนหมดถุงในช่วงเช้า ซึ่งในสภาพรวมการรับอาหารเหลวผ่านทางสายยางของหลวงพ่อคูณ สามารถรับอาหารเหลวได้ดี ส่งผลให้น้ำหนักตัวหลวงพ่อคูณเพิ่มขึ้นจากเดิมที่เข้ามารักษาตัวที่โรงพยาบาล อยู่ที่ 35 กิโลกรัม เป็น 40 กิโลกรัม

    สำหรับอาการอาพาธของหลวงพ่อคูณดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจากการตรวจร่างกายของหลวงพ่อคูณ พบว่าหลวงพ่อคูณไม่มีไข้ , ความดันวัดได้ 122/53 การเต้นของหัวใจตอยู่ที่ 82 ครั้งต่อนาที และจากการเจาะเลือดหลวงพ่อคูณเพื่อวัดหาระดับน้ำตาลในเลือดพบว่าระดับน้ำตาลในเลือดของหลวงพ่อคูณมีปริมาณอยู่ที่ 260 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ ซึ่งเป็นปริมาณระดับน้ำตาลที่ยังถือว่าเกินมาตรฐานกว่าคนปกติที่ 90 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์


    ด้านนายแพทย์พินิศจัย นาคพันธุ์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านหลอดเลือดและหัวใจ โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา แพทย์ประจำตัวหลวงพ่อคูณ เปิดเผยว่า อาการโดยร่วมของหลวงพ่อคูณ ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่คณะแพทย์พึงพอใจ ที่หลวงพ่อคูณไม่ทรุดหรือแย่ลงกว่านี้ สามารถรับอาหารผ่านทางสายยางที่คณะแพทย์จัดให้ได้อย่างดี ส่งผลให้น้ำหนักตัวของหลวงพ่อคูณ เพิ่มขึ้นจากเดิม 37.5 กิโลกรัม จากเมื่อ 2-3 วันที่ผ่านมา เป็น 40 กิโลกรัม ซึ่งการเพิ่มน้ำหนักตัวของหลวงพ่อคูณที่สามารถเพิ่มขึ้นถึง 40 กิโลกรัม เป็นการปรับตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว นั้น ซึ่งอาจเป็นผลมาจากการที่หลวงพ่อคูณได้รับน้ำเกลือเข้าสู่ร่างกายจนทำให้น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้น อีกทั้งการที่หลวงพ่อคูณสามารถรับอาหารเหลวที่ทางผ่านทางสายยางได้ดีเช่นกัน

    ส่วนเรื่องของระดับน้ำตาลในเลือดที่ตรวจวัดในช่วงเช้า อยู่ที่ 260 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ ยังมีปริมาณระดับน้ำตาลที่สูงอยู่เล็กน้อย ซึ่งตนต้องการให้หลวงพ่อคูณมีระดับน้ำตาลที่สูงเล็กน้อย ดีกว่าระดับน้ำตาลต่ำ เนื่องจากหากระดับน้ำตาลในกระแสเลือดของหลวงพ่อคูณต่ำ ก็อาจจะส่งผลให้หลวงพ่อคูณเกิดอาการช็อคและหมดสติก็เป็นไปได้ แต่หากระดับน้ำตาลในเลือดสูงคณะแพทย์ก็ยังสามารถที่จะความคุมโดยการให้ยารักษาโรคเบาหนาวแก่หลวงพ่อคูณ ได้

    แต่อย่างไรก็ตามคณะแพทย์จะต้องทำการเจาะเลือดหลวงพ่อคูณทุกเช้าเพื่อตรวจวัดระดับน้ำตาลในเลือดเพื่อป้องกันระดับน้ำตาลในกระแสเลือดลดลงอย่างเฉียบพลัน เนื่องจากในช่วงนี้ระดับน้ำตาลในกระแสเลือดก็อาจจะที่ลดหรือเพิ่มขึ้นได้อย่างเฉียบพลัน นั้นอาจจะเป็นผลมาจากอายุของหลวงพ่อคูณ หรือสภาวะต่างๆในร่างกายของหลวงพ่อคูณเอง แต่ในสภาพร่วมหลวงพ่อคูณมีอากรดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง สามารถพูดคุยกับคณะแพทย์ได้อย่างดี และสามารถจำลูกศิษย์ทุกคนที่เข้าดูแลหลวงพ่อคูณได้ดีเช่นกัน นายแพทย์พินิศจัยฯ กล่าว


    • Update : 1/6/2554
    © Copyright 2011 www.watnongmuang.com All rights reserved 999arch