หน้าแรก สมาชิก รายการวัตถุมงคล ตะกร้าวัตถุมงคล วิธีชำระวัตถุมงคล วิธีบูชาวัตถุมงคล ประวัติวัด ติดต่อวัด เว็บบอร์ด
สมาชิก Log in
อีเมล์
รหัสผ่าน
สมัครสมาชิกใหม่
ลืมรหัสผ่าน
















ค้นหาวัตถุมงคล
 
 
 
หมวดวัตถุมงคล
  เครื่องราง พระอาจารย์ป้อม
  พระเครื่อง พระอาจารย์ป้อม
  พระเครื่อง หลวงพ่อสวัสดิ์
  พระเครื่อง หลวงปู่พิมพ์มาลัย
  พระเครื่อง หลวงพ่อสง่า
วัตถุมงคลของคุณ
รหัสวัตถุมงคล ราคา จำนวน
ยังไม่มีวัตถุมงคลอยู่ในตะกร้า
  • ชำระค่าวัตถุมงคล
  • แก้ไขรายการวัตถุมงคล
  • วิธีสั่งบูชาวัตถุมงคล
  •  

    สารานุกรมไทยฉบับย่อ/25
    ๑๓๙๓. จ้ำจี้  เป็นการเล่นของเด็กชนิดหนึ่ง เล่นกันหลายคนเป็นวง เอามือทั้งสองข้างของแต่ละคน แผ่ทาบลงบนพื้นข้างหน้าตน แล้วเด็กคนหนึ่งในวง เป็นผู้ดำเนินการเล่น เอานิ้วไปแตะที่หลังมือเด็กในวง ที่วางแผ่อยู่ทุก ๆ มีวนซ้ายหรือขวาก็ได้ (ปรกติวนขวา - เพิ่มเติม) ปากร้องบทจ้ำจี้ซึ่งมีอยู่หลายบทด้วยกัน ถ้าคำร้องสุดท้ายของบทจ้ำจี้ตกที่มือผู้ถูกจี้ เด็กเจ้าของมือก็ชักมือออก แล้วขึ้นบทจำจี้ใหม่ เวียนต่อไปหลายครั้งหลายหน จนกว่ามือเหล่านั้นเหลือสุดท้าย เพียงมือเดียว เจ้าของมือนั้นตกอยู่ในฐานะ โหล่ผี ต้องถูกเพื่อนในวงกินตับ
                            การเล่นจ้ำจี้ทำนองนี้ มีในชนชาติอื่นด้วย เช่น จีน ญวน ญี่ปุ่น อินเดีย และชาวตะวันตก
                ๑๓๙๔. จำนอง  หมายถึง ตกลงทำสัญญาโดยเอาทรัพย์สินตราไว้แก่เจ้าหน้า เพื่อเป็นประกันการชำระหนี้ แต่ไม่ต้องส่งมอบทรัพย์สินนั้น เดิมเคยเรียกการทำสัญญาดังกล่าวว่า จำนำ
                            ทรัพย์สินที่จะจำนองได้ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ บรรพ ๓ ในมาตรา ๗๐๓ ได้กำหนดไว้สองประเภทคือ อสังหาริมทรัยพ์ทุกชนิด อาจจำนองได้ทั้งสิ้น ส่วนสังหาริมทรัพย์นั้น มีจำกัดไว้ว่า ต้องได้จดทะเบียนแล้ว ได้แก่ เรือกำปั่น หรือเรือตั้งแต่หกตันขึ้นไป เรือกลไฟ หรือเรือยนต์ มีระวางตั้งแต่ห้าตันขึ้นไป เรือนแพ สัตว์พาหนะ หรือสังหาริมทรัพย์ นอกจากซึ่งกฎหมายบัญญัติไว้ ให้จดทะเบียนเฉพาะการ         ๘/ ๔๙๙๓
                ๑๓๙๕. จำนำ  คำว่า จำนำได้มีมานานแล้ว หมายถึง คำที่ใช้ในกฎหมาย เช่น ตกลงทำสัญญาโดยส่งมอบสังหาริมทรัพย์ ให้แก่เจ้าหนี้เพื่อเป็นประกันการชำระหนี้
                            จำนำพรรษา  หมายถึง ผ้าที่ทายกถวายแก่พระสงฆ์ ที่อยู่จำพรรษาในวัดนั้น         ๘/ ๕๐๐๑
                ๑๓๙๖. จำปา  เป็นไม้ยืนต้น  นิยมปลูกเก็บเอาดอกมาใช้ประโยชน์ต่าง ๆ ที่เป็นของป่า ต้นมักสูงสุด แต่ที่นำมาปลูกต้นมักเล็กกว่า ดอกออกเดี่ยวตามซอกใบ ติดกับกิ่งมีสีเหลืองส้มหม่น ๆ จนเรียกกันเป็นพิเศษว่า สีดอกจำปา
                            จำปาขาว  เป็นชื่อใช้เรียกต้นลั่นทมในภาคอีสาน
                            จำปาแขก  เป็นไม้พุ่มขนาดเล็ก ดอกเล็กกว่าดอกจำปา
                            จำปาเทศ  เป็นต้นไม้ใหญ่ ดอกสีเหลืองนวล ค่อนข้างใหญ่มีขึ้นทั่วไปในประเทศไทย
                            จำปาลาว  ใช้เรียกต้นลั่นทมในภาคเหนือ          ๘/ ๕๐๑๐
                ๑๓๙๗.  จำปาดะ  เป็นไม้ต้นขนาดกลางสูง ๑๐ - ๑๕ เมตร ดอกผลคล้ายขนุน แต่ขนาดย่อมกว่า ยวงสีเหลือง นุ่ม รสหวานจัด เป็นผลไม้พื้นเมืองในแหลมมลายู ขนุนบ้านชนิดที่เนื้อเหลืองจำปาก็เรียกกันว่าขนุนจำปาดะ
                            จำปาดะ มีใบเดี่ยว เรียงสลับกัน         ๘/ ๕๐๑๑
                ๑๓๙๘. จำปาศักดิ์  จัมปาศักดิ์ เป็นชื่อเมืองทางภาคใต้ของประเทศลาว อยู่บนฝั่งขวาของแม่น้ำโขง ห่างไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของ จ.อุบลราชธานี ประมาณ ๑๑๐ กิโลเมตร ตัวเมืองอยู่ติดต่อกับภูเขา
                            ตามประวัติกล่าวว่า แต่เดิมลาวทางเหนือได้อพยพมาตั้งถิ่นฐานสร้างเมืองขชึ้นเมื่อประมาณปลายพุทธศตวรรษที่ ๒๒ ชื่อนครกาลจำบากนาคบุรีศรี ต่อมาเมื่อปี พ.ศ.๒๒๕๖ ได้เปลี่ยนชื่อเมืองเป็นนครจัมปาศักดิ์นาคบุรีศรี มีกษัตริย์ปกครอง กลายเป็นศูนย์กลางการปกครองอาณาจักรนลาวทางใต้ ต่อมาในปี พ.ศ.๒๓๒๑ กองทัพไทยได้ยกมาตีเมืองนี้ได้ จึงกลายเป็นประเทศราชของไทย ตลอดมาจนตกไปเป็นของฝรั่งเศส เมื่อปี พ.ศ.๒๔๔๗ เมื่อเกิดกรณีพิพาทอินโดจีนได้เมืองนี้กลับคืนมา
                            เมื่อปี พ.ศ.๒๔๘๔ หลังสงครามโลกครั้งที่สอง ไทยต้องคืนเมืองนี้ให้ฝรั่งเศสไปในปี พ.ศ.๒๔๘๙           ๘/ ๕๐๑๓
                ๑๓๙๙. จำปี  เป็นพันธุ์ไม้วงศ์เดียวกับจำปา ลักษณะก็คล้ายจำปา แต่กิ่งก้านและใบเกลี้ยง เป็นมัน ขนาดค่อนข้างใหญ่กว่าจำปา ดอกมีขนาดเล็กกว่าจำปาและมีสีขาว กลิ่นหอมเย็นบานเวลาค่ำ         ๘/ ๕๐๑๓
                ๑๔๐๐. จำปูน  เป็นไม้พุ่ม สูงประมาณ ๒ - ๓ เมตร ดอกออกเดี่ยว ๆ ตามซอกใบ ลักษณะคล้าย ดอกนมแมว แต่ใหญ่กว่าเล็กน้อย ต้นจำปูนพบอยู่ทางภาคใต้ของไทย         ๘/ ๕๐๑๓
                ๑๔๐๑. จิก - ต้น  เป็นชื่อเรียกพันธุ์ไม้สกุลวงศ์หนึ่งมีหลายชนิด โดยมากเป็นพันธุ์ไม้ ที่ชอบขึ้นตามที่ลุ่มชายน้ำ และชายทะเล
                            จิกนา  เป็นไม้ต้นขนาดกลาง สูง ๑๐ - ๑๕ เมตร ดอกสีแดงเป็นช่อห้อย ออกตามปลายกิ่ง
                            จิกน้ำ  เป็นไม้ต้นขนาดเล็ก สูงประมาณ ๓ เมตร ดอกสีขาว เกสรแดง ออกเป้นช่อห้อย
                            จิกบ้านหรือจิกสวน  เป็นไม้ต้นขนาดกลาง สูง ๑๐ - ๑๕ เมตร ดอกสีขาว เกสรแดง ออกเป็นช่อห้อยตามปลายกิ่ง ยอดอ่อนเป็นอาหารประเภทผักได้
                            จิกเล  เป็นไม้ต้นขนาดกลางถึงขนาดใหญ่ สูง ๑๐ - ๑๕ เมตร ดอกออกเป็นช่อสั้น ๆ ตามปลายกิ่งแขนง ดอกสีขาว เกศรสีชมพู พบขึ้นทั่วไปตามชายฝั่งทะเล         ๘/ ๕๐๑๓
                ๑๔๐๒. จิงกูจา (พ.ศ.๒๓๐๐ - ๒๓๒๔)  เป็นพระเจ้าแผ่นดินพม่าองค์ที่สี่ แห่งราชวงศ์อลองพญา เป็นราชบุตรองค์ใหญ่ของพระเจ้ามังระ ขึ้นครองราชย์เมื่อปี พ.ศ.๒๓๑๙ ไม่สนพระทัยในการปกครอง ถูกสำเร็จโทษในปี พ.ศ.๒๓๒๔         ๘/ ๕๐๑๖
                ๑๔๐๓. จิ้งจก  เป็นสัตว์คลานขนาดเล็ก สามารถปรับตัวได้ให้กลมกลืนกับสิ่งแวดล้อม ที่อาศัยวางไข่ และอาจทำให้หางหลุดออกจากตัวได้ตามที่ต้องการเ พื่อหลอกศัตรู และหางนั้นงอกใหม่ได้
                            จิ้งจก  พบในเขตร้อนทั่วไป มีมากสกุลมากชนิด         ๘/ ๕๐๑๗
                ๑๔๐๔. จิงจ้อ  เป็นชื่อทั่ว ๆ ไปของไม้เถาขนาดเล็กถึงขนาดกลางของพันธุ์ไม้หลายชนิด มักพบขึ้นปกคลุมพุ่มไม้ตามชายทุ่งชายป่าทั่วไป มีชื่อเรียกตามภาคต่าง ๆ ของไทย เป็นจิงจ้อใหญ่ จิงจ้อเหลือง จิงจ้อวอก อีกชนิดหนึ่งเป็นไม้เถาขนาดกลาง มีชื่อเรียกตามภาคต่าง ๆ เป็นจิงจ้อขาว จิงจ้อหลวง จิงจ้อขน อีกชนิดหนึ่งเรียกว่า จิงจ้อขาว จิงจ้อน้อย จิงจ้อผี         ๘/ ๕๐๑๗
                ๑๔๐๕. จิ้งจอก  เป็นหมาป่าชนิดหนึ่ง หมาป่าทั้งหมดในโลกปัจจุบันมีอยู่ ๑๔ สกุล ๑๕ ชนิด มีอยู่ตามทวีปต่าง ๆ แทบทั่วโลก แต่ไม่มีในขั้วโลกใต้ เกาะนิวกินี เกาะนิวซีแลนด์ หมู่เกาะมาเลนิเซีย โมลุกกะ เซลีเบส เกาะไต้หวัน ดามากัสการ์ เวสต์อินดัส และหมู่เกาะโอเชียนิก
                            ในประเทศไทยมีหมาป่าอยู่สองสกุล สกุลละชนิด จึงมีอยู่เพียงสองชนิดคือหมาจิ้งจอกและหมาไน
                            หมาจิ้งจอก มีสีตามตัวทั่วไปเป็นสีน้ำตาลแถบเทา หางเป็นพู่ยาวประมาณ ๒๕ ซม. ชอบหากินในตอนกลางคืน และตอนจวนพลบกับตอนเช้าตรู่ นอนตามโพรงไม้ โพรงดิน ไม่รวมอยู่เป็นฝูงใหญ่ ๆ  มักจะไปโดดเดี่ยวหรือไม่ก็เป็นฝูงเล็ก ๆ เพียง ๒ - ๔ ตัว หากินสัตว์เล็ก ๆ            ๘/ ๕๐๒๐
                ๑๔๐๖. จิงโจ้  เป็นสัตว์มีอยู่ตามธรรมชาติในทวีปออสเตรเลีย เกาะทาสมาเนีย เกาะนิวกินี หมู่เกาะบิสมาร์ก และเกาะใกล้เคียงอื่น ๆ  แบ่งออกเป็น ๑๗ สกุล ๕๒ ชนิด ทุกชนิดมีขาหลังใหญ่โต แข็งแรงสำหรับใช้กระโดด แต่ขาหน้าเล็ก
                           จิงโจ้ตัวเมียมีถุงเลี้ยงลูกที่หน้าท้องในถุงมีนมสี่เต้า แต่น้ำนมครั้งละสองเต้า
                           จิงโจ้มีหางยาวและแข็งแรง ใช้หางในการรักษาการทรงตัว เมื่อเคลื่อนที่ เวลายืนหรือนั่ง จะใช้หางยันเป็นขาที่สาม
                           จิงโจ้ทุกชนิดชอบกินผักหญ้า ผสมพันธุ์ปีละครั้ง มีลูกครั้งละตัวลูกอยู่ในท้อง เพียงระยะสั้น พอมีขนาดโตเท่าปลายนิ้วก้อย ก็คลอดออกมาแล้วพาตัวเลื่อนไปตามหน้าท้องแม่ จนเข้าไปในถุงหน้าท้องแม่ เอาปากดูดหัวนม โดยไม่ปล่อยเลย จนกระทั่งโตขึ้น
                           จิงโจ้ที่รู้จักกัน เป็นสามัญในไทยคือ จิงโจ้ขนาดใหญ่ที่สุด
                           จิงโจ้นอกจากที่กล่าวนี้ ในคำไทยยังมีความหมายถึงสัตว์และสิ่งอื่นด้วยคือ เป็นนกขนาดเล็กชนิดหนึ่ง แมงมุมชนิดหนึ่งมีขายาว ขาวิ่งอยู่บนหลังน้ำ เครื่องห้อยเปลให้เด็กดูเล่นทำด้วยไม้ไผ่จัก ทหารหญิงในวังหลวงรัชกาลที่ ๔ และเครื่องป้องกันในจักรเรือไม่ให้สวะเข้าไปปะ และกันกระทบ และกันไม่ให้เพลาแกว่ง          ๘/ ๕๐๒๒
                ๑๔๐๗. จิ้งหรีด  เป็นแมลงพวกหนึ่ง มีหัวกว้างอกกว้างเท่ากับความกว้างของหัว ลำตัวเรียวไปทางหาง มีอยู่มากมายหลายชนิดในประเทศไทย จิ้งหรีดเหล่านี้ทำเสียงได้เพราะ และแปลก ๆ แตกต่างกันไปโดยใช้ขอบปีกหน้าถูกัน จะเกิดเสียงดังเป็นจังหวะ
                            จิ้งหรีดชอบหลบซ่อนอยู่ในที่มืด ออกหากินเวลากลางคืนอาหารมีมากอย่างเป็นพืช และผักต่าง ๆ บางครั้งจึงก่อความเสียหายแก่กสิกร          ๘/ ๕๐๒๕
                ๑๔๐๘. จิงหัน, จิงหุน  เป็นชื่อของตัวน้ำนอง ซึ่งเป็นปลวกชนิดหนึ่ง สีตัวค่อนข้างคล้ำ          ๘/ ๕๐๒๗
                ๑๔๐๙. จิ้งเหลน  เป็นสัตว์เลื้อยคลาน มีสี่เท้า ในโลกนี้เท่าที่พบกมีอยู่ประมาณกว่า ๖๐๐ ชนิด ขาและนิ้วเท้ามักจะเล็ก มีเกล็ดเรียบลื่น ลิ้นสั้นตรงปลายไม่มีแฉกออกลูกเป็นตัว ส่วนมากชอบอยู่ตามพื้นดิน มักแอบอยู่ใต้ก้อนหิน ขอนไม้ที่ผุพัง
                            จิ้งเหลน ในประเทศไทยเท่าที่สำรวจพบมีอยู่ ๑๑ สกุล ๔๖ ชนิด          ๘/ ๕๐๒๗
                ๑๔๑๐. จิญจมาณวิกา เป็นชื่อหญิงคนหนึ่งในครั้งพุทธกาล เป็นนักบวชนอกพระพุทธศาสนาประเภทหนึ่ง ในพวกปริพาชก เป็นหญิงสาวผู้มีโฉมงามเป็นเลิศ นางได้รับภาระจากพวกเดียรถีย์ ทำอุบายไปกล่าวโทษติเตียนพระพุทธเจ้า ใส่ไคล้พระพุทธองค์ด้วย อสัทธรรมว่าได้ร่วมสมัครสังวาสกับตน จนตั้งครรภ์ แต่อุบายของนางไม่เป็นผล เหตุด้วยท้าวสักเทวราช เสด็จมานิรมิตเป็นลูกหนู ทำลายอุบายของนางเสียก่อน นางจึงมีอันเป็นให้ถูกแผ่นดินสูบตาย ไปเกิดในเ
    อเวจีนรก
                            เรื่องนางจิญจมาณวิกานี้ มีปรากฎในคัมภีร์ธัมมปทัฏฐกถา ในมหาปทุมชาดก อรรถกถาชาดก ทวาทสกนิบาต และในวิวิธชาดก          ๘/ ๕๐๒๘
                ๑๔๑๑. จิต  ใจ หมายถึงความรู้สึกนึกคิด มีชื่อเรียกอีกหลายอย่าง เช่น มโน มานัส หรือมนัส วิญญาณ คำว่าจิต และคำที่เป็นไวพจน์ ส่วนมากมีความหมายอย่างเดียวกันคือ รู้แจ้ง อารมณ์
                            อัตตภาพที่สมมุติว่าเป็นตัวตนเรานี้ แยกออกได้เป็นสองส่วนคือ รูป ได้แก่ ส่วนที่เป็นร่างกาย และนาม ได้แก่ ส่วนที่เป็นใจ รูปกับนามนี้เรียกรวมกันว่า นามรูป แบ่งออกไปเห็นห้ากอง เรียกว่า ขันธ์ห้า ส่วนที่เป็นรูปหรือกาย เรียก รูปขันธ์  ส่วนที่เเป็นนาม หรือใจ จัดเป็นสี่กองคือ เวทนาขันธ์ สัญญาขันธ์ สังขารขันธ์ และวิญญาณขันธ์ วิญญาณขันธ์ คือ ความรู้แจ้งอารมณ์เรียกว่า จิต ส่วนที่เหลืออีกสามขันธ์เป็น เจตสิก
                            จิตนั้น โดยธรรมชาติแบ่งเป็นสี่คือ กุศล (บุญ)  อกุศล (บาป)  วิบาก (ผลของบุญและบาป)  และกิริยา (สักแต่ว่าเป็นกิริยา ไม่ใช่บุญ ไม่ใช่บาป )
                            ๑. จิต ที่เป็นกุศลเรียกว่า กุศลจิต  จัดโดยภูมิเป็นสี่คือ กามาวจรภูมิ รูปาวจรภูมิ อรูปาวจรภูมิ และโลกตรภูมิ
                            ๒. จิต ที่เป็นอกุศล เรียกว่า อกุศลจิต เป็นกามาวจรภูมิอย่างเดียว จัดโดยมูลเป็นสามคือ โลกมูล โทสมูล และโมหมูล
                            ๓. จิตที่เป็นผลของกุศลจิต หรืออกุศลจิต เรียกว่า วิปากจิต เรียกสั้นว่า วิบาก จัดโดยภูมิเป็นสี่คือ กามาวจรภูมิ รูปาวจรภูมิ อรูปวจรภูมิ และโลกุตรภูมิ
                            ๔. จิต ที่เป็นกิริยา เรียกว่า กิริยาจิต เรียกสั้น ๆ ว่า กิริยาจัดโดยภูมิเป็นสามคือ กามาวจรภูมิ รูปาวจรภูมิ และอรูปาวจรภูมิ
                            เมื่อรวมจิตเข้าด้วยกันเป็น ๘๙ ดวง คือ กุศลจิต ๒๑ ดวง อกุศลจิต ๑๒ ดวง วิปากจิต ๓๖ ดวง และกิริยาจิต ๒๐ ดวง          ๘/ ๕๐๕๓
                ๑๔๑๒. จิตคหบดี  เป็นอุบาสก ผู้ซึ่งเป็นพระอริยบุคคลชั้นอนาคามี เป็นมหาเศรษฐีผู้มีศรัทธาแก่กล้า มีศีลสมบูรณ์ ได้สร้างมหาวิหารถวายพระสงฆ์ ผู้มาจากจาตุรทิศไว้ในสวนของตน ที่อุทิศถวายให้เป็นสังฆารามคือ สวนอัมพาฎก (สวนมะกอก) ในนครปัจฉิกาสณฑ์
                            จิตคหบดี ได้ฟังธรรมจากพระมหาเถระ ซึ่งเป็นองค์หนึ่งในปัญวัคคีย์ ก็ได้บรรลุโสดาบัน ครั้นต่อมาได้ฟังธรรมจากพระสารีบุตร ก็ได้บรรลุอนาคามิผล หลังจากนั้นจึงไปเผ้าพระพุทธเจ้า          ๘/ ๕๐๔๕
                ๑๔๑๓. จิตคุปต์  เป็นชื่อพนักงานในยมโลก มีหน้าที่บันทึกบุญบาป และชื่อมนุษย์ชายหญิง ผู้กระทำบุญบาป ลงบัญชีไว้ แล้วนำไปอ่านถวายพระยายม ทั้งนี้เป็นไปตามคัมภีร์ว่าด้วยเรื่อง เทพนิยายวิทยา แต่คัมภีร์ฝ่ายพระพุทธศาสนา กล่าวเป็นอย่างอื่น          ๘/ ๕๐๕๑
                ๑๔๑๔. จิตตะกอง  เป็นชื่อจังหวัดหนึ่งในแคว้นเบงกอลตะวันออก ของประเทศปากีสถาน (ปัจจุบันคือ ประเทศบังคลาเทศ - เพิ่มเติม) ใกล้กับพรมแดนประเทศพม่า ทางตะวันตกติดต่อกับอ่าวเบงกอล เดิมทีเดียวเป็นส่วนหนึ่งของอาณาจักรฮินดูโบราณ  ต่อมาตกอยู่ใต้การปกครองของอาณาจักรอารากัน (ยะไข่) และจักรวรรดิ์โมกุล ผลัดเปลี่ยนกันหลายครั้ง จนถึงปี พ.ศ.๒๓๐๓ จึงตกเป็นของอังกฤษ และเป็นส่วนหนึ่งของแคว้นเบงกอลบริติช ตลอดมาถึงปี พ.ศ.๒๔๙๐ จึงรวมเข้ากับแคว้นเบงกอลตะวันออก ดังกล่าว          ๘/ ๕๐๕๙
                ๑๔๑๕. จิตรกรรม  หมายถึง งานศิลปกรรมสาขานึ่ง ในห้าสาขา ซึ่งเรียกว่า วิจิตรศิลป์ หรือวิสุทธิศิลป์ ได้แก่ สถาปัตยกรรม ประติมากรรม จิตรกรรม วรรณคดี และดนตรี ซึ่งรวมนาฎศิลป์เข้าไว้ด้วย
                            กล่าวอย่างสามัญจิตรกรรมคือ ศิลปะการวาดภาพ มนุษย์ได้สร้างงานจิตรกรรม มาแต่ครั้งดึกดำบรรพ์ก่อนประวัติศาสตร์ เช่น ยุคสมัยหินเก่า งานจิตรกรรมดังกล่าวเขียนอยู่บนผนังถ้ำ ภาพี่เขียนส่วนใหญ่ได้แก่ สัตว์ป่าที่มีอยู่ในสมัยนั้น ภาพดังกล่าวมีอยู่ทั่วไปในส่วนต่าง ๆ ของโลก วิวัฒนาการของงานจิตรกรรม ดำเนินเรื่อยมาเข้าสู่สมัยหินใหม่ สมัยทองแดง สมัยสัมฤทธิ์และเหล็ก ตามลำดับ
                            ทางด้านตะวันออก งานจิตรกรรมสร้างขึ้นเพื่อส่งเสริมศาสนาเป็นส่วนใหญ่ โดยเฉพาะประเทศไทยซึ่งมีพระพุทธศาสนาเป็นศาสนาประจำชาติ งานจิตรกรรมจึงเขียนเป็นเรื่องพุทธประวัติและชาดกมากกว่าเขียนเรื่องอื่น          ๘/ ๕๐๖๐
                ๑๔๑๖. จิตรกูฏ  เป็นชื่อเขาลูกหนึ่งในอินเดียสมัยพุทธกาลว่าเป็นเขาตั้งอยู่โดดเดี่ยวอยู่ไม่สู้ไกลจากหิมวันต์ประเทศ  ในรามเกียรติ์กล่าวว่าเมื่อพระรามเดินดง เคยเสด็จมาพักแรมที่เขานี้อยู่ระยะหนึ่ง          ๘/ ๕๐๖๕
                ๑๔๑๗. จิตรลดา ๑  เป็นชื่อสวนสวรรค์ของพระอินทร์แห่งหนึ่งในสวนสวรรค์ทั้งสี่ในดาวดึงสพิภพ (สวนนันทวัน สวนจิตรลดาวัลย์ สวนปารุสกวันและสวนมิสกวัน) ตั้งอยู่บนยอดเขาสิเนรุราช หรือเขาพระสุเมรุ          ๘/ ๕๐๖๖
                ๑๔๑๘. จิตรลดา ๒ - กาพย์  มีรูปเหมือนโคลงเก่าซึ่งไม่บังคับเอกโท ดังนั้นกาพย์จิตรลดาจึงเป็นได้ทั้งกาพย์ทั้งโคลง          ๘/ ๕๐๖๘
                ๑๔๑๙. จิตรเลขา  ในอนิรุทธ์คำฉันท์เรียกพิจิตรเลขา เป็นพระพี่เลี้ยงนางอุษาธิดาของพาณาสูรผู้ครองโศณิตปุระ นางมีความถนัดในการวาดรูป ฝีมือเยี่ยมเป็นอย่างเอก ได้วาดรูปถวายนางอุษาจนพบพระอนิรุทธ์ที่แอบมาหานางแล้วหายไป          ๘/ ๕๐๖๙
                ๑๔๒๐. จิตวิทยา  เป็นวิชาที่ใช้วิธีการเชิงวิทยาศาสตร์ศึกษาเกี่ยวกับพฤติกรรมของอินทรีย์ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง พฤติกรรมของคนในลักษณะเฉพาะตน และในลักษณะที่อยู่ในกลุ่มหรือหมู่คณะ
                            วิชาจิตวิทยามีความเป็นมาสองทาง ทางหนึ่งคือ วิชาปรัชญา อีกทางหนึ่งคือ วิชาวิทยาศาสตร์ โดยเฉพาะวิชาสรีระวิทยา            ๘/ ๕๐๗๐
                ๑๔๒๑. จิตวิทยาการศึกษา  มีความหมายสำคัญแบ่งออกเป็นสองนัยคือ
                            ๑. การศึกษาถึงข้อเท็จจริง หลักเกณฑ์ การทดลอง การวิจัยเกี่ยวกับผลประกอบทางจิตวิทยาที่มีผลต่อการศึกษาของเด็ก
                            ๒. การศึกษาธรรมชาติการเรียนรู้ของเด็ก          ๘/ ๕๐๘๑
                ๑๔๒๒. จิตวิทยาสังคม  เป็นวิชาที่ศึกษาเกี่ยวกับบุคคลซึ่งอยู่ในสังคม และมีความสัมพันธ์กับสังคม และวัฒนธรรมที่แวดล้อมอยู่ตลอดเวลา
                             วิชาจิตวิทยาสังคม คือ วิชาที่เราศึกษาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ ระหว่างบุคคลหนึ่ง  ที่มีต่อคนอื่น ๆ หรือบุคคลกลุ่มอื่น        ๘/ ๕๐๙๗

    • Update : 25/5/2554
    © Copyright 2011 www.watnongmuang.com All rights reserved 999arch