หน้าแรก สมาชิก รายการวัตถุมงคล ตะกร้าวัตถุมงคล วิธีชำระวัตถุมงคล วิธีบูชาวัตถุมงคล ประวัติวัด ติดต่อวัด เว็บบอร์ด
สมาชิก Log in
อีเมล์
รหัสผ่าน
สมัครสมาชิกใหม่
ลืมรหัสผ่าน
















ค้นหาวัตถุมงคล
 
 
 
หมวดวัตถุมงคล
  เครื่องราง พระอาจารย์ป้อม
  พระเครื่อง พระอาจารย์ป้อม
  พระเครื่อง หลวงพ่อสวัสดิ์
  พระเครื่อง หลวงปู่พิมพ์มาลัย
  พระเครื่อง หลวงพ่อสง่า
วัตถุมงคลของคุณ
รหัสวัตถุมงคล ราคา จำนวน
ยังไม่มีวัตถุมงคลอยู่ในตะกร้า
  • ชำระค่าวัตถุมงคล
  • แก้ไขรายการวัตถุมงคล
  • วิธีสั่งบูชาวัตถุมงคล
  •  

    สารานุกรมไทยฉบับย่อ/22

    เล่ม ๘  จรวด - จี๊ด      ลำดับที่ ๑๒๘๘ - ๑๔๔๐      ๘/ ๔๕๔๙ - ๕๒๐๘

                ๑๒๘๘. จรวด  ๑. เป็นชื่อดอกไม้ไฟชนิดพุ่งขึ้นสูงมีหาง เรียกกันเป็นสามัญว่า กรวด ในคำประพันธ์ใช้ว่า ตรวจก็มี
                             จรวด หรือกรวด ดังกล่าวถ้าเป็นขนาดใหญ่มากเรียกว่า บ้องไฟ หรือบั้งไฟ ซึ่งเป็นการเล่นไฟของชาวไทยทางภาคอีสาน (ดู บ้องไฟ ลำดับที่ ....)
                             จรวด หรือกรวด นี้ปรากฎในหนังสือเก่าว่า จุดเพื่อเป็นพุทธบูชา นอกจากนั้นในงานเผาศพ ก็มีจุดกันด้วยเหมือนกัน
                              ๒. เป็นพาหนะ ซึ่งเคลื่อนที่ได้ตามหลักเกณฑ์ของแรงสะท้อน ด้านท้ายของเครื่องยนต์จรวด เป็นพวยมีลักษณะเป็นปากแตร กาซร้อนพุ่งออกมาด้วยความเร็วสูง ทำให้เกิดแรงปฎิกิริยา ผลักจรวดไปในทิศทางตรงข้าม
                             ขีปนาวุธ เป็นจรวดซึ่งใช้เป็นพาหนะ นำอาวุธระเบิดไปทำลายเป้าหมายไกล ๆ
                             จรวด เป็นพาหนะชนิดเดียว ที่ใช้ในการสำรวจอวกาศ        ๘/ ๔๕๔๙
                ๑๒๘๙. จระเข้  เป็นสัตว์เลื้อยคลานวงศ์แรก หรือพวกแรกที่เริ่มพัฒนาการด้านกายวิภาคศาสตร์ โดยมีหัวใจครบสี่ห้อง เช่นเดียวกับสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมทั่วไป ผิดกับสัตว์เลื้อยคลานอื่น ๆ ที่มีหัวใจเพียงสามห้อง นอกจากนี้ยังมีกระบังลมแบ่งช่องทรวงอก กับช่องท้องออกเป็นสองส่วน เช่นเดียวกับสัตว์เลี้ยงลูกด้วยน้ำนม
                             ตามปกติจระเข้อยู่ในน้ำ และชอบขึ้นมาตากแดดตอนเช้า จระเข้ในประเทศไทยมีสามชนิด
                            ๑. จระเข้เค็ม  มีส่วนปากยาวกว่าจระเข้น้ำจืดมาก อาศัยอยู่ได้ทั้งในน้ำเค็ม น้ำกร่อย และน้ำจืด มีอยู่ตั้งแต่อ่าวเบงกอล ตามชายฝั่งเกาะลังกา อินเดีย ตลอดไปจนถึงฮ่องกง ทางใต้มีไปถึงเกาะมลายู อินโดนิเซีย จนถึงตอนเหนือของออสเตรเลีย เกาะโซโลมอน และเกาะฟิจิ
                            ๒. จระเข้น้ำจืด  มีส่วนปากทู่และสั้นกว่าจระเข้น้ำเค็ม มีอาศัยอยู่ในลำน้ำ และในบึงของประเทศไทย เขมร และเวียดนาม ไปจนถึงเส้นรุ้ง ๑๖ องศาเหนือ ทางปักษ์ใต้ถึงตอนเหนือของมลายู และเคยมีในชวาด้วย
                            ๓. ตะโขง  หรือจระเข้ปากกระทุงเหว มีปากเรียวยาว มีอยู่ในประเทศไทย มลายู บอร์เนียว และในหมู่เกาะมลายูอื่น ๆ ในประเทศไทยมีอยู่ในลำน้ำใกล้ไปทางมลายู       ๘/ ๔๕๕๐
                ๑๒๙๐. จระนำ  เป็นสถาปัตยกรรมแบบที่ทำเป็นซุ้ม รูปคล้ายหน้าต่าง ติดตั้งอยู่ใต้ชายคาอาคาร  ในระดับเดียวกับคอสอง เพื่อเป็นช่องลมระบายอากาศ หรือให้แสงสว่างเข้า บางทีก็ทำลึกเข้าไปเล็กน้อย ข้างในในอุดตัน เพื่อเพิ่มความงดงามให้แก่อาคาร
                ๑๒๙๑. จราจร - การ  หมายถึง การที่ยวดยานพาหนะ เคลื่อนที่ไปตามทางทั้งทางบก ทางน้ำและทางอากาศ รวมถึงการที่คนเดินเท้าไปตามทาง และการที่สัตว์พาหนะถูกต้อน หรือขับขี่ไปตามทาง
                            คำจารจรนี้ เพิ่งใช้กันแพร่หลาย เมื่อทางราชการได้ประกาศใช้ พ.ร.บ.จราจรทางบก  พ.ศ.๒๔๗๗
                            การจราจร อาจแบ่งออกได้เป็นสามทางด้วยกันคือ
                            ๑. การจราจรทางบก  ได้แก่ การที่ยวดยานทุกชนิด การเดินเท้าและสัตว์ พาหนะเคลื่อนไปตามทางบก
                            ๒. การจราจรทางน้ำ  ได้แก่ การที่ยวดยานพาหนะทางน้ำทุกชนิดเคลื่อนไปในแม่น้ำลำคลองตลอดถึงเขตน่านน้ำในทะเลด้วย
                            ๓. การจราจรทางอากาศ  ได้แก่ การที่อากาศยานทุกชนิดเคลื่อนไปทั้งในเขตของประเทศ และเขตติดต่อกับต่างประเทศตามสัญญาระหว่างประเทศ
                            เฉพาะในประเทศไทย ทางราชการได้ออกกฎหมายควบคุม และวางระเบียบเป็นข้อบังคับกำหนดวิธีการปฏิบัติให้เป็นแบบเดียวกัน เช่น พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ.๒๔๗๗  พ.ร.บ.การเดินเรือในน่านน้ำไทย พ.ศ.๒๔๕๖  พ.ร.บ.ควบคุมการจอดเรือในแม่น้ำลำคลอง พ.ศ.๒๔๗๙  พ.ร.บ.ป้องกันเรือโดนกัน พ.ศ.๒๔๙๗ และกฎกระทรวง  พ.ร.บ.การเดินอากาศ พ.ศ.๒๔๙๗ และกฎกระทรวง
                ๑๒๙๒. จริยศาสตร์  เป็นสาขาหนึ่งของวิชาปรัชญา เป็นวิชาที่ศึกษาเรื่องคุณค่าแห่งพฤติกรรม และคุณค่าของชีวิตมนุษย์ ปัญหาที่นักจริยศาสตร์พยายามที่จะให้คำตอบก็คือ ความดี ความชั่ว ผิด ถูก คืออะไร มีมาตรฐานอะไรหรือไม่ มาตรฐานนั้นเปลี่ยนแปลงได้หรือว่าแน่นอนตายตัว ความดีหรือความไม่ดี เป็นสิ่งที่ใจมนุษย์คิดขึ้นเอง หรือว่า
    เป็นลักษณะที่มีอยู่จริงในการกระทำอันนั้น             ๘/ ๔๕๘๑
                ๑๒๙๓. จริยศึกษา  คือการศึกษาที่ก่อให้เกิดความรู้ เจตคติและทักษะในเรื่องศีลธรรม และวัฒนธรรมทั้งปวง จริยศึกษาเป็นเรื่องของสังคมส่วนรวมโดยแท้จริง         ๘/ ๔๕๘๔
                ๑๒๙๔. จริยาปิฎก  เป็นคัมภีร์ที่ว่าด้วยพระจริยา (การบำเพ็ญบารมี) ของพระพุทธเจ้าในชาติที่ล่วงแล้ว รวมอยู่ในขุททกนิกายแห่งพระสุตตันตปิฎก จริยาที่ท่านรวบรวมไว้ในจริยาปิฎกนี้ จำกัดเฉพาะที่ทรงประพฤติในกัลป์สุดท้ายที่เรียกว่า ภัทรกัลป์นี้เท่านั้น ซึ่งมีอยู่ ๓๕ จริยา หรือ ๓๕ ชาติด้วยกัน ท่านจัดเป็นสามวรรคคือ
                             วรรคแรก  เรียก  อกิตติวรรค มีสิบจริยา เริ่มด้วยอกิตติจริยา คือความประพฤติครั้งเสวยพระชาติเป็นอกิตติดาบส ในวรรคนี้เลือกสรร เฉพาะชาติที่ทรงบำเพ็ญทานบารมีเป็นสำคัญ
                              วรรคที่สอง  เป็นหัตถินาควรรค มีสิบจริยา เริ่มด้วยมาตุโปสภจริยา คือความประพฤติครั้งเสวยพระชาติเป็นช้างเผือกผู้เลี้ยงมารดา
    ซึ่งตาบอด ในวรรคนี้เลือกสรรเฉพาะชาติที่ทรงบำเพ็ญศีลบารมีเป็นสำคัญ
                              วรรคที่สาม  เรียก ยุธัญชยวรรค มีสิบห้าจริยา เริ่มด้วยยุธัญชยจริยา คือความประพฤติครั้งเสวยพระชาติเป็นเจ้าชายพระนามว่า ยุธัญชย ในวรรคนี้รวบรวมชาติที่ทรงบำเพ็ญบารมีที่เหลือคือ เนกขัมบารมี ปัญญาบารมี วิริยบารมี ขันติบารมี สัจบารมี อธิษฐานบารมีเมตตาบารมี และอุเบกขาบารมี เป็นสำคัญ        ๘/ ๔๕๙๐
               ๑๒๙๕. จเร  เป็นคำไทยที่มาจากภาษาบาลี หมายถึง ผู้ดูแล หรือผู้ตรวจตรา มีความหมายไปถึงผู้ทำหน้าที่ตรวจตราดูแลการต่างๆ แทนผู้บังคับบัญชาหัวหน้าหน่วยในวงราชการหรือธุรกิจก็ได้
                            ในทางทหาร เรียกหน้าที่ตรวจราชการดังกล่าวว่า "การจเร"และเรียกผู้ปฎิบัติหน้าที่ว่า"นายทหารจเร"        ๘/ ๔๕๙๒
               ๑๒๙๖. จวด  เป็นชื่อปลา มีรูปร่างยาว แบนข้าง กินเนื้อเป็นอาหาร อาศัยอยู่ในเขตร้อนและเขตอบอุ่นตามชายทะเลที่เป็นทราย เป็นปลาค่อนข้างใหญ่ ใช้เป็นอาหารได้ดี        ๘/ ๔๖๐๑
                ๑๒๙๗. จอก  เป็นพืชที่ลอยอยู่บนผิวน้ำตามบ่อน้ำที่มีน้ำนิ่ง ๆ หรือตามคูที่มีน้ำไหล ไม่มีลำต้น มีแต่รากเป็นกลุ่มใหญ่ลอยอยู่ในน้ำหรือเกาะยึดโคลนอยู่ ใบเป็นแผ่นสีเขียวสดซ้อน ๆ กันเป็นกลุ่มชูตั้งบนผิวน้ำ ขยายพันธุ์ได้รวดเร็วโดยทอดกิ่งก้านไปตามผิวน้ำ
                            จอกแหน  เป็นพืชมีขนาดเล็กกว่าจอกมาก โดยมีใบสองใบเป็นรูปไข่เล็ก ๆ ค่อนข้างหนา ชอบลอยอยู่ในคูหรือบ่อน้ำ ตามสถานที่มีน้ำนิ่ง ๆ
                            จอกหูหนู  มีลักษณะคล้ายกับจอก ชอบขึ้นอยู่ในทุ่งนาที่มีน้ำท่วม
                            จอกหิน  ชอบอยู่ตามซอกหินที่มีน้ำตก
                            จอกบ่อวาย  ชอบขึ้นในที่ชื้นและเป็นดินทราย
                            จอกโหม หรือหญ้าหัวไม้ขีด  มีลักษณะเหมือนต้นหญ้า พบในนาข้าวและบนภูกระดึง        ๘/ ๔๖๐๓
               ๑๒๙๘. จองเปรียง เป็นชื่อพิธีอย่างหนึ่งของพราหมณ์ เป็นพิธีจุดโคมรับพระเจ้า ทำในวันเพ็ญเดือนสิบสอง
                            พิธีจองเปรียงตามหลักฐานปรากฏว่ามีทำมาแล้วตั้งแต่สมัยสุโขทัยตลอดมาจนสมัยอยุธยา และสมัยรัตนโกสินทร์ เพิ่งเลิกไปในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้า ฯ
                            ในสมัยสุโขทัย ปรากฏอยู่ในหนังสือเรื่องนางนพมาศอันเป็นหนังสือกล่าวถึงข้อความเกี่ยวด้วยมนุษยชาติ และพรรณนาถึงหน้าที่ราชการฝ่ายใน ตลอดจนแบบพิธีสิบสองเดือนซึ่งเป็นประเพณีครั้งสุโขทัย
                            ในสมัยอยุธยา มีกล่าวถึงพิธีจองเปรียงอยู่ในกฎมณเฑียรบาลว่า "เดือนสิบสอง พิธีจองเปรียงลดชุดลอยโคม" และมีกล่าวอยู่อีกแห่งหนึ่งในหนังสือคำให้การชาวกรุงเก่า ตอนว่าด้วยพระราชพิธีสิบสองราศรี
                            ในสมัยรัตนโกสินทร์หนังสือลัทธิธรรมเนียมต่าง ๆ ภาคที่ ๑๐ ตอนที่กล่าวถึงจดหมายรายการพระราชพิธีต่างๆ ครั้งรัชกาลที่ ๑ กล่าวถึงพิธีจองเปรียงไว้        ๘/ ๔๖๐๔
                ๑๒๙๙. จ้องหน่อง  เป็นชื่อเครื่องเล่นอย่างหนึ่งของไทย เป็นเครื่องดนตรีที่จัดเข้าอยู่ในประเภทดีดดึง และนับเนื่องเป็นเครื่องประโคม หรือบรรเลงอยู่ในกลุ่มดีดให้เกิดเสียง
                            ลักษณะของจ้องหน่องคล้ายกับเพลี้ยค่อนข้างมาก เป็นเครื่องเล่นตระกูลเดียวกัน วัตถุที่ทำก็เหมือนกัน รูปลักษณะก็คล้ายคลึงกันเสียงก็คล้ายกัน        ๘/ ๔๖๒๐
                ๑๓๐๐. จ้อน ดูกระรอก (ลำดับที่ ๑๑๖)        ๘/๔๖๒๔
               ๑๓๐๑. จอบ - หอย เป็นหอยที่มีเปลือกบาง และค่อนข้างเปราะ รูปร่างเหมือนซองพลู ใช้เป็นอาหารได้ปรกติอาศัยอยู่ตามชายทะเลที่เป็นโคลนหรือทราย        ๘/ ๔๖๒๔
                ๑๓๐๒. จอฟเฟร์, โจเซฟ จักส์ เซแซร์  เป็นจอมพลของกองทัพฝรั่งเศส เกิดเมื่อปี พ.ศ.๒๓๙๕  บรรพบุรุษเป็นชาวสเปน  ในสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง จอฟเฟร์ได้เป็นผู้บัญชาการทหารสูงสุด ควบคุมบังคับบัญชากองทัพฝรั่งเศส และอังกฤษในแนวรบด้านตะวันตก ได้รับยกย่องเป็นวีรบุรุษแห่งการรบที่ลุ่มแม่น้ำมาร์น มีผลให้กรุงปารีสพ้นจากการยึดครองของเยอรมัน
                           ในปี พ.ศ.๒๔๖๔ จอมพลจอฟเฟร์ได้รับแต่งตั้งให้เป็นหัวหน้าคณะทูตทหารพิเศษแห่งประเทศฝรั่งเศส เดินทางมาประเทศไทยเพื่อเจริญทางพระราชไมตรี        ๘/ ๔๖๒๕
                ๑๓๐๓. จอมเกล้า  พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้า ฯ พระมหากษัตริย์องค์ที่สี่ แห่งราชวงศ์จักรี ทรงเป็นพระราชโอรสองค์ที่สอง ในพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย และกรมสมเด็จพระศรีสุริเยนทราบรมราชินี ทรงมีพระนามเดิมว่าเจ้าฟ้ามงกุฎ เสด็จสมภพ เมื่อปี พ.ศ.๒๓๔๗ ทรงมีพระอนุชาร่วมพระชนกชนนี้คือ เจ้าฟ้าชายจุฑามณี ซึ่งต่อมาทรงดำรงพระยศเป็นเจ้าฟ้ากรมขุนอิศเรศรังสรรค์ และพระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้า ฯ ตามลำดับ
                           เมื่อยังทรงพระเยาว์ ได้ทรงศึกษาในสำนักสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (ขุน) วัดโมลีโลกยาราม ศึกษาวิธีอ่านเขียนภาษาไทย หนังสือขอม คณิตศาสตร์ ภาษาบาลี และยังได้ศึกษาวิชาคชกรรม และตำราพิชัยสงครามจากเจ้าพระยาศรีธรรมาธิราช นอกจากนี้ยังได้ศึกษาจากสำนักกรมสมเด็จพระปรมานุชิตชิโนรส
                           เมื่อพระบรมชนกนาถสวรรคต พระองค์มีพระชนมายุ ๒๐ พรรษา และทรงผนวชเป็นพระภิกษุอยู่ที่วัดราชาธิวาส และได้ทรงอยู่ในเพศบรรพชิตต่อไปอีกถึง ๒๑ ปี ได้เสด็จไปประทับวัดมหาธาตุ ในปี พ.ศ.๒๓๗๒ ได้เสด็จกลับมาครองวัดราชาธิวาส พ.ศ.๒๓๗๙ เสด็จมาครองวัดบวรนิเวศ และประทับอยู่จนลาผนวช เสด็จขึ้นครองราชย์
                           พระองค์ทรงตั้งธรรมยุติกนิกายขึ้นในปี พ.ศ.๒๓๗๒ ทรงจัดให้มีการเรียนพระปริยัติธรรม และการสอบปริยัติธรรมของพระสงฆ์ ทรงศึกษาภาษาอังกฤษ ภาษาลาติน ดาราศาสตร์ ภูมิศาสตร์ ประวัติศาสตร์ และคณิตศาสตร์ ทรงค้นพบศิลาจารึกพ่อขุนรามคำแหง และศิลาจารึกของพระมหาธรรมราชาลิไทย ทรงค้นพบพระแท่นมนังคศิลา ทรงค้นพบพระปฐมเจดีย์ ฯลฯ เป็นต้น
                           พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้า ฯ เสด็จขึ้นครองราชย์ เมื่อปี พ.ศ.๒๓๙๔ ในรัชกาลของพระองค์นับได้ว่า เป็นสมัยเริ่มของประเทศไทยสมัยใหม่ ทรงเปลี่ยนแปลงวิเทโศบายของประเทศไทย มีสัมพันธไมตรีกับอังกฤษ สหรัฐอเมริกา และเกือบทุกประเทศในยุโรป
                           ในด้านการทะนุบำรุงบ้านเมือง ทรงเริ่มสร้างถนนสำคัญในกรุงเทพ ฯ สร้างตึกแถว สถานที่ราชการ และพระราชวังตามแบบสถาปัตยกรรมตะวันตก
                           ด้านการทหารและการป้องกันประเทศ ได้เริ่มจัดให้เป็นระเบียบตามแบบยุโรป มีการจ้างชาวต่างประเทศเข้ามารับราชการเป็นที่ปรึกษาในกิจการด้านต่าง ๆ และยังรับราชการเป็นกงศุลไทยประจำประเทศต่าง ๆ ส่งราชทูตไปเจริญทางพระราชไมตรียังยุโรป
                           นอกจากนี้พระองค์ยังได้ทรงเปลี่ยนแปลงและยกเลิกประเพณีเก่า ๆ ที่ล้าสมัยและยังตั้งธรรมเนียมใหม่ขึ้นหลายอย่าง
                           พระองค์เสด็จสวรรคต เมื่อปี พ.ศ.๒๔๑๑ พระชนมายุได้ ๖๔ พรรษา        ๘/ ๔๖๒๖
                ๑๓๐๔. จอมทอง  เป็นชื่อต้นไม้อันเป็นชื่อทางภาคใต้ ทางภาคกลางเรียกว่าทองกวาว ทองธรรมชาติ        ๘/ ๔๖๓๐
                ๑๓๐๕. จอมทอง  อำเภอขึ้น จ.เชียงใหม่ ทางตะวันตกเป็นที่ราบสูง มีเทือกเขาอินทนนตั้งอยู่ เป็นที่อยู่ของพวกชาวเขา มีพวกยาง แม้วเย้า
                            ภูมิประเทศทางตะวันออกเป็นที่ราบสูง มีเทือกเขาอินทะนน ซึ่งเป็นที่อยู่ของพวกชาวเขา มีสัตว์ป่าอาศัยอยู่มาก มีพระบรมธาตุประดิษฐานไว้ที่วัดพระธาตุศรีจอมพล           ๘/ ๔๖๓๐
                ๑๓๐๖. จอมทัพ  เป็นตำแหน่งสูงสุดของกองทัพไทย โดยพระราชประเพณี พระมหากษัตริย์พระองค์เดียวเท่านั้น ที่จะทรงดำรงตำแหน่งนี้
                           คำว่าจอมทัพเท่าที่ค้นพบแล้วปรากฎว่า อยู่ในต้นรัชกาลที่หก        ๘/ ๓๖๓๒
                ๑๓๐๗. จอมบึง อำเภอขึ้น จ.ราชบุรี ที่เรียกว่าจอมบึงเพราะมีบึงใหญ่อยู่แห่งหนึ่ง กว้าง ๒ กม. ยาว ๔ กม. อ.จอมบึง เดิมเป็นกิ่งอำเภอขึ้น อ.เมืองราชบุรี ยกฐานะเป็นอำเภอเมื่อปี พ.ศ.๒๕๐๑
                           ภูมิประเทศเป็นที่ราบสูง เต็มไปด้วยป่า และเทือกเขา ที่เรียกว่า จอมบึง เพราะมีบึงใหญ่อยู่แห่งหนึ่ง กว้าง ๒ กม.ยาว ๔ กม.      ๘/ ๔๖๔๒
                ๑๓๐๘.จอมพระ  อำเภอขึ้น จ.สุรินทร์ เมื่อแรกตั้งเป็นกิ่งอำเภอ เมื่อปี พ.ศ.๒๕๐๔ ขึ้น อ.ท่าตูม ยกฐานะเป็นอำเภอ เมื่อปี พ.ศ.๒๕๐๘
                            ภูมิประเทศเป็นที่ราบสูง และป่าละเมาะ       ๘/ ๔๖๔๕
                ๑๓๐๙. จอมพล  เป็นลำดับยศชั้นสูงสุดของนายทหารสัญญาบัตรในกองทัพไทย อยู่เหนือยศพลเอกของทั้งสามเหล่าทัพ
                            ยศจอมพล มิได้ใช้กันทั่วทุกประเทศ เฉพาะที่ใช้มีญี่ปุ่น จีน ไทย เยอรมันรุสเซีย สวีเดน อังกฤษ และออสเตรเลีย
                            สำหรับประเทศไทย เริ่มใช้คำว่าจอมพลเป็นลำดับยศสูงสุดของนายทหาร ในสมัยรัชกาลพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าฯ แต่ก่อนหน้านั้น กองทัพไทยยังไม่มีประเพณีใช้ยศทหารตามอย่างสากลเพียงแต่ใช้นามบรรดาศักดิ์อย่างเดียวก็พอจะทราบได้ว่าผู้นั้นมีตำแหน่งหน้าที่อะไรมีอำนาจเพียงใด ทั้งยังพอทราบว่าผู้นั้นมีศักดินาเท่าใดได้อีกด้วยตำแหน่งและหน้าที่ของนายทหารแต่ละคนในกองทัพ เป็นเครื่องบอกอำนาจและหน้าที่อยู่ในตัวแล้ว
                            ในสมัยรัชกาลที่หนึ่ง แห่งกรุงรัตนโกสินทร์พบคำว่าจอมพลอยู่ในพระราชนิพนธ์เรื่องรามเกียรติ์ตอนหนึ่งว่า

    ซ้ำจับลูกตีด้วยคันศิลป์ ล้มดิ้นเข้ามัดแล้วสักหน้า
    ปล่อยไปมันนำทัพม มีสองกษัตราเป็นจอมพล

                            อีกตอนหนึ่งว่า
    แลเห็นจัตุรงคพยุหบาตร  เกลื่อนกลาดมาในแนวป่า
    จอมพลนั้นสี่กษัตรา  ต่างทรงรัถาอำไพ

                            ในปี พ.ศ.๒๔๓๐ ได้มีพระราชกำหนดแต่งตัวทหารราบ ได้กำหนดเครื่องแบบทหาร ตั้งแต่จอมพลไปถึงพลทหาร แต่แทนที่จะเรียกยศกลับเรียกว่า "ตำแหน่ง" ทั้งนี้เนื่องจากว่าในสมัยนั้นคำว่า "ยศ" ยังไม่เกิด และการเรียงลำดับอาวุโสนายทหารยังไม่เป็นที่เรียบร้อยแน่นอน
                            ต่อมาในปี พ.ศ.๒๔๓๑ ได้ตรา พ.ร.บ.ศักดินาทหารบกทหารเรือไว้ทุกตำแหน่ง และต่อมาในปีเดียวกันก็ได้มีพ.ร.บ.สำหรับลำดับยศนายทหารบก โดยกำหนดให้เรียงกันตามศักดินายศทหาร
                            คำว่าจอมพลปรากฎใน พ.ร.บ.กรมยุทธนา ที่ประกาศใช้เมื่อปี พ.ศ.๒๔๓๓ มีความว่า
                            "ข้อ ๑๕ ให้เลิกตำแหน่งผู้บัญชาการทั่วไปและผู้แทนตามข้อ ๑ และข้อ ๒ ใน พ.ร.บ.นั้นเสีย ให้ตั้งตำแหน่งที่จอมพล (ที่ตรงกับตำแหน่งเรียกตามภาษาอังกฤษว่าคอมมานเดออินชีพ) สำหรับบังคับบัญชาราชการใน กรมทหารบก กรมทหารเรือ และกองทหารบก กองทหารเรือได้สิทธิขาดทั้งสองกรมทั้งสองฝ่าย โดยราชประเพณีพระบาทสมเด็จพระเจ้าแผ่นดิน จะได้เสด็จดำรงตำแหน่งที่จอมพลนี่ ฯลฯ นี้"
                            ในปี พ.ศ.๒๔๕๓ ได้มีประกาศยกเลิกการใช้สายยงยศ สำหรับตำแหน่งจอมพลมีความตอนหนึ่งว่า "จอมพลเป็นยศทหารส่วนหนึ่ง หาใช่ตำแหน่งไม่"
                            ในปี พ.ศ.๒๔๗๙   ได้มี พ.ร.บ.ยศทหารได้กำหนดลำดับยศนายทหารชั้นสัญญาบัตร และนายทหารชั้นประทวนไว้เป็นการแน่นอนทั้งสามเหล่าทัพ เฉพาะชั้นยศจอมพลได้บ่งไว้ว่าเป็นยศชั้นสูงสุดของนายทหารชั้นสัญญาบัตร          ๘/ ๔๖๔๕
               ๑๓๑๐. จอนห์ บูลเป็นชื่อล้อเรียกประเทศอังกฤษ ชื่อนี้เริ่มมีมาตั้งแต่พุทธศตวรรษที่ ๒๒ แต่เพิ่งทราบกันแพร่หลายในปี พ.ศ.๒๒๕๕ ในตอนต้นพุทธศตวรรษที่ ๒๔ มีการเรียกชื่อ จอห์น บูล ล้อประเทศอังกฤษมากขึ้น ราวกลางพุทธศตวรรษที่ ๒๕ ได้มีริเริ่มเขียนภาพจอห์น บูล เป็นครั้งแรก เป็นภาพคนร่างล่ำเตี้ย สวมหมวกปีกกว้าง ใส่เสื้อหางยาวแบบราตรี ขากางเกงสอดเข้าในรองเท้าบู้ต และมีธงอังกฤษทับบนเสื้อกั๊ก            ๘/ ๔๖๗๗
                ๑๓๑๑. จะกละ - ผี  ในภาคอีสานไม่มีภาษาเรียก ผีจะกละ มีแต่ผักกะ และผีกะนั้น ก็เป็นพวกผีปอบนั่นเอง         
                           ทางภาคใต้ ผีจะกละ เป็นผีมีรูปลักษณะเหมือนแมว เป็นผีป่าพวกหมอผีเลี้ยงไว้สำหรับใช้ให้ไปทำร้ายผู้เป็นศัตรู
                            ภาคพายัพ คำว่า กะ เป็นคำไทยเดิม หรือไทยลานนา มีความหมายอย่างเดียวกับคำว่า จะกละ ซึ่งเป็นคำไทยภาคกลาง ผีกะกับผีปอบ เป็นผีชนิดเดียวกัน แต่เรียกชื่อผิดกันตามท้องถิ่น        ๘/ ๔๖๗๘
               ๑๓๑๒. จะเข้  เป็นเครื่องดนตรีไทยชนิดหนึ่ง ที่มีสายและดัดเป็นเสียง ซึ่งบรรเลงผสมอยู่ในวงเครื่องสาย และมโหรี
                            ลักษณะของจะเข้ แบ่งออกได้เป็นสองตอน ตอนหนึ่งเป็นรูปยาวตรง อีกตอนหนึ่งเป็นกระพุ้งออกไปคล้ายใบพาย สายจะเข้มีสามสาย สายเอก ซึ่งมีเสียงสูง กับสายกลางซึ่งมีเสียงทุ้ม ทำด้วยไหมฟั่นเป็นเกลียว ส่วนอีกสายหนึ่งมีเสียงต่ำ ทำด้วยลวดทองเหลืองเรียกว่า สายลวดไม้ดีดจะเข้ทำด้วยงาช้างหรือกระดูกสัตว์
                            จะเข้นี้ สันนิษฐานกันว่า เป็นเครื่องดนตรีที่ไทยเราได้แบบมาจาก มอญ         ๘/ ๔๖๘๒
               ๑๓๑๓. จะนะ อำเภอ ขึ้น จ.สงขลา มีอาณาเขตทางเหนือตกทะเลในอ่าวไทย อ.จะนะ เดิมเป็นเมืองตั้งที่บ้านในวัง ในเขต อ.นาทวี เรียกว่า วังดาโต๊ะ ซึ่งในปัจจุบันเรียกกันว่า วังโต้ ภายหลังได้ย้ายไปตั้งที่ปลักจะนะ จึงเรียกกันว่า เมืองจะนะ แล้วย้ายไปตั้งที่ ต.ป่าชิง ต่อมาย้ายไปตั้งที่ ต.จะโหนง
                            เมืองจะนะ เป็นเมืองเก่า ในสมัยกรุงธนบุรี หลวงสุวรรณคีรีสมบัติ (เหยียง) เจ้าเมืองสงขลา เห็นเมืองจะนะ อุดมด้วยแร่ดีบุก จึงให้ขุนรองราชมนตรี (ฉิม) เจ้าเมืองจะนะ คุมไพร่ส่วยดีบุกเก้าหมวดขึ้นเมืองสงขลา ต่อมาขุนรอง ฯ กับนายทิดเพ็ดได้คบคิดกันเป็นขบถมาตีค่ายเจ้าเมืองสงขลาคนใหม่ กรมพระราชวังบวรมหาสุรสิงหนาท เสด็จลงไปจัดการทางปักษ์ใต้ ให้ประหารชีวิตขุนรอง ฯ เสีย ส่วนนายทิดเพ็ดได้ทำความชอบไปตีเมืองปัตตานี ต่อมาเลยได้เป็นเจ้าเมืองจะนะ ในสมัยรัชกาลที่หนึ่ง
                            เมืองจะนะ ขึ้นเมืองสงขลาตลอดมาจนถึงปี พ.ศ.๒๓๘๑ ตนกู หมัดสะวะ หลานเจ้าพระยาไทรบุรีปะแงรัน เป็นขบถ ยกทัพมาเผาเมืองจะนะ แต่พวกไทยชาวเมืองจะนะได้ร่วมกับกองทัพเมืองสงขลา ปรายปรามพวกขบถจนสำเร็จแล้ว จึงไปตั้งเมืองจะนะขึ้นใหม่ ต่อมถูกยุบเป็นอำเภอจะนะ ตั้งที่ว่าการที่ ต.นาทวี จนถึงปี พ.ศ.๒๔๔๓ จึงย้ายไปตั้งที่ ต.บ้านนา         ๘/ ๔๖๘๖
                ๑๓๑๔. จะปิ้ง   เป็นเครื่องปิดที่ลับของเด็กหญิง ทำด้วยเงิน ทอง หรือนาก เป็นต้น เข้าใจว่าคำนี้ จะเพี้ยนมาจากคำในภาษาโปร์ตุเกส ที่แปลว่า แผ่นโลหะสำหรับปิดช่องปิดรูต่าง ๆ            ๘/ ๔๖๘๙
                ๑๓๑๕. จะละเม็ด ๑  เป็นชื่อที่ใช้เรียกไข่ของเต่าทะเล มีรูปร่างกลมเหมือนมะนาว แต่เปลือกนุ่มบุบบิบได้ แม้จะต้มแล้ว ไข่ขาวก็ไม่แข็งตัว
                            เต่าทะเล ชอบวางไข่ในทรายบนชายหาด แล้วกลบไว้เป็นอย่างดี ปล่อยทิ้งไว้ให้ฟักเป็นตัว         ๘/ ๔๖๙๐
                ๑๓๑๖. จะละเม็ด ๒  เป็นชื่อปลาชนิดหนึ่งที่มีรูปร่างป้อม ค่อนข้างสั้น ตัวแบนข้างมาก เกล็ดละเอียด ใช้เป็นอาหารได้ดี รสอร่อย และขายมีราคา
                           ปลาจะละเม็ด มีสีผิดกันสุดแต่ขาวมาก หรือดำมาก จึงได้ชื่อต่างกันคือ ปลาจะละเม็ดขาว ปลาจะละเม็ดเทา และปลาจะละเม็ดดำ        ๘/ ๔๖๙๐
                ๑๓๑๗. จักขุบาล - พระ  เป็นพระอรหันต์องค์หนึ่งในพระพุทธศาสนา ในสมัยที่พระพุทธเจ้ายังทรงพระชนม์อยู่ เป็นพระอรหันต์ตัวอย่างของการปฎิบัติสมณธรรม เพื่อบรรลุมรรคผล        ๘/ ๔๖๙๑
                ๑๓๑๘. จักจั่น  เป็นแมลงประเภทหนึ่ง เท่าที่พบในโลกมีอยู่เกือบ ๑,๐๐๐ ชนิด ส่วนมากมีอยู่ในเขตร้อน จักจั่นสามารถส่งเสียงร้องได้แปลก ๆ แตกต่างกันไปแล้วแต่ชนิดของจักจั่นเอง ปกติเวลาร้องจะจับกลุ่มกันร้อง และส่งเสียงดังเซ็งแซ่ ได้ยินกันไปได้ไกล ๆ การเรียกชื่อบางคนเรียกตามสีของลำตัว เช่น เรียกชนิดสีเขียวว่า จักจั่น เรียกชนิดสีน้ำตาลว่า เรไร          ๘/ ๔๗๐๘
                ๑๓๑๙. จักร  ๑  โดยมากหมายถึง วง หรืออาวุธ มีรูปเป็นวงกลมมีเป็นแฉก ๆ ที่หมายถึง วง เช่น พุทธจักร ธรรมจักร อาณาจักร         ๘/ ๔๗๑๐
                ๑๓๒๐. จักร  ๒  ในภาษาสันสกฤตเขียนว่า จกฺร มีคำแปลไว้มากในพจนานุกรม บางเล่มให้คำแปลไว้ถึง ๒๐ อย่างเศษ เช่นแปลว่า ล้อ วงกลม อาณาจักร ขอบฟ้า ราศีจักร ฯลฯ         ๘/ ๔๗๑๓
                ๑๓๒๑. จักร ๓  ในภาษาบาลีเขียนคำว่า จกฺก หมายถึง สมบัติ ลักษณะ ทาน รัตนะ ธรรมจักร เป็นต้น         ๘/ ๔๓๑๔
                ๑๓๒๒. จักรปาณี  ๑  เป็นราชทินนามของลูกขุน ณ ศาลหลวง มีหน้าที่พิจารณาความ หรือชำระอรรถคดี         ๘/ ๔๗๒๙
               ;๑๓๒๓. จักรปาณี ๒ - หลวง เป็นกวีในสมัยรัตนโกสินทร์ ชื่อเดิม ฤกษ์ มีชาติภูมิอยู่กรุงเก่า ได้บวชเรียนจึงได้ชื่อว่า มหาฤกษ์ ลาสิกขาแล้วได้รับราชการอยู่ในกรมอาลักษณ์ มีชื่อเสียงในทางกาพย์ กลอน
               ๑๓๒๔.จักรไปยาล เป็นคำมาจากภาษาบาลี มีคำนิยามว่า "เนื้อความควรเพื่ออันรักษาไว้  เนื่อความควรเพื่อให้พิสดาร เนื้อความอันควรเพื่อให้ความเป็นของอันบัณฑิตพึงรักษาไว้"  จักรไปยาล ไปยาลน้อย " ฯ " เป็นเครื่องหมายละรูปคำไปยาลใหญ่ " ฯลฯ" เป็นเครื่องหมายละข้อความ จักรไปยาล หมายความว่าวิธีขยายความที่ย่อไว้ให้พิสดาร
              ๑๓๒๕. จักรพรรดิ์  หมายถึง พระราชาผู้ยิ่งใหญ่กว่าพระราชาทั้งหลายคือ เป็นพระราชาองค์เดียวในโลก ที่ไม่มีพระราชองค์ใดยิ่งใหญ่กว่า และทั่วโลกก็ยอมรับเช่นนั้นด้วย ในคัมภีร์พระพุทธศาสนากล่าวว่า ในโลกธาตุหนึ่งจะมี พระเจ้าจักรพรรดิ์ได้องค์เดียว และผู้หญิงเป็นจักรพรรดิ์ไม่ได้ เป็นใหญ่ในแผ่นดิน มีมหาสมุทร ๔ เป็นขอบเขต
                              ในคัมภีร์อรรถกถา ยอมรับว่า พระเจ้าอโศกมหาราช (พ.ศ.๒๔๖ - ๓๑๒) เป็นจักรพรรดิ์ แห่งชมพูทวีป         ๘/ ๔๗๓๖
                ๑๓๒๖. จักรพาก - นก  เป็นนกในวงศ์นกเป็ดน้ำ ทางวรรณคดีนิยมว่าคู่ของนกนี้ ต้องพรากและครวญถึงกันในเวลากลางคืน        ๘/ ๔๗๔๒


    • Update : 25/5/2554
    © Copyright 2011 www.watnongmuang.com All rights reserved 999arch