|
|
อาลัย หลวงปู่ทองบัว
ข่าวเศร้าในวงการพระสงฆ์รับเทศกาลวันวิสาขบูชา เมื่อช่วงเช้าวันที่ 17 พฤษภาคม 2554 "หลวงปู่ทองบัว ตันติกโร" หรือ "พระราชพุทธิมงคล" ที่ปรึกษาเจ้าคณะจังหวัดเชียงใหม่-ลำพูน-แม่ฮ่องสอน (ธรรมยุต) ผู้ก่อตั้งวัดโรงธรรมสามัคคี อ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่ มรณภาพอย่างสงบ
ก่อนหน้านี้มีอาการอาพาธเจ็บป่วยตามวัย อาการทรงและทรุดมาตลอด จนถึงวาระสุดท้าย
สร้างความเศร้าสลดอาลัยเป็นอย่างยิ่ง
อัตโนประวัติ มีนามเดิมว่า ทองบัว พุทธศรี (บุตรศรี) เกิดเมื่อวันที่ 11 กุมพาพันธ์ 2464 เวลา 06.00 น. ตรงกับวันเสาร์ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 3 ปีระกา ที่บ้านหนองผักแว่น ต.ห้วยโป่ง อ.โคกสำโรง จ.ลพบุรี
โยมบิดา-มารดา ชื่อ นายปราโมทย์ และนางสีดา บุตรศรี
เมื่ออายุได้ 8 ขวบ มารดาได้เสียชีวิตลง บิดาของท่านจึงย้ายครอบครัวจากภูมิลำเนาเดิมไปอยู่ที่จังหวัดขอนแก่น
ย่างเข้าสู่วัยเรียนท่านได้ไปเรียนหนังสือที่วัดในหมู่บ้าน ท่านเป็นคนปัญญาดี มีความเฉลียวฉลาดมาตั้งแต่เด็ก จึงเรียนทั้งภาษาไทยและภาษาบาลีควบคู่กันไป จนจบชั้นประถมศึกษาปีที่ 4
อายุ 14 ปี ท่านได้นุ่งขาวห่มขาว รักษาศีล 8 ได้มีโอกาสรับใช้อุปัฏฐากและออกเดินธุดงค์ตามหลวงปู่จูม ปัญญาวโร ไปตามป่าเขาลำเนาไพร
หลวงปู่ทองบัวเคยเล่าให้ฟังว่า "ตอนนั้นลำบากมาก เพราะยังเป็นเด็ก แต่ก็ต้องอดทนเพื่อศึกษาข้อวัตรปฏิบัติของครูอาจารย์ ไม่เคยบ่น ไม่เคยท้อ ทำให้เต็มที่ตามสติปัญญาของตนเองที่มีอยู่"
พ.ศ.2482 หลวงปู่จูมได้พาธุดงค์มาถึง จ.อุดรธานี ขณะนั้นนายทองบัว อายุ 18 ปี หลวงปู่จูมได้ให้บรรพชา ณ วัดมหาชัย อ.หนองบัวลำภู จ.อุดรธานี เมื่อวันที่ 15 เมษายน 2482 มีพระพิศาลคณานุกิจ เป็นพระอุปัชฌาย์
เมื่อบรรพชาเแล้วท่านได้มุ่งมั่นศึกษาพระปริยัติธรรม พ.ศ.2485 สามารถสอบได้นักธรรมชั้นตรี จากนั้นได้ออกท่องธุดงควัตรไปหลายจังหวัดในภาคอีสาน
กระทั่งอายุครบ 21 ปีบริบูรณ์ ท่านได้อุปสมบทในฝ่ายธรรมยุต ณ พัทธสีมาวัดมหาชัย ต.หนองบัวลำภู อ.หนองบัวลำภู จ.อุดรธานี เมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2485 เวลา 14.55 น. มีพระพิศาลคณานุกิจ เป็นพระอุปัชฌาย์
ได้รับฉายาว่า ตันติกโร แปลว่า ผู้ประพฤติตามครรลอง
เมื่ออุปสมบทแล้วประพฤติปฏิบัติตนตามแบบที่ครูอาจารย์สั่งสอนอย่างเคร่งครัด ครั้นออกพรรษาท่านได้ขอเดินทางกลับไปเยี่ยมโยมบิดาที่ จ.ขอนแก่น
ก่อนเดินทางกลับท่านได้บอกกับโยมบิดาว่า การออกเดินธุดงค์ในครั้งนี้จะเดินไปข้างหน้าอย่างเดียว ไม่หันกลับมาอีกแล้ว เพื่อแสวงหาสัจธรรม อันเป็นหนทางสู่ วิมุตติ โยมบิดาได้อนุโมทนาในสัจวาจาของท่าน โยมบิดาได้เดินไปส่งท่านจนถึงท้ายหมู่บ้าน
พ.ศ.2491 ท่านได้เดินธุดงค์มาถึงจังหวัดสกลนคร ได้มาจำพรรษาที่วัดป่าห้วยหีบ อ.เมือง จ.สกลนคร 1 พรรษา ได้เดินทางไปกราบหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ที่วัดหนองผือ ต.ในนา อ.พรรณานิคม จ.สกลนคร ก่อนเดินทางไปจังหวัดหนองคาย เข้าไปพักอยู่จำพรรษาที่วัดอรุณรังสี อ.เมือง จ.หนองคาย ท่านได้กราบพระอาจารย์จันทร์ เขมปัตโต ซึ่งเป็นหนึ่งในกองทัพธรรมลูกศิษย์ของหลวงปู่มั่น
หลวงปู่ทองบัวเล่าให้ฟังว่า ท่านมีความเคารพในพระอาจารย์จันทร์ เขมปัตโต เป็นพิเศษ เนื่องจากได้รับฟังธรรมที่ถูกอัธยาศัย นำมาปฏิบัติได้ผลรวดเร็วเป็นที่ประทับใจอย่างยิ่ง ท่านจึงนับถือและยกย่องพระอาจารย์จันทร์เป็นพระอาจารย์อีกรูปหนึ่ง
พ.ศ.2492 ท่านได้เดินทางมาจังหวัดเชียงใหม่ พักที่วัดป่าสันติธรรม ต่อมาได้เดินทางมาพักที่สำนักสงฆ์ป่าโรงธรรม อ.สันกำแพง (ภายหลังได้เปลี่ยนชื่อใหม่เป็นวัดโรงธรรมสามัคคี)
หลวงปู่ทองบัวเล่าให้ฟังว่า ตอนที่มาใหม่ๆ ที่นี่ยังเป็นสำนักสงฆ์อยู่ มีกุฏิไม้สี่หลัง มีบริเวณกว้าง 4ไร่เศษ ต้นไม้ใหญ่ที่จะอาศัยร่มเงาพอมีอยู่บ้าง ส่วนบริเวณรอบวัดจะเป็นป่าไม้แพร่ง มีบ่อน้ำกินน้ำใช้ 4 บ่อ
หลวงปู่ทองบัวมาอยู่ที่สำนักสงฆ์ป่าโรงธรรมได้ไม่นานได้ทราบข่าวว่าหลวงปู่มั่น มรณภาพ เมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน 2492 ที่วัดป่าสุทธาวาส จ.สกลนคร
ใกล้ถึงวันประชุมเพลิงหลวงปู่มั่นหลวงปู่ทองบัวและคณะศรัทธาญาติโยมชาวอำเภอสันกำแพง ได้พร้อมใจกันเดินทางไปจังหวัดสกลนคร เพื่อร่วมงานประชุมเพลิง
ร่วมคณะศรัทธาพัฒนาสำนักสงฆ์ ได้ซื้อที่ขยายอาณาเขตของสำนักสงฆ์ กระทั่งยกฐานะเป็นวัดโรงธรรมสามัคคี ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา พ.ศ.2506
หลวงปู่ทองบัวเป็นเจ้าอาวาสวัดโรงธรรมสามัคคี สร้างพระเจดีย์โพธิปักขิยธรรม เป็นเจดีย์ที่มีรูปร่างแปลก มีความหมายถึงการนำไปสู่การตรัสรู้ 37 ประการ ฐานเจดีย์เป็นทรงกลม ภายในประกอบด้วยห้องสมุด ห้องแสดงศิลปวัตถุ ประดิษฐานพระพุทธรูปประจำวันเกิดและพระพุทธรูปต่างๆ ชั้นสูงสุดของเจดีย์ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ
ลำดับสมณศักดิ์ พ.ศ.2501 ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตร ในราชทินนามพระครูวิมลคณาภรณ์ พ.ศ.2535 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นสามัญ ที่พระวิมลธรรมญาณเถร
พ.ศ.2547 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นราช ที่พระราชพุทธิมงคล
ด้านการปกครองคณะสงฆ์ หลวงปู่ทองบัวเคยดำรงตำแหน่งเจ้าคณะจังหวัดเชียงใหม่-ลำพูน-แม่ฮ่องสอน (ธรรมยุต) ก่อนได้รับแต่งตั้งเป็นที่ปรึกษาเจ้าคณะจังหวัดเชียงใหม่-ลำพูน-แม่ฮ่องสอน (ธรรมยุต)
กล่าวได้ว่าพระราชพุทธิมงคล หรือหลวงปู่ทองบัว เป็นพระสังฆาธิการอีกรูปหนึ่งที่ชาวจังหวัดเชียงใหม่และจังหวัดใกล้เคียงให้ความเคารพนับถือมาช้านานแล้ว
โดยเฉพาะตระกูลชินวัตร และท่านยังเป็นพระอาจารย์ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งให้ความเคารพนับถือมาตั้งแต่รุ่นคุณพ่อเลิศ-แม่ยินดี ชินวัตร
ตลอดชีวิตของหลวงปู่ทองบัวท่านได้ทุ่มเททั้งแรงกายแรงใจให้แก่การเผยแผ่พระพุทธศาสนาและปฏิบัติวิปัสสนากัมมัฏฐาน แต่ด้วยอายุขัยที่ล่วงเลยเข้าสู่วัยชราภาพ บ่อยครั้งทำให้ท่านอ่อนแรง สุขภาพไม่แข็งแรงดังเดิม กระทั่งเกิดล้มป่วยอาพาธเป็นประจำ
หลวงปู่ทองบัวเคยกล่าวบอกกับลูกศิษย์ว่า "ตอนนี้อายุมากแล้ว คงอยู่ได้อีกไม่นาน ตอนนี้ได้ปลงทุกอย่างแล้ว ได้วางทุกอย่างแล้ว เหลือแต่เลือกวันละสังขารเท่านั้น จะทำอะไรขอให้ลูกศิษย์รีบๆ ทำเดี๋ยวจะไม่ทัน"
ช่วงเช้าวันที่ 17 พฤษภาคม 2554 หลวงปู่ทองบัวมรณภาพอย่างสงบ สิริอายุ 89 ปี พรรษา 69
พระครูจิตตภัทราภรณ์ เจ้าอาวาสวัดโรงธรรมสามัคคี และคณะศิษย์ ได้นำศพตั้งบำเพ็ญกุศล ณ ศาลา 80 ปี เข็มทอง หรือศาลาใหญ่ วัดโรงธรรมสามัคคี อ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่ เพื่อรอขอพระราชทานเพลิงศพต่อไป
|
Update : 29/5/2554
|
|