๓๖๓๗. โปรดสัตว์ - วัด เป็นวัดราษฎร์ตั้งอยู่ ต.ท่าขนอน อ.บางปะอิน บนฝั่งซ้ายของแม่น้ำเจ้าพระยา จ.พระนครศรีอยุธยา และอยู่ใต้วัดทำเลไทยโดยมีกำแพงคั่นเท่านั้น
วัดนี้เป็นวัดเก่าแก่มากคือ ตั้งแต่สมัยอยุธยาตอนต้น (พ.ศ.๑๘๙๓ - ๒๐๓๑) แต่หลักฐานโบราณคดีบางอย่างชี้ให้เห็นว่า อาจเป็นวัดเก่าเลยสมัยอยุธยาตอนต้น ๑๙/ ๑๒๑๓๓
๓๖๓๘. โปรตอน เมื่อปี พ.ศ.๒๔๕๔ เออร์เนสต์รัทเทอร์ฟอร์ด นักฟิสิกส์ชาวอังกฤษได้ค้นพบว่ามวลของอะตอมของธาตุอัดรวมกันอยู่ในบริเวณเล็ก ๆ เรียกว่า นิวเคลียส และในปี พ.ศ.๒๔๖๒ รัทเทอร์ฟอร์ดได้ค้นพบว่า อนุภาคโปรตอนเป็นผลที่ได้มาจากการแตกสลายของนิวเคลียสของอะตอม จึงทำให้สรุปได้ว่า อนุภาคโปรตอนเป็นองค์ประกอบหนึ่งของนิวเคลียสของอะตอมของธาตุ นับจากนั้นก็ได้มีการวิจัยอีกมากมายเกี่ยวกับการสร้างของอะตอมของธาตุ ผลการวิจัยยืนยันได้แน่นอนว่าโปรตอนเป็นอนุภาคมูลฐานชนิดหนึ่ง ซึ่งมีปรากฏอยู่ที่นิวเคลียสของอะตอมของทุกธาตุ เป็นอนุภาคที่มีประจุไฟฟ้าบวก นอกนี้ทุกอะตอมของธาตุจะต้องมีโปรตอน และนิวตรอนปรากฏอยู่ด้วยกันที่นิวเคลียสเสมอ
ธาตุชนิดเดียวกัน จะมีจำนวนโปรตอนที่นิวเคลียสของแต่ละอะตอม เป็นจำนวนเท่ากันเสมอ และธาตุต่างชนิดกัน จะมีจำนวนโปรตอนที่นิวเคลียสของอะตอมแตกต่างกันไป จำนวนโปรตอนที่นิวเคลียสของแต่ละอะตอมเรียกว่า เลขอะตอมิก ส่วนผลบวกของจำนวนโปรตอน และนิวตรอนที่นิวเคลียสของแต่ละอะตอมเรียกว่า เลขมวล ในการเรียงลำดับที่ของธาตุที่ตารางพีริออดิกในปัจจุบันเรียงตามเลขอะตอมิก โดยเริ่มต้นจากธาตุไฮโดรเจน ซึ่งมีค่าเลขอะตอมิกเป็น ๑ เรื่อยไปจนถึงธาตุฮาห์เนียม ซึ่งมีค่าเลขอะตอมิกเป็น ๑๐๕
ในธรรมชาติโปรตอนมีบทบาทสำคัญมากเกี่ยวกับปฎิกิริยานิวเคลียส ซึ่งให้พลังงานออกมามากมายยิ่ง พบกันว่าในดวงอาทิตย์ และในดาวฤกษ์อื่นบางดวงปรากฏมีปฎิกิริยาโปรตอน - โปรตอน เป็นปฎิกิริยานิวเคลียส ซึ่ง ๔ โปรตอนหลอมรวมกันเป็น ๑ อะตอมของธาตุฮีเลียม เชื่อกันว่าปฎิกิริยานี้ เป็นแหล่งกำเนิดสำคัญแหล่งใหม่ของพลังงานในดาวฤกษ์เหล่านั้น นอกจากนั้นยังพบว่าประมาณร้อยละ ๙๐ ของอนุภาคที่มีในรังสีคอสมิก คือ อนุภาคโปรตอนที่มีพลังงานสูงมาก
ในทางวิทยาศาสตร์ นักวิทยาศาสตร์ใช้อนุภาคโปรตอนเป็นกระสุนในเครื่องปฏิกรณ์ปรมาณู ไประดมยิงนิวเคลียสของอะตอม เพื่อสร้างอนุภาคมูลฐานอื่น ๆ ที่ไม่เสถียรสำหรับศึกษาถึงสมบัติต่าง ๆ ของอนุภาคเหล่านั้นต่อไป ๑๙/ ๑๒๑๓๗
๓๖๓๙. โปรตุเกส (โปร์ตุเกส - เพิ่มเติม) เป็นประเทศเก่าแก่ประเทศหนึ่งในยุโรป มีแนวพรมแดนมาตั้งแต่ปี พ.ศ.๑๗๔๐ โปร์ตุเกสตั้งอยู่สุดทางด้านตะวันตกของทวีปยุโรป บนคาบสมุทรไอบีเรียทางตะวันออก และทางเหนือ ติดต่อกับประเทศสเปนทางตะวันตก และทางใต้ติดต่อกับมหาสมุทรแอคแลนติก หรือฝั่งออกไปทางตะวันตก และตะวันตกเฉียงใต้มีหมู่เกาะอะซอร์ส และหมู่เกาะมาเดียรา ซึ่งเป็นดินแดนของโปร์ตุเกสด้วย โปร์ตุเกสมีพื้นที่ ๘๘,๕๐๐ ตาราง กม.
ลักษณะทางภูมิศาสตร์ ส่วนใหญ่ของโปร์ตุเกสเป็นที่ต่ำประมาณร้อยละ ๑๑.๖ ของพื้นที่เท่านั้นที่สูงกว่า ๖๙๐ เมตร แม่น้ำทากุสไหลผ่านแยกโปร์ตุเกสออกเป็นสองส่วน แม่น้ำนี้มีต้นน้ำอยู่ในประเทศสเปน ทางตอนใต้เป็นที่ราบและที่ราบสูงระดับต่ำกับมีที่ราบลุ่มแม่น้ำกว้างขวางหลายแห่ง พื้นดินมีลักษณะเป็นลูกคลื่น เนินเขามีน้อย มีภูเขาเพียงเทือกเดียว สูงประมาณ ๙๘๐ เมตร ทางภาคเหนือพื้นดินมีระดับสูงกว่าทางภาคใต้กว่าร้อยละ ๙๐ ของภาคเหนือสูงกว่า ๓๙๐ เมตร เป็นที่ราบสูงที่กว้างใหญ่มีหุบเขาลึกตัดผ่านอยู่หลายแห่ง ภูเขาทางภาคเหนือนี้สูงกว่า ๙๘๐ เมตร แม่น้ำสำคัญส่วนใหญ่มีต้นน้ำอยู่ในประเทศสเปนแล้วไหลผ่านมาในโกรกธาร แม่น้ำสายยาวที่สุดที่ไหลผ่านโปร์ตุเกส คือ แม่น้ำดูโร ยาว ๓๒๐ กม. ต้นน้ำอยู่ในประเทศสเปน
ชายฝั่งทะเลเป็นชายฝั่งตรงเป็นส่วนใหญ่ ทำให้มีท่าเรือธรรมชาติน้อยมาก ที่สำคัญคือ เมืองลิสบอนที่ปากแม่น้ำทากุส และเซตูบัลที่ปากแม่น้ำซาโด
ภูมิอากาศ โปร์ตุเกสตั้งอยู่สุดทางด้านตะวันตกเฉียงใต้ของยุโรป ทำให้มีภูมิอากาศมีลักษณะผสมของภูมิอากาศภาคพื้นทะเล และภูมิอากาศเมดิเตอเรเนียน
พลเมือง ชาวโปร์ตุเกสจัดเป็นพวกเชื้อชาติผสม พวกที่มีเชื้อสายมัวร์ ซึ่งเข้ามาปกครองโปร์ตุเกสอยู่ระยะหนึ่งจะมีตาสีแก่ พวกทางเหนือตาสีฟ้าหรือสีเทา แถบชายฝั่งโดยเฉพาะอย่างยิ่งทางตอนใต้ พลเมืองมีลักษณะของพวกนิโกรสืบเนื่องมาจากการค้าทาส ในระหว่างปี พ.ศ.๒๓๐๐ - ๒๔๐๐
ภาษาโปร์ตุเกสอยู่ในกลุ่มภาษาละตินคล้ายกับภาษาสเปน แต่มีคำในกลุ่มภาษาเยอรมัน และภาษาเซมิติกปนอยู่เป็นจำนวนมาก ภาษาโปร์ตุเกสใช้กันทั่วไปในประเทศ มีทางตะวันออกเฉียงเหนือที่มีภาษาถิ่น ชาวโปร์ตุเกสส่วนใหญ่นับถือศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิก
ชาวโปร์ตุเกสอพยพไปตั้งหลักแหล่งในต่างประเทศอยู่เรื่อย ๆ ส่วนใหญ่ไปประเทศฝรั่งเศส เยอรมันตะวันตก รองลงมาไปประเทศบราซิล แคนาดา เวเนซูเอลา และสหรัฐอเมริกา
ศิลปะและวัฒนธรรม วัฒนธรรมโปร์ตุเกส เป็นวัฒนธรรมที่เก่าแก่ เริ่มมาตั้งแต่สมัยก่อนประวัติศาสตร์มาจนถึงสมัยโรมันและมัวร์เข้ารุกราน วัฒนธรรมจึงมีลักษณะผสมผสาน
ประวัติ โปร์ตุเกสเป็นราชอาณาจักรอิสระ มีพระเจ้าแผ่นดินปกครองในปี พ.ศ.๑๖๘๒ ระหว่างปี พ.ศ.๒๑๒๓ - ๒๑๘๓ โปร์ตุเกสถูกรวมเข้ากับสเปน แล้วจึงแยกออกมาเป็นโปร์ตุเกสอย่างเดิม ถึงปี พ.ศ.๒๔๕๓ จึงเปลี่ยนแปลงระบบการปกครองเป็นสาธารณรัฐ มีประธานาธิบดีเป็นประมุข
๓๖๔๐. โปรแตสแตนต์ แปลว่าฝ่ายคัดค้าน เป็นชื่อเรียกกลุ่มผู้นับถือคริสต์ศาสนานิกายหนึ่งในสามนิกายคือ นิกายคาทอลิก นิกายกรีกออร์โทดอกซ และนิกายโปรเตสแตนต์
นิกายโปรเตสแตนต์ มีกำเนิดในพุทธศตวรรษที่ ๒๑ ด้วยการเคลื่อนไหวอย่างสำคัญของ มาร์ตินลูเทอร์ ชาวเยอรมัน (พ.ศ.๒๐๒๖ - ๒๐๘๙) คัดค้านความย่อหย่อนในการปฏิบัติธรรมของฝ่ายคาทอลิกที่กรุงโรม มีผู้ยอมรับความคิดปฎิรูปการปฏิบัติธรรมแพร่หลายรวดเร็วเข้าไปทั่วยุโรป มีฝรั่งเศสเป็นรอยต่อตอนต้น แล้วแยกออกเป็นนิกายย่อยอีกหลายนิกายในอีกหลายประเทศ
โปรเตสแตนต์ แยกออกเป็นนิกายสำคัญสี่นิกายคือ ลูเทอร์น (ตามชื่อของลูเทอร์) แคลวิน (ตามชื่อของแคลวิน ชาวฝรั่งเศส) อังกลิคาน และเปรสไบทีเรียน
นิกายลูเทอรัน หลักปฏิบัติธรรมที่สำคัญคือ ความสัมพันธ์โดยตรงระหว่างมนุษย์กับพระเจ้า ปฎิเสธความศักดิ์สิทธิ์ของสันตะปาปา ว่าไม่ใช่ผู้แทนของพระเจ้า หรือสื่อพาคนให้ติดต่อกับพระเจ้า
ความสัมพันธ์โดยตรงระหว่างมนุษย์กับพระเจ้า อาศัยศรัทธา ส่วนตนของมนุษย์เป็นฐาน อาศัยพระเมตตา หรือพระพรของพระเจ้า และอาศัยพระคัมภีร์ (ไบเบิล) แทนการอาศัยสันตะปาปา
ลูเทอร์นปฏิเสธการแสวงหาบุญหรือการสารภาพบาปด้วยการมอบกายถวายตัว ไม่ใช่เรื่องจริงของพระคัมภีร์ แต่เป็นเรื่องที่สันตะปาปาประกาศบัญญัติขึ้นเอง
นิกายแคลวิน ยอมรับอำนาจของพระจิตว่าสามารถบันดาลให้เกิดสิ่งใดสิ่งหนึ่งได้ แม้แต่พระคัมภีร์ รับความสูงสุด และความศักดิ์สิทธิ์ของพระคัมภีร์ รับว่าคัมภีร์เท่านั้นคือ บ่อเกิดของความจริง ศีลสำคัญมีเพียงสองคือ ศีลล้างบาปหรือศีลจุ่ม และศีลมหาสนิท พระเจ้าเป็นเจ้าชีวิตของสัตว์โลก พระพรของพระเจ้าเป็นสิ่งสำคัญ ชะตาชีวิตของมนุษย์ขึ้นอยู่กับพระกรุณานี้ ใครไม่ทำตามคำสั่งของพระเจ้าถือว่าละหน้าที่ เป็นบาป การปฏิบัติธรรมอย่างอื่นเหมือนลูเทอร์น แต่เน้นหนักมากในเรื่องคัมภีร์
นิกายแองกลิคาน หรือศาสนจักรแบบอังกฤษ เกิดในสมัยพระเจ้าเฮนรี่ที่แปด แห่งราชวงศ์สจ๊วต (พ.ศ.๒๐๕๒ - ๒๐๙๐) เมื่อโรมันคาทอลิกผ่านเข้ามาสู่เกาะอังกฤษ ราชวงศ์อังกฤษไม่พอใจความหรูหราของสำนักวาติกันประเทศฟื้นฟูศาสนาใหม่ ตามแนวปฏิบัติของลูเทอร์น ให้ศาสนาของอังกฤษเป็นอิสระไม่ขึ้นต่อสันตะปาปา กรุงโรม หัวหน้านักบวชเรียกอาร์ชบิชอบ พิธีต่าง ๆ ของโรมันคาทอลิกถูกตัดออกไปหลายพิธี มาตอนหลังการฟื้นฟูของอังกฤษ กลายเป็นเรื่องของรัฐไปหลายอย่าง ทำให้เกิดมีนิกายอื่นขึ้นมาอีก เช่นนิกายเปรสไบทีเรียน และเมทอดิสต์
นิกายเปรสไบทีเรียน เกิดขึ้นเพราะรังเกียจศาสนจักรอังกฤษที่กลายเป็นเรื่องของรัฐ เปรสไบทีเรียนแปลว่า คณะนักบวชผู้ใหญ่ มีความมุ่งหมายให้มีการจัดการปกครองของพวกนักบวชให้มีระเบียบขึ้น มีบิชอบ หัวหน้านักบวชในกลุ่มเป็นประธาน มีมินนิสเตอร์ร่วมกันทำงานเหมือนสภาขึ้นตรงต่อบิชอบ ไม่ต้องการเปลี่ยนหลักเดิมของโปรเตสแตนต์
นิกายนี้แผ่เข้ามาสู่ประเทศสยาม เมื่อปี พ.ศ.๒๓๗๘ ๑๙/ ๑๒๑๔๖
๓๖๔๑. โปลิเนเซีย เป็นชื่ออาณาบริเวณกว้างใหญ่ หนึ่งในสามแห่งในมหาสมุทรแปซิฟิก อีกสองแห่งคือ เมลาเนเซีย และไมโครเนเซีย อาณาบริเวณทั้งสามแห่งนี้อยู่ต่อเนื่องกัน โดยโปลิเนเซียเป็นส่วนที่อยู่ทางด้านตะวันออกสุด โปลิเนเซียประกอบด้วยหมู่เกาะต่าง ๆ เป็นจำนวนมาก อาณาบริเวณนี้ลักษณะเป็นรูปสามเหลี่ยมอย่างคร่าว ๆ มีหมู่เกาะฮาวาย หมู่เกาะนิวซีแลนด์ และเกาะอีสเตอร์ อยู่ที่มุมด้านทิศเหนือ ทิศตะวันตก และทิศตะวันออกของรูปสามเหลี่ยม ตามลำดับ
ชาวโปลิเนเซีย มีเลือดผสมระหว่างชนหลายเชื้อชาติ ทั้งคอเคซอยด์ มองโกลอยด์ และนิกรอยต์ มีรูปร่างค่อนข้างสูง ผิวสีน้ำตาล ผมสีดำเหยียดตรง
ในตอนกลางพุทธศตวรรษที่ ๒๔ ชาวตะวันตกได้เริ่มแผ่อิทธิพลเข้าไปปกครองดินแดนในมหาสมุทรแปซิฟิก ทำให้ดินแดนส่วนนี้ต้องตกเป็นอาณานิคมของประเทศทางตะวันตก ๑๙/ ๑๒๑๕๒
๓๖๔๒. โปลิโอ - โรค เรียกเป็นภาษาไทยว่าไข้ไขสันหลังอักเสบ เกิดจากเชื้อไวรัสชนิดหนึ่ง เป็นเชื้อที่ทนทานในอุณหภูมิต่ำ แต่จะตายถ้าต้มให้เดือดเพียง ๕ - ๑๐ นาที คนที่เคยเป็นโปลิโอชนิดหนึ่งแล้วจะไม่ติดเชื้อชนิดเดิมนั้นอีก แต่อาจติดเชื้ออีกสองชนิดที่แตกต่างออกไปนั้นได้
โรคโปลิโอ ได้ระบาดเป็นครั้งแรกในประเทศไทย เมื่อปี พ.ศ.๒๔๙๕ ต่อจากนั้นก็มีคนป่วยปรากฎทุกปี และเพิ่มจำนวนสูงขึ้นตามลำดับ อายุที่ป่วยเป็นโรคจะอยู่ในหมวดอายุต่ำกว่าห้าปี ประมาณร้อยละ ๘๐ ของผู้ป่วยทั้งหมด เชื้อไวรัสเข้าสู่ร่างกายโดยการกิน เมื่อเข้าไปจะเพิ่มจำนวนให้มากขึ้น ที่เนื้อเยื่อของต่อมน้ำเหลือง บริเวณภายในคอ และเยื่อเมือก บุผนังลำไส้ เชื้อโรคจะค่อย ๆ บุกรุกเข้าไปในกระแสโลหิต และเดินทางเข้าสู่ระบบประสาทกลาง แล้วเข้าสู่สมอง และไขสันหลังต่อไป ทำให้เกิดอาการอักเสบ ถ้าหากเซลล์ประสาทในไขสันหลัง ที่ควบคุมการเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อ ถูกทำลายก็จะแสดงอาการของโรคชนิดอัมพาต ถ้าเกิดสมองอักเสบ อาจมีอัมพาตของกล้ามเนื้อที่สำคัญเกี่ยวกับการกลืน การหายใจ ซึ่งทำให้ถึงแก่ชีวิตได้ ๑๙/ ๑๒๑๕๓
๓๖๔๓. โปโลน้ำ เป็นกีฬาที่ต้องใช้ความสามารถทางด้านร่างกาย และทักษะการเล่นที่อยู่ในระดับสูงอย่างหนึ่ง เพราะได้นำเอาการเล่นของกีฬาหลาย ๆ อย่าง เช่น ว่ายน้ำ บาสเกตบอล ฟุตบอล และอื่น ๆ มารวมเข้าเล่นด้วยกัน กีฬานี้ได้มีการคิดขึ้นเล่นเป็นครั้งแรกในประเทศอังกฤษ เมื่อประมาณปี พ.ศ.๒๔๑๓ และได้จัดให้มีการแข่งขันครั้งแรกในกีฬาโอลิมปิก เมื่อปี พ.ศ.๒๔๔๓
โปโลน้ำ เป็นกีฬาที่เล่นในระหว่างผู้เล่นสองฝ่าย ฝ่ายละเจ็ดคน โดยให้แบ่งเวลาการเล่นออกเป็นสี่ช่วง ช่วงละห้านาที และพักห้านาที และพักระหว่างช่วงสองนาที ผู้เล่นแต่ละคนจะมีตำแหน่ง และหมายเลขประจำตัวในการเล่น ติดไว้ที่หมวกคือ
หมายเลข ๑ ผู้รักษาประตู หมายเลข ๒ หลังซ้าย หมายเลข ๓ หลังขวา หมายเลข ๔ กลาง หมายเลข ๕ หน้าซ้าย หมายเลข ๖ หน้ากลาง หมายเลข ๗ หน้าขวา ๑๙/ ๑๒๑๖๕
๓๖๔๔. โปสุพลา เป็นชื่อแม่ทัพพม่า ที่ได้รับแต่งตั้งจากพระเจ้ามังระ ให้คุมกำลังพล ๕,๐๐๐ คน มาช่วยเจ้าบุญสาร เจ้าเมืองเวียงจันทน์ เมื่อครั้งที่เจ้าสุริยวงศ์ เจ้าเมืองหลวงพระบาง ยกทัพมาล้อมเมืองเวียงจันทน์ ในปี พ.ศ.๒๓๑๔ โปสุพลา สามารถตีเมืองหลวงพระบางได้ และได้รับคำสั่งมาตั้งอยู่ที่เมืองเชียงใหม่ คอยช่วยเหลือโปมะยุง่วน ป้องกันเมือง เมื่อกองทัพไทยจะยกขึ้นไปตีเมืองเชียงใหม่ โปสุพลาได้แบ่งกองทัพส่วนหนึ่งเข้ามาตีเมืองลับแล และเลยมาถึงเมืองพิชัย ตอนปลายปี พ.ศ.๒๓๑๕ แต่ถูกฝ่ายไทยตีแตกกลับไป
ต่อมาในปี พ.ศ.๒๓๑๖ ได้เกิดวิวาทกันเองในเมืองเวียงจันทน์ โปสุพลาต้องยกทัพไประงับการขัดแย้งที่เมืองเวียงจันทน์ เมื่อสิ้นฤดูฝนโปสุพลายกทัพกลับจากเวียงจันทน์ จึงถือโอกาสเลยมาตีเมืองพิชัยอีก แต่ก็ถูกทัพไทยตีแตกกลับไป ๑๙/ ๑๒๑๖๗
๓๖๔๕. โป๊ะ เป็นเครื่องมือจับสัตว์น้ำเป็นเครื่องมือประจำที่ชนิดหนึ่ง สำหรับการจับปลาในทะเล ส่วนประกอบทำด้วยไม้จริง ไม้ไผ่ และไม้รวก โดยการลงหลักปักเสาเป็นรูปวงกลม ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ ๕๐ เมตร แล้วล้อมด้วยเฝือกแน่นหนา ขันราประกอบเป็นชั้น ๆ ประมาณ ๔ - ๕ ชั้น เรียกว่า ลูกโป๊ะ ต่อจากลูกโป๊ะ ใช้ไม้ปักทำเป็นรูปคล้ายหูช้างสองแห่งเรียกว่า ห้องลวง ทำหน้าที่ขังปลาไม่ให้หนีออกจากโป๊ะ มีไม้ปักเป็นปีก หันหน้ารับกระแสน้ำลง ทำมุมซึ่งกันและกันจำนวนห้าปีกคือ ปีกใหญ่สองปีก ปีกแซงอีกสองปีก กับปีกกลางอีกหนึ่งปีก ปีกกลางและปีกใหญ่สองปีก เป็นปีกที่ยาวที่สุด อาจยาวมากกว่า ๑,๐๐๐ เมตร เวลาจับปลาใช้อวนรุกในขณะน้ำลงงวด โป๊ะเป็นเครื่องมือที่นิยมใช้กันมากในหมมู่ชาวประมงในจังหวัดชายทะเลทั่วไป ๑๙/ ๑๒๑๖๙
๓๖๔๖. โป๊ะจ้าย - เรือ เป็นเรือทะเลประเภทเรือต่อ มีรูปร่างอย่างแบบยุโรป คล้ายเรือกำปั่นใบ มีเครื่องเสาเพลาใบแบบจีน มีเสาหัวกลางและท้าย สำหรับชักใบตอนท้าย เรือมีบาหลีสำหรับเดินลงไปยังท้องเรือ เรือชนิดนี้ทางราชการเรียกว่า เรือโป๊ะ ต้องเป็นเรือที่มีขนาดใหญ่พอสมควร ตาม พ.ร.บ.เดินเรือในน่านน้ำไทย พ.ศ.๒๔๔๖ กำหนดว่าต้องมีขนาดบรรทุกได้มากกว่า ๑,๐๐๐ หาบ (๔๔.๗ ตัน) และเรือทะเลทุกชนิดต้องมีดาดฟ้าปิด ๑๙/ ๑๒๑๗๔
๓๖๔๗. ไปรษณีย์ หมายถึง วิธีการส่งหนังสือ และหีบห่อสิ่งของโดยมีองค์การที่ตั้งขึ้นเป็นเจ้าหน้าที่รับส่ง
ผู้ที่ได้รับการยกย่องว่า เป็นผู้คิดระบบไปรษณีย์ขึ้นมาคือ จักรพรรดิ์ดาริอุส แห่งเปอร์เซีย ซึ่งได้จัดม้าใช้ นำข่าวสารออกไปทั่วราชอาณาจักร และรับทราบความเป็นไปจากหน่วยทหารในทุกหนทุกแห่ง โดยกำหนดให้ม้าใช้ออกเดินทาง ในหนึ่งวันแล้วเปลี่ยนม้าและคนใหม่ ไปเรื่อยเป็นทอด ๆ จนกว่าจะถึงที่หมาย
สามัญชนได้เข้ามามีส่วนร่วมในกิจการไปรษณีย์ ในราวปี พ.ศ.๑๙๔๓ ในรัชสมัยพระเจ้าหลุยส์ที่ ๑๑ แห่งประเทศฝรั่งเศส
กิจการไปรษณีย์ของไทย ในสมัยโบราณการส่งหนังสือไปมาถึงกัน ระหว่างเมืองต่อเมือง ส่วนมากมีอยู่แต่ในทางราชการเท่านั้น โดยคนเดินหนังสือใช้วิธีส่งต่อกันเป็นทอด ๆ โดยเปลี่ยนคนเดินหนังสือในแต่ละเมือง
ต่อมาทางการได้จัดให้มีคนเดินหนังสือประจำตามหัวเมืองสำคัญเรียกว่า "คนเร็ว" มีหน้าที่ส่งหนังสือโดยเฉพาะ ส่วนหนังสือราชการที่จะต้องส่งไปยังราชการต่างประเทศ โดยมากจะใช้วิธีมอบไปกับพ่อค้าสำเภา ที่มีเกียรติควรแก่การเชิญหนังสือราชการนั้น แต่ถ้าเป็นพระราชหัตถเลขา หรือพระราชสาสน์ถึงประมุขของประเทศ ก็ต้องแต่ตั้งทูตอัญเชิญพระราชหัตถเลขา หรือพระราชสาสน์ นั้นโดยเฉพาะ
ในปี พ.ศ.๒๔๑๘ ได้มีพระบรมวงศานุวงศ์ ประกอบด้วยเจ้านาย ๑๑ พระองค์ โดยการนำของ สมเด็จ ฯ เจ้าฟ้าภาณุรังษีว่างวงศ์ กรมหลวงภาณุพันธุวงศ์วรเดช ทรงร่วมกันออกหนังสือรายวันฉบับหนึ่ง เพื่ออ่านกันในหมู่เจ้านายชื่อ "ข่าวราชการ" เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่สมาชิก ผู้รับหนังสือจึงให้มีบุรุษเดินหนังสือขึ้นและให้มีตั๋ว "แสตมป์" เพื่อแสดงว่าได้เสียค่าเดินหนังสือแล้วด้วย นับว่าเป็นตราไปรษณียากรที่ประเทศไทยมีใช้เป็นครั้งแรก
ต่อมาในปี พ.ศ.๒๔๒๓ เจ้าหมื่นเสมอใจราช หัวหมื่นมหาดเล็กเวรสิทธิ์ ผู้ซึ่งเคยไปเห็นกิจการไปรษณีย์ในต่างประเทศมาแล้ว ได้ทำหนังสือกราบบังคมทูลรัชกาลที่ห้า ถวายคำแนะนำให้เปิดบริการไปรษณีย์ขึ้นในประเทศไทย จึงได้มีการประกาศรับฝากส่งจดหมาย หรือหนังสือเป็นการทดลองในเขตพระนคร และธนบุรีขึ้นในปี พ.ศ.๒๔๒๖ มีที่ทำการอยู่ ณ ไปรษณียาการ ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ตอนปากคลองโอ่งอ่าง ด้านทิศเหนือ สมเด็จ ฯ เจ้าฟ้าภาณุรังษีสว่างวงศ์ ฯ ทรงดำรงตำแหน่งผู้สำเร็จราชการกรมไปรษณีย์และโทรเลข
การให้บริการไปรษณีย์โทรคมนาคมและการเงิน ทั้งในประเทศ และต่างประเทศของกรมไปรษณีย์โทรเลข ดำเนินมาได้ระยะเวลา ๙๔ ปี จนถึงปี พ.ศ.๒๕๑๙ จึงได้มีการประกาศใช้ พ.ร.บ.การสื่อสารแห่งประเทศไทย พ.ศ.๒๕๑๙ แยกงานส่วนปฏิบัติการของกรมไปรษณีย์โทรเลขออกมาจัดตั้งเป็นรัฐวิสาหกิจ มีชื่อว่าการสื่อสารแห่งประเทศไทย ตั้งแต่ปี พ.ศ.๒๕๒๐ ส่วนกรมไปรษณีย์โทรเลขยังคงมีฐานะเป็นส่วนราชการฝ่ายพลเรือนระดับกรมตามเดิม มีหน้าที่ความรับผิดชอบเกี่ยวกับการสื่อสารในระดับอำนวยการ ๑๙/ ๑๒๑๗๕
ผ
๓๖๔๘. ผ พยัญชนะตัวที่ ๒๘ ของพยัญชนะไทย นับเป็นพวกอักษรสูง เป็นตัวที่สามของวรรคที่ห้า ในภาษาไทยจัดเป็นพยัญชนะพวกอโฆษะคือมีเสียงไม่ก้อง
ผ ใช้เป็นตัวสะกดในแม่กบ ร่วมกับพยัญชนะอื่น ๆ อีกหกตัวคือ บ ป ฝ พ ฟ ภ แต่ในภาคปฏิบัติแล้วไม่ปรากฎว่าใช้ตัว ผ เป็นตัวสะกดในคำไทยในที่ใด ๆ ๑๙/ ๑๒๑๘๙
๓๖๔๙. ผกากรอง เป็นไม้พุ่ม ใบสากคาย มีกลิ่นค่อนข้างเหม็นเขียว ออกตรงข้ามกันเป็นคู่ ๆ รูปใบคล้ายรูปหัวใจ แต่โคนใบไม่เว้า ดอกออกตรงซอกใบเป็นช่อ เกือบกลมมีหลายสี ดอกย่อมมีขนาดเล็กออกเบียดกันจนแน่นช่อ แต่ละดอกมีใบประดับเล็ก ๆ รองรับที่โคน ผลรูปกลมสีเขียวเมื่อแก่สีดำ ๑๙/ ๑๒๑๘๙
๓๖๕๐. ผดุงกรุงเกษม เป็นชื่อคลองในกรุงเทพ ฯ ขุดเป็นคูชั้นนอก คราวขยายเขตพระนครออกไปในรัชกาลที่สี่ ปากคลองตอนบนแยกจากแม่น้ำเจ้าพระยาฝั่งซ้ายใต้วัดเทวราชกุญชร ไปทางตะวันตกเฉียงใต้ถึงคลองมหานาค ลงทางใต้ปากคลองตอนล่าง ออกแม่น้ำเจ้าพระยาใต้ที่ว่าการเขตสัมพันธวงศ์ ยาว ๕.๕ กม. ขุดเมื่อปี พ.ศ.๒๔๙๔ เสร็จ พ.ศ.๒๔๙๕ มีถนนกรุงเกษมขนานกับคลองทางฝั่งขวา ๑๙/ ๑๒๑๙๐
๓๖๕๑. ผมนาง - ปลา เป็นปลาทะเล ปลาในวงศ์นี้ส่วนใหญ่ใช้เป็นอาหารที่รู้จักกันดีคือ ปลาสีกุน หรือปลาหางแข็ง เป็นต้น ปลาพวกนี้ชอบอยู่เป็นฝูง หากินตามชายฝั่ง ๑๙/ ๑๒๑๙๑