|
|
สมุนไพรไทยรักษาโรคได้จริงหรือ/37
กลุ่มสมุนไพรไล่ยุงหรือฆ่าแมลง
|
ตะไคร้หอม
|
|
|
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Cymbopogon nardus Rendle
|
ชื่อสามัญ : Citronella grass
|
วงศ์ : GRAMINEAE
|
ชื่ออื่น : จะไคมะขูด ตะไครมะขูด (ภาคเหนือ) ตะไคร้แดง (นครศรีธรรมราช)
|
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ : : ไม้ล้มลุก อายุหลายปี สูง 0.75-1.2 เมตร แตกเป็นกอ เหง้าใต้ดินมีกลิ่นเฉพาะ ข้อและปล้องสั้นมาก กาบใบของตะไคร้หอมมีสีเขียวปนม่วงแดง ยาวและหนาหุ้มข้อและปล้องไว้แน่น ใบ เดี่ยวเรียงสลับ กว้าง 1-2 ซม. ยาว 70-100 ซม. แผ่นใบและขอบใบสากและคม (ตะไคร้หอมใบยาวและนิ่มกว่าตะไคร้ธรรมดาเล็กน้อย ทำให้ปลายห้อยลงปรกดินกว่า) ดอก ช่อ สีน้ำตาลแดง แทงออกจากกลางต้น ออกดอกยาก ผลเป็นผลแห้ง ไม่แตก
ส่วนที่ใช้ : ต้น ใบสด น้ำมันของต้นตะไคร้หอม
|
สรรพคุณ :
-
น้ำมันสะกัดตะไคร้หอม
- ปรุงกับน้ำหอมทาตัวป้องกันยุงกัด
- ใส่กระบอกสูบผสมกับน้ำมันอื่นฉีดไล่ยุงได้ดีมาก
-
ทั้งต้น
-ใช้ตะไคร้หอม 4-5 ต้น นำมาทั้งต้น ทุบๆ วางทิ้งไว้ในห้องมืดๆ กลิ่นน้ำมันหอมระเหยออกมา ยุง แมลงจะหนีหมด
ประโยชน์ทางยา
-
แก้ริดสีดวงในปาก (คือปากแตกระแหงเป็นแผลในปาก)
-
ปรุงเป็นยาขับลมในลำไส้ และแก้แน่นได้ด้วย
-
สตรีมีครรภ์รับประทานให้ตกลูกหรือทำลายโลหิตให้ด้วย (ทำให้แท้ง) คือมีอำนาจในทางบีบรัดมดลูกได้ดีด้วย
วิธีใช้ : นำน้ำมันหอมระเหยตะไคร้หอมทาตามตัว ไล่แมลง ยุง
สารเคมี น้ำมันหอมระเหย มี 0.4-0.9% ประกอบด้วย geraniol 57.6-61.1% Citronellal 7.7-14.2% eugenol, camphor, methyl eugenol.
|
กลุ่มสมุนไพรไล่ยุงหรือฆ่าแมลง
|
มหาหงส์
|
|
|
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Hedychium coronarium J.KÖnig
|
ชื่อสามัญ : Butterfly lily, Garland flower, Ginger lily, White ginger
|
วงศ์ : ZINGIBERACEAE
|
ชื่ออื่น : กระทายเหิน, มหาหงส์ หางหงส์ (ภาคกลาง) ตาห่าน เหินแก้ว เหินคำ (แม่ฮ่องสอน)
|
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ : หัว เหง้าสด น้ำมันหอมระเหยไม้หัวล้มลุก มีเหง้าอยู่ใต้ดิน ชูกาบใบพ้นดินเป็นเหมือนลำต้น เรียกว่าลำต้นเทียม สูง 1-2 เมตร ใบ เป็นใบเดี่ยว ออกสลับตรงข้ามกันเป็นระเบียบในแนวเดียวกัน เส้นใบขนานกัน ใบมีขนาด 4-9 x 25-60 ซม. สีเขียวสด ดอก ออกที่ปลายยอด เป็นช่อๆ ละ 3-6 ดอก แต่ละดอกมี 3 กลีบ ด้านบน 1 กลีบ เป็นกลีบใหญ่ ปลายกลีบเว้าลงเป็นรูปตัววี ด้านล่างเป็นกลีบเล็ก 2 กลีบ เส้นผ่าศูนย์กลางดอกประมาณ 10 ซม. มีเกสรตัวผู้ที่สมบูรณ์ 1 อัน อีก 3 อันไม่สมบูรณ์ กลีบดอกสีขาว หรือขาวแกมเหลือง ดอกจะทยอยบานจากด้านล่างขึ้นด้านบน ผล รูปทรงกระบอก สีส้มแดง เมล็ด สีน้ำตาลแดง
ส่วนที่ใช้ :
|
สรรพคุณ :
วิธีและปริมาณที่ใช้
-
เป็นยาแก้กษัย บำรุงกำลัง บำรุงไต
ใช้หัว ตากแห้ง บดละเอียด ผสมน้ำผึ้งปั้นเป็นลูกกลอนรับประทาน
-
มีฤทธิ์ค่าแมลงได้
เหง้าสดจำนวนพอควร นำมาทุบๆ แล้วสกัดให้ได้น้ำมันหอมระเหยออกมา เรียกน้ำมันมหาหงส์ ใช้ฆ่าแมลงได้
|
กลุ่มสมุนไพรไล่ยุงหรือฆ่าแมลง
|
ยูคาลิป
|
|
|
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Eucalyptus globulus Labill. (Eucalyptus citriodora Hook.)
|
ชื่อสามัญ : Eucalyptus
|
วงศ์ : MYRTACEAE
|
ชื่ออื่น : โกฐจุฬารส น้ำมันเขียว มันเขียว
|
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ : ใบสด น้ำมันที่กลั่นได้จากใบสดไม้ยืนต้น สูงประมาณ 10-25 เมตร เรือนยอดเป็นพุ่มหนาทึบ ค่อนข้างกลม ลำต้นเปลาตรง เปลือก เปลือกหุ้มลำต้น มีลักษณะเรียบเป็นมัน มีสีเทาสลับสีขาวและน้ำตาลแดงเป็นบางแห่ง เปลือกนอกจะแตกร่อนเป็นแผ่นหลุดออกจากผิวของลำต้น
เมื่อแห้งจะลอกออกได้ง่ายในขณะสด ใบ ใบเป็นใบเดี่ยว (simple leaf) เรียงสลับ เป็นรูปหอกยาว 3-12 นิ้ว กว้าง 0.5-0.8 นิ้ว ก้านใบยาว ใบสีเขียวอ่อนหม่นๆ ทั้งสองด้าน ใบห้อยลง เส้นใบมองเห็นได้ชัด ดอก ดอกออกเป็นช่อ ตามข้อต่อระหว่างกิ่งกับใบ มีก้านดอกเรียวยาว มีก้านย่อยแยกไปอีก ออกดอกเกือบตลอดปี ผล ผลมีลักษณะครึ่งวงกลมหรือรูปถ้วย ผิวนอกแข็ง
เมื่ออ่อนจะมีสีเขียว และจะเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลเมื่อแก่ เมื่อผลแก่ปลายผลจะแยกออก
ส่วนที่ใช้ :
|
สรรพคุณ :
วิธีและปริมาณที่ใช้
ข้อควรระวัง : อย่าใช้เกินขนาด จะระคายเคืองต่อทางเดินอาหาร เมื่อใช้เป็นยาภายใน
|
กลุ่มสมุนไพรไล่ยุงหรือฆ่าแมลง
|
หางไหลแดง
|
|
|
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Derris elliptica (Roxb.) Benth.
|
ชื่อสามัญ : Tuba root, Derris
|
วงศ์ : LEGUMINOSAE - PAPILIONOIDEAE
|
ชื่ออื่น : กะลำเพาะ (เพชรบุรี) เครือไหลน้ำ, ไหลน้ำ (ภาคเหนือ) โพตะโกส้า (กะเหรี่ยง-แม่ฮ่องสอน) , อวดน้ำ (สุราษฎร์ธานี)
|
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ : ศาสตร์ : ไม้เถาเนื้อแข็ง ใบประกอบแบบขนนกปลายคี่ เรียงสลับ ยาว 22.5-37.5 ซม. ใบย่อย 9-13 ใบ รูปขอบขนานถึงรูปหอกแกมขอบขนาน กว้าง 2.5-3.5 ซม. ยาว 7.5-15 ซม. ปลายใบเป็นติ่งแหลม หลังใบเกลี้ยงท้องใบมีขน ดอกช่อกระจะ ยาว 22.5-30 ซม. มีขนสั้นหนานุ่ม กลีบเลี้ยงยาวประมาณ 6 มม. เชื่อมติดกันเป็นรูประฆังมีขน กลีบดอกรูปดอกถั่ว สีชมพู หายากที่เป็นสีขาว ยาวประมาณ 1.5 ซม. กลีบล่างรูปโล่ เกสรตัวผู้เชื่อมติดกันเป็นมัดเดียว รังไข่มีขนอุย ฝักรุปขอบขนานถึงรูปใบหอก กว้าง 2 ซม. ยาว 3.5-8.5 ซม. ตะเข็บบนแผ่เป็นปีก มีเมล็ด 1-4 เมล็ด
ส่วนที่ใช้ : เถาสด แห้ง หรือราก ต้น
|
สรรพคุณ :
วิธีและปริมาณที่ใช้
-
รักษาเหา หิด
ใช้เถาสดยาว 2-3 นิ้วฟุต ตำให้ละเอียดผสมน้ำมันพืช ชะโลมบนเส้นผมทิ้งไว้ 1 ชั่วโมง จึงสระให้สะอาด ควรสระติดต่อกัน 2-3 วัน ให้สะอาดจริงๆ
-
ยาฆ่าแมลง เบื่อปลา
ใช้เถาแก่สด แห้ง หรือจะใช้รากก็ได้ (จำนวนที่ใช้ขึ้นอยู่กับจำนวนพื้นที่และแมลง) ทุบให้แตกมากๆ แช่ลงในน้ำ น้ำจะขาวเช่นน้ำซาวข้าว ใช้น้ำนั้น
- ฆ่าแมลง (ซึ่งปลอดภัยต่อผู้ใช้)
- เบื่อปลา (ปลาที่เบื่อโดยวิธีนี้ใช้เป็นอาหารได้)
หมายเหตุ : เนื่องจากสารพิษที่อยู่ในหางไหลนั้น ไม่เป็นพิษต่อสัตว์เลือดอุ่นเช่นคน จึงใช้ได้ดี ทั้งสารนี้สลายตัวได้ง่าย ไม่ติดค้างอยู่บนพืชผัก เหมือนสารสังเคราะห์พวก ดี.ดี.ที.
-
ใช้ผสมกับยาอื่นๆ เป็นยาขับระดูสตรี
ทางจังหวัดสุโขทัย ใช้เถาหางไหลแดงตากแห้ง หั่นเป็นชิ้นเล็กๆ ดองสุรารับประทานเป็นยาขับและบำรุงโลหิต เป็นยาถ่ายเส้นเอ็น ถ่ายลม ถ่ายเสมหะและโลหิต
|
กลุ่มสมุนไพรไล่ยุงหรือฆ่าแมลง
|
หางไหลขาว
|
|
|
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Derris malaccensis Prain
|
วงศ์ : LEGUMINOSAE - PAPILIONOIDEAE
|
ชื่ออื่น : ยานาเละ (มลายู-นราธิวาส)
|
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ : เป็นไม้เถาขนาดกลางถึงใหญ่ ใบประกอบรูปหอก ปลายกว้างแหลม โคนสอบแคบใบย่อยราว 7 ใบ ใบอ่อนสีเหลืองอ่อนออกเขียว ใบแก่สีเขียว ดอกเล็กสีชมพูเป็นช่อฝักแบนไม่ยาวนัก มียางขาวขัน พบตามรินน้ำลำธาร ป่าดงดิบเขา ป่าเบญจพรรณทั่วไป ในเขตวนอุทยานถ้ำเพชร ขยายพันธุ์ด้วยเมล็ด
ส่วนที่ใช้ : ราก
|
สรรพคุณ :
วิธีใช้ : ใช้รากทุบๆ ผสมน้ำ พอขุ่นขาว รดผัก ตามสวนผัก ฆ่าแมลงและตัวหนอน
|
|
Update : 24/5/2554
|
|