หน้าแรก สมาชิก รายการวัตถุมงคล ตะกร้าวัตถุมงคล วิธีชำระวัตถุมงคล วิธีบูชาวัตถุมงคล ประวัติวัด ติดต่อวัด เว็บบอร์ด
สมาชิก Log in
อีเมล์
รหัสผ่าน
สมัครสมาชิกใหม่
ลืมรหัสผ่าน
















ค้นหาวัตถุมงคล
 
 
 
หมวดวัตถุมงคล
  เครื่องราง พระอาจารย์ป้อม
  พระเครื่อง พระอาจารย์ป้อม
  พระเครื่อง หลวงพ่อสวัสดิ์
  พระเครื่อง หลวงปู่พิมพ์มาลัย
  พระเครื่อง หลวงพ่อสง่า
วัตถุมงคลของคุณ
รหัสวัตถุมงคล ราคา จำนวน
ยังไม่มีวัตถุมงคลอยู่ในตะกร้า
  • ชำระค่าวัตถุมงคล
  • แก้ไขรายการวัตถุมงคล
  • วิธีสั่งบูชาวัตถุมงคล
  •  

    สารานุกรมไทยฉบับย่อ/154

    ๕๐๒๘. สหกรณ์  หมายถึง การทำงานร่วมกัน หรือการร่วมมือกัน มีผู้ให้คำนิยามว่า " เป็นวิธีการประกอบการเศรษฐกิจ แบบหนึ่ง ซึ่งบุคคลผู้อ่อนแอทางเศรษฐกิจ รวมแรง รวมปัญญา และรวมทุนกันจัดตั้งขึ้น โดยความสมัครใจ ตามหลักการช่วยตนเอง และช่วยเหลือซึ่งกันและกัน และประหยัด เพื่อให้เกิดควมจำเริญ ในเศรษฐกิจและสังคม"
                        หลักการสหกรณ์ ที่ใช้เป็นแนวทางสำหรับสหกรณ์ต่าง ๆ ในการนำคุณค่าของสหกรณ์ไปสู่ การปฎิบัตินั้นได้กำหนดขึ้น โดยองค์การสัมพันธภาพ สหกรณ์ระหว่างประเทศ ซึ่งจัดตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ.๒๔๓๘
                        การสหกรณ์เกิดขึ้นในประเทศอังกฤษเป็นแห่งแรก เมื่อปี พ.ศ.๒๓๖๓ มีแนวคิดที่จะช่วยเหลือกรรมกรผู้เดือดร้อน จากการปฏิวัติอุตสาหกรรมในยุโรป ซึ่งนำเครื่องจักรแทนแรงงานคน ก่อให้เกิดภาวะว่างงาน และเศรษฐกิจตกต่ำ
                        สำหรับประเทศไทย แนวความคิดเรื่องสหกรณ์ ได้แพร่หลายเข้ามาในปี พ.ศ.๒๔๕๗ โดยได้เลือกสหกรณ์หาทุนแบบไรฟ์ไฟเซิน ของประเทศเยอรมนี เนื่องจากมีความเหมาะสมกับสภาวะเศรษฐกิจ ของเกษตรกรไทยขณะนั้น มากกว่ารูปอื่น ได้ทดลองจัดตั้งสหกรณ์แห่งแรกของประเทศไทย ขึ้นในท้องที่ อ.เมือง ฯ จ.พิษณุโลก มีวัตถุประสงค์เพื่อให้บริการเงินกู้แก่สมาชิก
                        ในปี พ.ศ.๒๔๗๑ ได้มีการตรา พ.ร.บ. พ.ศ.๒๔๗๑ ทำให้สหกรณ์ขยายตัวกว้างขวางขึ้น โดยมีการจัดตั้งสหกรณ์อีกหลายประเภท แต่สหกรณ์เหล่านี้เป็นสหกรณ์ขนาดเล็ก ที่ดำเนินธุรกิจแบบเอนกประสงค์ทั้งสิ้น จึงไม่สามารถตอบสนองความต้องการ หรือแก้ปัญหาของเกษตรกรได้เต็มที่ จึงได้ออก พ.ร.บ.สหกรณ์ พ.ศ.๒๕๑๑ เปิดโอกาสให้สหกรณ์หาทุนขนาดเล็ก  ที่ดำเนินธุรกิจเพียงอย่างเดียว ควบเข้าเป็นสหกรณ์ขนาดใหญ่ ทำให้สามารถขยายการดำเนินธุรกิจเป็นแบบเอนกประสงค์ ซึ่งจะเป็นประโยชน์แก่สมาชิกได้มากขึ้น ด้วยเหตุนี้ สหกรณ์หาทุนจึงแปรสภาพ เป็นสหกรณ์การเกษตรมาจนปัจจุบัน        ๒๗/๑๗๓๒๘
                ๕๐๒๙. สหประชาชาติ, องค์การ  องค์การระหว่างประเทศ ที่มีกำเนิดขึ้นหลังสงครามโลกครั้งที่สอง เพื่อแทนองค์การสันนิบาตชาติ และเพื่อทำหน้าที่หลักอันได้แก่ การธำรงไว้ซึ่งสันติภาพ และความมั่นคงปลอดภัยระหว่างประเทศ โดยอาศัยความยุติธรรม และกฎหมายระหว่างประเทศเป็นหลัก
                        องค์การสหประชาชาติ ก่อตั้งเป็นครั้งแรก เมื่อปี พ.ศ.๒๔๘๘ ประเทศสมาชิกผู้ริเริ่ม ๕๑ ประเทศ การประชุมเตรียมการก่อตั้งองค์การระหว่างประเทศ เริ่มขึ้นเมื่อปี พ.ศ.๒๔๘๔ เมื่อผู้แทนฝ่ายพันธมิตร ได้ประชุมในกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ มีการออกแถลงการณ์กฎบัตรแอตแลนติก ระหว่างสหรัฐอเมริกา กับอังกฤษ เพื่อเป็นแนวทางก่อตั้งองค์การระหว่างประเทศ หลังสงครามโลกครั้งที่สอง ต่อมาในปี พ.ศ.๒๔๘๕  ผู้แทนประเทศพันธมิตร ๒๖ ประเทศ ได้มาประชุมกันที่กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. และร่วมลงนามในคำประกาศ แห่งสหประชาชาติ ที่ประชุมให้คำมั่นว่า จะปฎิบัติตามจุดมุ่งหมาย และหลักการแห่งกฎบัตรแอตแลนติก
                        ในปี พ.ศ.๒๔๘๘  ที่ประชุมผู้แทน ๕๑ ประเทศ รับรองร่างกฎบัตรสหประชาชาติ ซึ่งมีทั้งหมด ๑๑๑ มาตรา แบ่งเป็น ๑๙ หมวด ระบุวัตถุประสงค์สำคัญ ๆ ขององค์การไว้หลายประการ
                        องค์การสหประชาชาติ มีหน่วยงานหกองค์กรคือ สมัชชา คณะมนตรีความมั่นคง คณะมนตรีเศรษฐกิจ และสังคม คณะมนตรีภาวะทรัสตี ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ และสำนักเลขาธิการ
                        ทั้งหกองค์กรของสหประชาชาติ ต่างมีองค์กรรองเพื่อช่วยปฎิบัติงาน เช่น กองทุนสงเคราะห์เด็กแห่งสหประชาชาติ (UNICEF) โครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ (UNDP) และสำนักงานข้าหลวงใหญ่ เพื่อผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ (UNHCR)
                        นอกเหนือจากองค์กรหลักและองค์กรรองแล้ว ยังมีทบวงการชำนาญพิเศษจำนวน ๑๗ ทบวง เป็นองค์กรอิสระมีคณะมนตรีเศรษฐกิจและสังคม ทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยประสานงาน
                        กฎบัตรสหประชาชาติเรื่องสมาชิกภาพ กำหนดให้รัฐที่ยอมรับข้อผูกพันของกฎบัตร สมัครเข้าเป็นสมาชิกได้ แต่ต้องได้รับคะแนนเสียงสนับสนุนอย่างน้อย ๙ ใน ๑๕ เสียง และคะแนนเสียงข้างมาก สองในสาม ของสมาชิกสมัชชาที่เข้าร่วมประชุม
                        ในปี พ.ศ.๒๕๔๘ องค์การสหประชาติมีสมาชิก ๑๙๑ ประเทศ การหมดสมาชิกภาพมีสองลักษณะคือ การระงับสมาชิกภาพชั่วคราว โดยคณะมนตรีความมั่นคง ใช้อำนาจบังคับให้ประเทศสมาชิก ให้ประเทศสมาชิกใดประเทศหนึ่ง งดใช้เสียงเป็นรายกรณี กับการให้ออกจากสมาชิกภาพโดยมติสมัชชา ตามคำแนะนำของคณะมนตรีความมั่นคง แต่ประเทศนั้นอาจกลับเข้าเป็นสมาชิก โดยวิธีการขอเข้าเป็นสมาชิกใหม่   ๒๗/๑๗๓๔๒
                ๕๐๓๐. สหรัฐอเมริกา  ประเทศในทวีปอเมริกาเหนือ ตั้งอยู่ทางใต้ของประเทศแคนาดา และทางเหนือของประเทศเมกซิโก ทิศตะวันออก จดชายฝั่งมหาสมุทรแอตแลนติก ทิศตะวันตก จดชายฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิก นอกจากนี้ ยังมีดินแดนที่เป็นรัฐของประเทศอีกสองแห่ง ซึ่งตั้งแยกออกไปจากพื้นที่ส่วนใหญ่ ของประเทศคือ รัฐอะแลสกา ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศแคนาดา และรัฐฮาวาย เป็นหมู่เกาะในมหาสมุทรแปซิฟิก
                        สหรัฐอเมริกา มีพื้นที่ ๙,๓๗๕,๗๒๐ ตร.กม.  มีขนาดใหญ่เป็นอันดับที่สี่ของโลก รองจากประเทศรัสเซีย แคนาดา และจีน มีเขตแดนติดต่อกับประเทศแคนาดา ยาว ๘,๘๙๑ กม. และกับประเทศเมกซิโก ยาว ๓,๒๓๙ กม.
                        ลักษณะภูมิประเทศ  ในส่วนที่เป็นที่ตั้งของ ๔๘ รัฐ ซึ่งเป็นดินแดนผืนใหญ่ของประเทศนั้น แบ่งออกได้เป็นสามส่วนใหญ่ ๆ คือ
                            ๑. เขตเทือกเขาภาคตะวันออก  ครอบคลุมพื้นที่มากกว่าหนึ่งในสามของประเทศ ประกอบด้วย เทือกเขาสูง สามแนว พาดผ่านทิศเหนือไปทิศใต้ เรียงตามลำดับ จากทิศตะวันออกไปทิศตะวันตก คือ แนวตะวันออกสุดเป็นเทือกเขารอกกี ซึ่งเป็นเทือกเขาสูงใหญ่มากที่สุด ของสหรัฐอเมริกาต่อเนื่องเข้าไปในแคนาดา แนวที่สองเป็นเทือกเขาแคสเคด และเทือกเขาเซียร์รา เนวาดา เป็นแอ่งยกตัวขนาดใหญ่ เรียกชื่อว่า ฮาร์นีย์เบซิน และเกรตเบซิน ตามลำดับ มีแม่น้ำโคลัมเบียไหลผ่านฮาร์นีย์เบซิน และแม่น้ำโคโลราโด ไหลผ่านเกรตเบซิน
                            ๒. เขตที่ราบภาคกลาง  ครอบคลุมพื้นที่ประมาณครึ่งหนึ่งของประเทศ ตั้งแต่ทะเลสาบเกรตเลกส์ ซึ่งเป็นทะเลสาบขนาดใหญ่รวมห้าแห่ง ที่กั้นเขตแดนระหว่างสหรัฐอเมริกา กับประเทศแคนาดา ทางด้านทิศเหนือจนถึงอ่าวเมกซิโก ทางด้านทิศใต้ภายในบริเวณที่ราบภาคกลาง มีแม่น้ำมิสซิสซิปปี ไหลลงอ่าวเมกซิโก ถือเป็นแม่น้ำสายใหญ่ที่สุดของประเทศ มีแควต่าง ๆ เป็นจำนวนมาก
                            ๓. เขตภูเขาและที่ราบชายฝั่งภาคตะวันออก  ครอบคลุมพื้นที่เกือบหนึ่งในสามของประเทศ ทางตะวันตกสุดเป็นเทือกเขาแอฟพาเลเชียน ซึ่งทอดยาวจากทิศตะวันออกเฉียงเหนือ ไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ กั้นแบ่งเขตกับเขตที่ราบภาคกลาง ถัดไปทางตะวันออกของเทือกเขานี้ เป็นที่ราบชายฝั่งมหาสมุทรแอตแลนติก ซึ่งเป็นบริเวณที่มีประชากรอยู่อาศัยกัน อย่างหนาแน่นมาก
                        ประชากร  มีความหลากหลายในด้านเชื้อชาติ และวัฒนธรรม เนื่องมาจากการอพยพเข้าไปตั้งถิ่นฐานของชนชาติต่าง ๆ ทั้งจากทวีปยุโรป แอฟริกา และเอเชีย ตั้งแต่ระยะแรกเริ่มของการก่อตั้งอาณานิคม จนถึงตอนต้นของพุทธศตวรรษที่ ๒๕
                        ในระยะแรกของการก่อตั้งอาณานิคม ชาวยุโรปที่มีบทบาทสำคัญในการบุกเบิก และการตั้งถิ่นฐานคือ อังกฤษ ฝรั่งเศส สเปน และฮอลันดา โดยเฉพาะอย่างยิ่งชาวอังกฤษ ได้เข้าไปสร้างอาณานิคมไว้อย่างกว้างขวาง บนที่ราบชายฝั่งมหาสมุทรแอตแลนติก ชาวยุโรปได้นำทาสชาวนิโกร จากทวีปแอฟริกา เข้ามาใช้เป็นแรงงาน ในอาณานิคมของตน ต่อมาภายหลังเมื่อตั้งขึ้นเป็นประเทศแล้ว ก็เปิดโอกาสให้ชนชาติต่าง ๆ เป็นจำนวนมาก เดินทางเข้าไปตั้งถิ่นฐาน
                        จากข้อมูลประชากรเมื่อปี พ.ศ.๒๕๔๓  ระบุว่า ในจำนวนประชากร ๒๘๑ ล้านคน แบ่งเป็นคนเชื้อชาติกลุ่มใหญ่ ๆ รวมสามกลุ่มคือ ชนผิวขาวร้อยละ ๗๕ ชนผิวดำ ร้อยละ ๑๒ ชนชาวเอเชีย ร้อยละ ๓.๖ และที่เหลืออีกประมาณร้อยละ ๑๐ เป็นชนเชื้อชาติกลุ่มอื่น ๆ
                        ประวัติศาสตร์ของสหรัฐอเมริกา เริ่มต้นด้วยการเป็นอาณานิคมของอังกฤษ ในตอนกลางพระพุทธศตวรรษที่ ๒๒ และได้ขยายอาณานิคมออกไปตามลำดับ จนมีจำนวนรวมทั้งหมด ๑๓ แห่ง ต่อมาในปี พ.ศ.๒๓๑๘  อาณานิคมทั้ง ๑๓ แห่ง ได้รวมตัวกันแข็งอำนาจ ทำการสู้รบกับอังกฤษและประกาศอิสรภาพในปีถัดมา และอังกฤษยอมรับรองเอกราชของสหรัฐอเมริกา ในปี พ.ศ.๒๓๒๖
                        ภายหลังการได้รับเอกราชแล้ว สหรัฐอเมริกาได้ขยายอาณาเขตออกไปอย่างต่อเนื่อง ทั้งโดยการบุกเบิกดินแดนใหม่ ทางตอนกลางและตะวันตกของทวีป  และโดยการขอซื้อ หรือผนวกดินแดนที่เป็นของประเทศอื่น
                        เหตุการณ์ที่ถือว่ามีความสำคัญมาก ในประวัติศาสตร์การเมืองของสหรัฐอเมริกาคือ การเกิดสงครามกลางเมือง ระหว่างกลุ่มรัฐฝ่ายเหนือ กับกลุ่มรัฐฝ่ายใต้ ระหว่างปี พ.ศ.๒๔๐๔ - ๒๔๐๘  กลุ่มรัฐฝ่ายใต้ ได้ประกาศจัดตั้งเป็นสมาพันธรัฐอเมริกา แยกตนเป็นอิสระจากการปกครองร่วมกันของสหภาพ และส่งกำลังเข้าโจมตีฝ่ายรัฐบาล ในที่สุดกองกำลังฝ่ายสมาพันธรัฐยอมจำนน ประธานาธิบดีลิงคอล์น ได้ประกาศให้อิสรภาพแก่ทาสทั้งหมด นับเป็นการเลิกทาสในทวีปอเมริกาเหนือ ที่มีมายาวนานกว่า ๒๐๐ ปี        ๒๗/๑๗๓๕๐
                ๕๐๓๑. สหราชอาณาจักร  ประเทศในทวีปยุโรป มีชื่อเรียกเป็นทางการว่า สหราชอาณาจักรบริเตนใหญ่ และไอร์แลนด์เหนือ เป็นประเทศหมู่เกาะ ตั้งอยู่นอกชายฝั่งตะวันตกของทวีปยุโรป โดยมีทะเลเหนือและช่องแคบอังกฤษ กั้นออกจากผืนแผ่นดินใหญ่ มีพื้นที่ ๒๔๔,๑๑๐ ตร.กม. เมืองหลวงชื่อ ลอนดอน
                        หมู่เกาะ ซึ่งเป็นที่ตั้งของสหราชอาณาจักรเรียกชื่อว่า หมู่เกาะบริติช ประกอบด้วยเกาะใหญ่ สองเกาะคือ เกาะบริเตนใหญ่ และเกาะไอร์แลนด์ รวมทั้งเกาะ และหมู่เกาะขนาดเล็ก ตามชายฝั่งอีกแปดแห่ง เกาะบริเตนใหญ่ถือเป็นเกาะใหญ่ที่สุดของทวีปยุโรป และใหญ่เป็นอันดับแปดของโลก มีพื้นที่ ๒๑๘,๐๐๐ ตร.กม.  ส่วนเกาะไอร์แลนด์ ตั้งอยู่ห่างไปทางทิศตะวันตกของเกาะบริเตนใหญ่ โดยมีทะเลไอริชกั้นระหว่างกลาง ในทางการปกครองสหราชอาณาจักร ประกอบด้วยดินแดนสี่ส่วนคือ อังกฤษ สกอตแลนด์ เวลส์ และไอร์แลนด์เหนือ ดินแดนสามส่วนแรก ตั้งอยู่ในเกาะบริเตนใหญ่ ส่วนไอร์แลนด์เหนืออยู่ทางตอนเหนือ ของเกาะไอร์แลนด์
                        ส่วนท้องถิ่นทั้งสี่ส่วน ต่างมีเมืองหลวงของตนเอง โดยกรุงลอนดอน เป็นทั้งเมืองหลวงของอังกฤษ และเมืองหลวงของประเทศ เมืองเอดินบะระ เป็นเมืองหลวงของสกอตแลนด์  เมืองคาร์ดิฟ เป็นเมืองหลวงของเวลส์ และเมืองเบลฟัสต์ เป็นเมืองหลวงของไอร์แลนด์เหนือ
                        ลักษณะภูมิประเทศ  แยกอธิบายได้เป็นสองส่วนใหญ่ ๆ คือ ส่วนที่อยู่ในเกาะบริเตนใหญ่ และส่วนที่อยู่ในตอนเหนือของเกาะไอร์แลนด์
                        ชนชาติแรก ๆ ที่อาศัยอยู่ในเกาะบริเตนใหญ่ และไอร์แลนด์เหนือ คือ ชนเผ่าเคลต์ ซึ่งได้อพยพจากผืนแผ่นดินใหญ่ เมื่อราว ๑,๐๐๐ ปี ก่อนพุทธศักราช ต่อมาในตอนกลางพระพุทธศตวรรษที่ห้า ชาวโรมันได้เข้ามาครอบครองเกาะบริเตนใหญ่ ซึ่งกลายเป็นแคว้นหนึ่งของจักรวรรดิ์โรมันเรียกชื่อว่า บริแทนเนีย เมื่อจักรวรรดิ์โรมันเสื่อมอำนาจลง และต้องถอนกำลังออกไปในพระพุทธศตวรรษที่สิบ ชนชาติเยอรมันเผ่าต่าง ๆ ได้แก่ แองเกิลแซกซัน และจูต ได้บุกรุกเข้ามาแทนที่ ตั้งเป็นอาณาจักรเล็ก ๆ ขึ้นหลายแห่ง ในเกาะบริเตนใหญ่ ในพระพุทธศตวรรษที่สิบสาม พวกไวกิงจากเดนมาร์ก ได้บุกรุกเข้ามาในเกาะบริเตนใหญ่ และเกาะไอร์แลนด์ ด้วย ประวัติศาสตร์ในระยะแรก ๆ ของเกาะทั้งสอง จึงเกี่ยวข้องกับชนหลายเชื้อชาติ ทำสงคามแย่งชิงความเป็นใหญ่ซึ่งกันและกัน
                        ในพระพุทธศตวรรษที่สิบห้า อาณาจักรที่รุ่งเรืองอำนาจมากที่สุดคือ เวสเซกซ์ ของชนเผ่าแองโกล - แซกซัน ตั้งอยู่ในภาคใต้ของอังกฤษ โดยมี วินเชสเตอร์ เป็นเมืองหลวง อาณาจักรนี้ได้แผ่ขยายอำนาจไปปกครองทั่วทั้งอังกฤษ ในปี พ.ศ.๑๔๓๑ นับเป็นการเริ่มต้นประวัติศาสตร์ของอังกฤษ และต่อมาได้รวมเวลส์ สกอตแลนด์ และไอร์แลนด์เหนือ เข้าเป็นประเทศเดียวกัน
                        ในพระพุทธศตวรรษที่ ๒๒ อังกฤษได้สร้ากำลังกองทัพเรือ ที่เข้มแข็งมาก สามารถเดินเรือไปตั้งอาณานิคมขึ้นในทวีปอเมริกาเหนือ อีกทั้งได้รบชนะสเปน ในยุทธนาวีครั้งใหญ่ เมื่อปี พ.ศ.๒๑๓๑ ส่งผลให้อังกฤษกลายเป็นมหาอำนาจทางทะเลแทนที่สเปน นอกจากนี้ ยังทำสงครามชนะฝรั่งเศสหลายครั้ง ที่สำคัญคือ ได้ดินแดนแคนาดา ของฝรั่งเศสมาเป็นของตนทั้งหมด ต่อมาในการรบที่เมืองวอเตอร์ลู ในประเทศเบลเยี่ยม เมื่อปี พ.ศ.๒๓๕๘ กองทัพอังกฤษมีชัยชนะต่อกองทัพฝรั่งเศส ทำให้ฝรั่งเศสต้องสูญเสียอำนาจในทวีปยุโรปไป
                        การสร้างแสนยานุภาพทางเรือให้เข้มแข็ง ทำให้อังกฤษสามารถแข่งขันกับประเทศโปร์ตุเกส ฝรั่งเศส และเนเธอร์แลนด์ ในด้านการค้า และการแสวงหาอาณานิคมในทวีปแอฟริกา เอเชียและออสเตรเลีย ระหว่างพระพุทธศตวรรษที่ ๒๓ - ๒๔
                        ในสงครามโลกครั้งที่สอง สหราชอาณาจักรได้เข้าร่วมทำสงคราม และเป็นฝ่ายมีชัยชนะภายหลังสงครามโลกครั้งที่สอง สหราชอาณาจักรต้องประสบกับปัญหาดินแดนต่าง ๆ ของแยกตนเป็นอิสระ จากการเป็นอาณานิคมจนเหลือดินแดนที่ยังเป็น อาณานิคมเพียงไม่กี่แห่ง ปัจจุบันบางประเทศที่เคยเป็นอาณานิคม ยังคงมีการผูกพันอย่างหลวม ๆ กับประเทศแม่ แต่เดิมในฐานะเป็นสมาชิกของเครือจักรภพ หรือเครือประชาชาติ ซึ่งตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ.๒๔๗๔        ๒๗/๑๗๓๕๙
                ๕๐๓๒. สหัมบดีพรหม  เป็นชื่อท้าวมหาพรหม องค์หนึ่ง ผู้กราบทูลอาราธนาพระพุทธเจ้า ให้ทรงแสดงธรรม พระพุทธเจ้าทรงรับคำอาราธนา ของท้าวสหัมบดีพรหม
                        เมื่อพระพุทธเจ้าทรงรำพึงว่า บุคคลไม่เคารพ ไม่ยำเกรง ย่อมอยู่เป็นทุกข์ เราพึงสักการะเคารพสมณะ หรือพราหมณ์ พวกไหนหนอ เพื่อความบริบูรณ์แห่งสีลขันธ์ สมาธิขันธ์ ปัญญาขันธ์ วิมุติขันธ์ วิมุตติญาณทัสสนขันธ์ ที่ยังไม่บริบูรณ์ "แต่พระองค์ไม่ทรงเห็นสมณะ หรือพราหมณ์อื่นในโลก พร้อมทั้งเทวโลก มารโลก และพรหมโลก ที่สมบูรณ์ด้วยคุณธรรมเหล่านั้น ยิ่งกว่าเรา จึงทรงเห็นว่า ควรสักการะเคารพธรรมที่ตรัสรู้แล้วนั่นเอง ท้าวสหัมบดีพรหมได้เข้าไปกราบทูลว่า พระสัมมาสัมพุทธเจ้าในอดีต ในอนาคต และในปัจจุบันทุกพระองค์ ล้วนเคารพพระสัทธรรม เป็นธรรมดาของพระพุทธเจ้าทั้งหลาย
                        เมื่อพระพุทธเจ้าทรงรำพึงว่า สติปัฎฐานสี่ประการ เป็นทางเดียวเพื่อความหมดจด แห่งสัตว์ทั้งหลาย เพื่อก้าวล่วงความเศร้าโศกและความคร่ำครวญรำพัน เพื่อดับทุกข์และโทมนัส เพื่อบรรลุญายธรรม (ธรรมที่ควรรู้)  เพื่อทำให้แจ้งนิพพาน ท้าวสหัมบดีพรหม มาเฝ้ากราบทูลสนับสนุนพระรำพึงนั้นว่า สติปัฎฐานสี่ประการนี้ เป็นทางเดียวที่บัณฑิตทั้งหลายในอดีต ใช้ข้ามโอฆสงสาร (สังสารวัฎ)  มาแล้ว แม้ในอนาคตก็จักใช้ทางนี้ข้ามโอฆะ
                        เมื่อพระพุทธเจ้าทรงรำพึงว่า อินทรีย์ห้าประการ ที่บุคคลเจริญทำให้มากแล้ว จะหยั่งลงสู่อมตะ มีอมตะเป็นเบื้องหน้า มีอมตะเป็นที่สุด สหัมบดีพรหมเข้าเฝ้ากราบทูลสนับสนุนว่า เป็นเช่นนั้นจริง และทูลเล่าชีวประวัติของตนให้ทรงทราบ ตั้งแต่เกิดเป็นมนุษย์ได้บวชในศาสนาของพระพุทธเจ้า พระนามว่า กัสสปะ ได้เจริญอินทรีย์ห้า จนสามารถคายกามฉันทะ แล้วไปเกิดในพรหมโลก ชฎิลผู้พี่ชื่อ อุรุเวลกัสสปะ ในคืนที่สี่ต่อจากท้าวจตุมหาราช และท้าวสักกะ เทพ และพรหม ดังกล่าว ได้เปล่งรัศมีทำให้บริเวณที่ประทับสว่างไสว อุรุเวลกัสสปะ สงสัยจึงทูลถาม เมื่อตรัสตอบว่า เทพและพรหม ดังกล่าวมาเฝ้าจึงเชื่อว่า พระมหาสมณะนี้ มีฤทธิ์มาก มีอานุภาพมากจริง แม้ท้าวจาตุมหาราช ท้าวสักกะ และท้าวสหัมบดีพรหม ก็ยังนับถือ อุรุเวลกัสสปะ จึงยอมตนเป็นศิษย์        ๒๗/๑๗๓๖๙
                ๕๐๓๓. สะแกนา  เป็นชื่อไม้พุ่ม หรือไม้ต้น เป็นไม้ขนาดเล็ก ถึงขนาดกลาง สูงได้ถึง ๑๕ เมตร มักแตกเป็นกอใหญ่ ลำต้นตั้งตรงในระยะแรก ๆ ตามเปลือกลำต้นจะมีปุ่มแหลม คล้ายกรวย ซึ่งเกิดจากกิ่งลดรูป เมื่อต้นมีอายุหลายปี ปุ่มดังกล่าวจะหายไป ใบออกตรงกันข้ามกันเป็นคู่  ๆ แผ่นใบรูปไข่กลับ แกนรูปขอบขนาน ช่อดอกเป็นแบบช่อเชิงลด หรือคล้ายแบบหางกระรอก ดอกสีขาว หรือขาวอมเหลือง ผลเป็นแบบผลแห้งไม่แตก
                        สะแกนา มีเนื้อไม้ค่อนข้างเหนียว เสี้ยนสน เลื่อยไสกบตบแต่งยาก เหมาะแก่การทำฟืน และถ่าน ที่ให้ความร้อนสูง ลำต้นนิยมนำมาทำเป็นเสาบ้าน เสารั้ว แพทย์แผนไทยแต่เดิมใช้ผลอ่อนมาปรุงเป็นยาขับพยาธิ        ๒๗/๑๗๓๗๕
                ๕๐๓๔. สะแกวัลย์  เป็นไม้เถาเนื้อแข็ง ใบเดี่ยว ติดตรงข้ามรูปใบหอก แกมรูปไข่ ดอกเป็นช่อกระจายที่ปลายยอด ดอกสีออกเหลือง มีกลิ้นหอม ดอกย่อยไม่มีก้าน ผลมีรูปร่าง และขนาดแตกต่างกัน ส่วนใหญ่ค่อนข้างกลม         ๒๗/๑๗๓๗๗
                ๕๐๓๕. สะแกแสง  เป็นไม้ต้น สูง ๒๕ เมตร ใบเดี่ยวเรียงสลับรูปสามเหลี่ยม แกมรูปไข่ รูปขอบขนาน หรือรูปเกือบกลม ดอกออกเดี่ยว ๆ หรือเป็นช่อตามกิ่ง สีเหลืองอมเขียว กลิ่นค่อนข้างหอม ใช้ประโยชน์คล้ายกับกระดังงาไทย ผลรูปไข่        ๒๗/๑๗๓๗๘
                ๕๐๓๖. สะดือ  เป็นอวัยวะของร่างกาย อยู่ตรงกลางพื้นท้อง มักเป็นแอ่งหวำ เข้าไป
                        เด็กในครรภ์มารดา สะดือเป็นทางติดต่อของสายสะดือ ไปยังรก เพื่อนำอาหารและออกซิเจนจากรกไปสู่ตัวเด็ก และนำของเสียรวมทั้งคาร์บอนไดออกไซด์ไปสู่แม่ แล้วจึงขจัดออกจากร่างกายของแม่อีกทีหนึ่ง ในขณะที่เป็นตัวอ่อนเดือนแรก ๆ บริเวณท้องยังไม่ปิด ต่อมาผนังท้องจึงเริ่มปิดเข้ามาทุกทาง จนปิดบริเวณรอบ ๆ บริเวณสะดือ  บรรดาถุงไข่แดง ซึ่งเป็นส่วนที่มาจากไข่ดั้งเดิม ถุงที่ต่อจากปลายกระเพาะปัสสาวะ ที่อยู่นอกท้องจะมีทางติดต่อกับอวัยวะภายในท้อง โดยผ่านสะดือ หลอดเลือดแดงสองเส้น ที่นำเลือดออกจากลูกไปยังรก และหลอดเลือดดำเส้นหนึ่ง ที่นำเลือดออกจากรก เข้าสู่เด็กก็จะผ่านเข้าออก บริเวณสะดือเช่นกัน
                        หลังจากที่คลอดจากครรภ์มารดา จนโตเป็นผู้ใหญ่ สะดือก็ไม่ค่อยจะมีความสำคัญนัก        ๒๗/๑๗๓๗๙
              ๕๐๓๗. สะเดา  เป็นไม้ต้นในเมืองไทยมีสองพันธุ์ ที่มีลักษณะคล้ายกันคือ สะเดาไทย และสะเดาอินเดีย แต่เนื่องจากความแตกต่างมีน้อยจึงให้ถือว่า เป็นชนิดเดียวกัน
                        สะเดา สูงได้ถึง ๒๕ เมตร ลำต้นมักเปลาตรง ออกช่อดอกพร้อมใบอ่อน ใบออกเป็นช่อ แบบขนนกปลายคี่ หรือขนนกปลายคู่เรียงสลับ ช่อดอกแบบช่อกระจุก แยกแขนงที่ซอกใบ ตอนปลายกิ่ง ดอกขนาดเล็ก กลิ่นหอมสีขาว ผลแบบผลเมล็ดเดี่ยว แข็ง ทรงรี
                        ดอกและใบอ่อน ใช้ลวกเป็นผักจิ้มน้ำพริก สะเดาเป็นไม้โตเร็ว ให้ร่มเงา เนื้อไม้ทนต่อการผุ จึงใช้ในการก่อสร้าง ทำด้ามเครื่องมือ เครื่องเรือน ทำหลักหรือเสารั้ว น้ำมันจากเมล็ดใช้จุดตะเกียง ใบและเมล็ดใช้ทำยาฆ่าแมลง ฆ่าไส้เดือน เปลือกต้นและใบ มีสรรพคุณด้านสมุนไพร ใช้แก้ไข้มาเลเรีย โรคบิด แผลเปื่อย แผลพุพอง เป็นยาเจริญอาหาร ยาขับเสมหะ รากแก้ไข้ แก้สะอึก แก้พิษงูกัดได้ แก่นใช้แก้คลื่นเหียนอาเจียน ดอกบำรุงธาตุ รักษาโรคกำเดา ยางดับพิษร้อน ผลเป็นยาถ่ายและขับพยาธิ เมล็ดเป็นยาทำให้อาเจียน นับว่าเป็นไม้สารพัดประโยชน์        ๒๗/๑๗๓๘๐
                ๕๐๓๘. สะตอ  ไม้ต้นขนาดกลางถึงขนาดใหญ่ สูงถึง ๓๕ เมตร ลำต้นเปลาตรง แตกกิ่งตอนบนใกล้ปลายยอด เรือนยอดเป็นพุ่มกว้างโปร่ง ใบประกอบแบบขนนก สองชั้นเรียงสลับ ดอกออกเป็นช่อกระจุก ห้อยลงตามปลายยอด ช่อดอกเป็นทรงกลมสองอันติดกัน มีทั้งดอกสมบูรณ์เพศ และไม่สมบูรณ์เพศ ผลเป็นฝักแบนรูปขอบขนาน เนื้อนุ่มรสขมเผ็ด หรือมัน มีกลิ่นเหม็นเขียวและฉุน
                        สะตอ เป็นพืชผักพื้นเมืองที่สำคัญของภาคใต้ มีผู้นิยมบริโภคเป็นที่แพร่หลาย เนื้อไม้มีน้ำหนักเบา ใช้ในการก่อสร้าง ทำเครื่องเรือน ทำกล่องหรือลังใส่ของ ยอดอ่อนบริโภคเป็นผักสด เมล็ดบริโภคเป็นผักสด มีสรรพคุณเป็นยารักษาโรคเบาหวาน ในระยะแรก ช่วยลดน้ำตาลในเลือด ช่วยขับลมในลำไส้ และขับปัสสาวะ        ๒๗/๑๗๓๘๕
                ๕๐๓๙. สะท้อน, ต้น  เป็นชื่อเรียกพันธุ์ไม้ในหลายวงศ์ด้วยกัน แต่ที่รู้จักกันอย่างกว้างขวาง ซึ่งนิยมปลูกเป็นพืชสวน เพื่อนำผลมาใช้เป็นอาหาร และเป็นของหวาน
                        สะท้อน เป็นไม้ต้นสูงได้ถึง ๔๐ เมตร ไม่ผลัดใบ ลำต้นเปลาตรง แต่แตกกิ่งต่ำ ใบเป็นช่อติดเวียนกันไป ใบรูปไข่หรือรูปรีแกมรูปไข่ ดอกสมบูรณ์เพศสีเหลืองอ่อน ออกรวมกันเป็นช่อไม่แยกแขนงตามปลายกิ่ง ผลกลมอุ้มน้ำ เนื้อหนา เมล็ดโตมีเนื้อเยื่อสีขาวหุ้ม การขยายพันธุ์นิยมใช้ตอนกิ่ง หรือใช้เมล็ดเพาะ
                        เนื้อไม้ที่เป็นกระพี้มีสีเหลืองอ่อน ส่วนแก่นมีสีแดงเรื่อปนเทา แปรรูปได้ง่าย ใช้ทำกระดานพื้น เครื่องเรือน ลังใส่ของ วงกบประตู หน้าต่าง เรือ หูกทอผ้า ผลแก่ใช้บริโภคเป็นผลไม้สด รากใช้เป็นยาพื้นบ้านรักษาโรคบิด
                        สะท้อน ชนิดอื่น ๆ ได้แก่ สะท้อนนก สะท้อนรอก และกระท้อนลอก หรือมะพอก        ๒๗/๑๗๓๘๘
                ๕๐๔๐. สะบัก  เป็นกระดูกซึ่งเป็นส่วนของกระดูกหัวไหล่ อยู่ถัดบ่าลงไปข้างหลัง บริเวณหัวไหล่ กระดูกสะบักจะต่อกับกระดูกไหปลาร้า ซึ่งเป็นกระดูกวงไหล่อีกชิ้นหนี่ง ที่อยู่ด้านหลังของส่วนอก ที่มีกระดูกนี้ปิดอยู่ เรียกว่า บริเวณสะบัก กระดูกสะบักเป็นกระดูกแบน รูปเกือบเป็นสามเหลี่ยม แต่ละส่วนของกระดูกนี้ มีกล้ามเนื้อมาเกาะ สะบักยังเป็นตัวกลางเชื่อมแขนไว้กับลำตัวด้วย และสามารถเคลื่อนไหวได้ระดับหนึ่ง เพื่อเสริมการเคลื่อนไหวของแขนให้กว้างขวางยิ่งขึ้น        ๒๗/๑๗๓๙๘
                ๕๐๔๑. สะบ้า หรือสะบ้าหัวเข่า  เป็นกระดูกที่อยู่ด้านหน้าข้อเข่า มีขนาดและลักษณะใกล้เคียงกับเมล็ดสะบ้า สะบ้าเป็นกระดูกประเภทที่เกิดอยู่ในเอ็น ด้านล่างยึดอยู่กับเอ็นสะบ้า ซึ่งมีปลายล่างยึดติดกับกระดูกแข้ง ส่วนบนของสะบ้า จะมีเอ็นกล้ามเนื้อของกลุ่มกล้ามเนื้อด้านหน้าของต้นขา ด้านหลังจะมีพื้นผิวสัมผัสกับส่วนล่างทางด้านหน้า ของกระดูกต้นขา สะบ้าจึงเป็นกระดูกชิ้นหนึ่งในกระดูกสามชิ้น ที่ประกอบกันเป็นข้อเข่า        ๒๗/๑๗๓๙๙
                ๕๐๔๒. สะระแหน่  เป็นไม้ล้มลุก มีกลิ่นหอม มักมีไหล ลำต้นเป็นสี่เหลี่ยม ทอดเลื้อย หรือตั้งตรง สูง ๑๐ - ๒๕ ซม. ใบเดี่ยวเรียงตรงข้าม รูปโล่ รูปไข่ หรือรูปไข่แกมรูปรี
                    สะระแหน่ ใช้เป็นส่วนประกอบของอาหาร เพื่อทำให้เกิดการเจริญอาหาร โดยใช้ใบสดและต้นอ่อน มีสรรพคุณทางสมุนไพร คือ ใช้ขับลม แก้ท้องขึ้น ท้องเฟ้อ ทำให้เจริญอาหาร แก้ปวดท้อง แก้ท้องเสีย บำรุงธาตุ แก้ปวดฟัน แก้หืด ขับเหงื่อ แก้อาการเกร็งของกล้ามเนื้อ ใบเป็นส่วนผสมในยาสีฟัน น้ำยาบ้วนปาก หมากฝรั่ง บุหรี่ ยาแก้ไอ น้ำหอม        ๒๗/๑๗๔๐๐
                ๕๐๔๓. สัก, ต้น   สักหิน เป็นชื่อเรียกพันธุ์ไม้ในหลายวงศ์ด้วยกัน แต่ที่รู้จักกันอย่างกว้างขวางคือ ไม้สัก ชื่ออื่น ๆ คือ สักทอง สักหยวก เป็นไม้ต้นสูงได้ถึง ๕๐ เมตร ผลัดใบ ลำต้นเปลาตรง ใบเดี่ยว ออกตรงข้ามกันเป็นคู่ แต่ละคู่สลับทิศทางกัน ทรงใบป้อม หรือรูปไข่กลับ ดอกสมบูรณ์เพศสีขาวนวล ออกรวมกันเป็นช่อ แยกแขยงโตตามปลายกิ่ง หรือตามง่ามใบ ใกล้ปลายกิ่ง ผลแห้งเมล็ดแข็งค่อนข้างกลม การขยายพันธุ์นิยมใช้เมล็ดเพาะ ต่อมาใช้เหง้าปลูก ปัจจุบันใช้วิธีชำกิ่ง และเลี้ยงเนื้อเยื่อช่วย
                        เนื้อไม้สัก มีสีเหลืองทอง มีวงปี และลายสวย มีความทนทานตามธรรมชาติสูง นิยมใช้ก่อสร้างบ้านเรือน ต่อเรือ ทำตัวถังรถ เครื่องแกะสลัก เครื่องมือเกษตรกรรม กรอบประตู หน้าต่าง เครื่องประดับและตกแต่งบ้าน ไม้อัด และกระเบื้องไม้ เป็นต้น ใบอ่อนให้สีแดง ใช้ย้อมกระดาษและย้อมผ้า
                        ต้นสัก ชนิดอื่น ๆ ได้แก่ สักขี้ไก่ หรือสักพม่า สักขี้ควาย สักขรีย่าน หรือสำลีงา สักขี หรือแกแล สักหิน หรือสักน้ำ สักเขา หรือพันจำ สักทะเล สักน้ำ        ๒๗/๑๗๔๐๒
                ๕๐๔๔. สักรวา  เป็นคำประพันธ์ร้อยกรองชนิดหนึ่ง ที่ขึ้นต้นด้วยคำว่า สักรวา และลงท้ายด้วยเอย  การเล่นกลอนเพลง ที่เรียกว่า สักรวา ต้องมีการร้องโต้ตอบกันสองฝ่ายคือ ฝ่ายชาย และฝ่ายหญิง ซึ่งลอยเรือเล่นเพลงกันกลางน้ำ มักกระทำกันเมื่อออกพรรษา ตั้งแต่กลางเดือนสิบเอ็ด ถึงกลางเดือนสิบสอง ซึ่งเป็นเทศกาลกฐิน หมดหน้ากฐินแล้ว ก็เลิกกันไป
                        ลักษณะของกลอนสักรวา คือ การแต่งกลอนสุภาพ ซึ่งใช้คำระหว่างหกถึงเก้าคำ  สำหรับขับร้องแบบกลอนเพลงทั่วไป คือ มีทำนองเพลงกำกับ แต่โบราณมักใช้ทำนองเพลงพระทอง เป็นส่วนมาก
                        สักรวา มีการแต่งเป็นสามแบบคือ
                            ๑.  แต่งบทเดี่ยวโดด ๆ  ไม่มีการตอบโต้กัน เช่น แต่งพรรณาธรรมชาติ แต่งอวยพรหรือแต่เพื่อบรรยายเรื่องอะไรก็ได้
                            ๒. แต่งโต้ตอบระหว่างฝ่ายชายกับฝ่ายหญิง จะเป็นทำนองรักใคร่หรือแต่งเป็นเรื่องราวบรรยายทำนองเล่าเรื่องตั้งแต่ต้นจนจบก็ได้
                            ๓. แต่งเป็นตอน ๆ คัดมาจากเรื่องใหญ่ โดยกำหนดให้ว่าสักรวาแทนตัวละครในเรื่องนั้น ๆ เช่นบทว่า บทขุนช้าง บทขุนแผน บทวันทอง สักรวาแบบนี้ใช้แต่งเป็นวงไม่ใช่แต่งเป็นบทโต้ตอบทั่ว ๆ ไป
                        การแต่งสักรวา ถ้าจะแสดงฝีมือให้เพริศพริ้งเป็นพิเศษ มีบทสักรวาซึ่งนับว่าเป็นบทชั้นครู คือแต่งด้วยคำตายล้วน ซึ่งมีอยู่เพียงบทเดียวคือ
         สักรวาระเด่นมนตรี จรลีเลยลงสรงในสระ
    เอาพระหัตถ์ขัดพระองค์ทรงชำระ แล้วเรียกพระอนุชามากระซิบ
    นั่นกอบัวมีดอกเพิ่งออกฝัก จงไปหักเอาแต่ตัวฝักบัวดิบ
    โน่นอีกกอแลไปไกลลิบลิบ ให้ข้างในไปหยิบเอามาเอย

                ๕๐๔๕. สังกะสี  เป็นธาตุลำดับที่ ๓๐ คนรู้จักและใช้ประโยชน์ของสังกะสีเป็นระยะเวลานานมาก ทองเหลืองซึ่งเป็นโลหะเจือของสังกะสีและทองแดง ใช้กันมาตั้งแต่ ๑,๔๐๐ - ๑,๐๐๐ ปี ก่อนคริสต์สักราช โดยพบที่ปาเลสไตน์ ชาวโรมันรู้จักการทำทองเหลืองเมื่อประมาณ ๓๐ ปี ก่อนคริสต์ศักราช นอกจากชาวโรมันแล้ว กลุ่มอารยธรรมสูงในตะวันออกกลางและตะวันออกไกล ก็รู้จักทองเหลืองเมื่อประมาณ ๒,๐๐๐ ปี มาแล้ว
                        สังกะสีมีอยู่ทั่วไปในเปลือกโลก มีเหมืองแร่สังกะสีทั่วโลก ผู้ผลิตรายใหญ่ได้แก่ออสเตรเลีย แคนาดา จีน เปรู สหรัฐอเมริกา เบลเยี่ยม และสวีเดน
                        สังกะสีเป็นโลหะสีเงินออกสีฟ้าเล็กน้อย แข็ง และเปราะที่อุณหภูมิธรรมดา แต่อ่อน ดึงยีดได้ และทำเป็นแผ่นได้ นำไฟฟ้าได้ดีพอควร สังกะสีผลิตออกจำหน่ายเป็นผง เม็ด ชิ้น และแผ่น เป็นธาตุสามัญที่มีประโยชน์เป็นอันดับที่สี่รองจากเหล็ก อะลูมิเนียม และทองแดง         ๒๗/๑๗๔๑๙
                ๕๐๔๖. สังข์ หอย  เป็นชื่อหอยทะเลกาบเดี่ยวหลายชนิด หลายสกุล มีขนาดกลางถึงขนาดใหญ่ ที่รู้จักกันทั่วไปได้แก่
                        ๑. สังข์อินเดีย หรือสังข์รดน้ำ เมื่อโตเต็มที่จัดเป็นหอยขนาดใหญ่ เปลือกหนา รูปเปลือกค่อนข้างป้อม วงเกลียวตัวกลม ส่วนปลายมีร่องยาวปานกลาง ส่วนยอดเตี้ย ช่องเปลือกรูปรี เปลือกชั้นรองลงไปเป็นส่วนที่มีความหนาและแข็งค่อนข้างเรียบ สีขาวนวลหรือสีขาวอมชมพู หอยชนิดนี้อาศัยอยู่ตามท้องทะเล ที่พื้นเป็นทราย
                       เปลือกหอยทะเลโดยทั่วไปมีลักษณะเวียนขวา แต่มีหอยบางตัวที่สร้างเปลือกแบบเวียนซ้าย สำหรับสังข์อินเดียที่มีลักษณะเวียนซ้ายพบน้อยและหายาก ชาวฮินดูถือว่าเป็นของศักดิ์สิทธิ์และเป็นมงคล        ๒๗/๑๗๔๒๓
                        ๒. สังข์แตร เป็นหอยขนาดใหญ่ เปลือกค่อนข้างหนา รูปเปลือกยาวรี ตอนกลางซึ่งเป็นวงเกลียวตัวใหญ่สุด ส่วนยอดเป็นทรงเจดีย์ปลายแหลม ร่องเปลือกกว้างเป็นรูปวงรี มีผิวนอกของเปลือกเป็นมัน มีลายรูปพระจันทร์เสี้ยวพื้นเป็นสีนวล
                        ๓. สังข์กริช หรือสังข์บิด เป็นหอยขนาดกลาง เปลือกหนา รูปเปลือกค่อนข้างยาว ส่วนปลายมีร่องและบิดงอคล้ายกริช        ๒๗/๑๗๔๑๕


    • Update : 27/5/2554
    © Copyright 2011 www.watnongmuang.com All rights reserved 999arch