คนร้ายกลัวความผิดทิ้งพระพิฆเนศเก่าแก่ที่ขโมยจากวัดสำปะสิวไว้ในพงหญ้าริมถนนสุพรรณบุรี-ป่าโมก จ.สุพรรณบุรี ชาวบ้านทราบข่าวดีใจ
จากกรณีที่คนร้ายโจรกรรมพระพิฆเนศ ขนาดหน้าตักกว้าง 47 ซม.สูง 70 ซม.เนื้อนวโลหะหนักประมาณ 30 กก. อายุหลายสิบปี ปางหมอยา มีลักษณพิเศษ คือมีหม้อยาอยู่บนตัก ซึ่งมีองค์เดียวใน จ.สุพรรณบุรี ที่ประดิษฐานบนโต๊ะหอสวดมนต์ วัดสำปะซิว หมู่ 2 ต.สนามชัย อ.เมืองสุพรรณบุรี
ล่าสุด พ.ต.อ.ชัชชรินทร์ สว่างวงศ์ รอง ผบก.จ.สุพรรณบุรี รับแจ้งจากสายตรวจตำบลโคกโคเฒ่า ว่าพบพระพิเนศลักษณะเหมือกับองค์ที่หายไป ถูกทิ้งไว้ในพงหญ้าริมถนนสายสุพรรณบุรี – ป่าโมก หมู่ 2 ต.โคกโคเฒ่า อ.เมืองสุพรรณบุรี จึงได้ประสานพระมหาอนันต์ กุสลาลังกาโร เจ้าอาวาสวัดสำปะซิว มาตรวจสอบ ซึ่งเจ้าอาวาสได้มาตรวจสอบพร้อมกับได้ยืนยันว่าเป็นพระพิฆเนศของวัดสำปะซิวที่หายไป
อย่างไรก็ตาม พ.ต.อ.ชัชชรินทร์ เปิดเผยว่าหลังพระพิฆเนศได้ถูกคนร้ายโจรกรรมไป ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ระดมกำลังตรวจเข้ม โดยสั่งการให้ทุกพื้นที่ตั้งจุดตรวจอย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็นการกดดันคนร้าย และยังเป็นการปราบปรามอาชญากรรมในพื้นที่ในช่วงที่จะมีการเลือกตั้ง ส.ส.ด้วย ซึ่งคาวว่าคนร้ายคงจะไม่สามารถเคลื่อนย้ายพระพิฆเนศได้ เนื่องจากถูกตำรวจกดดันอย่างหนัก ประกอบกับมีสื่อมวลชนนำเสนอข่าวอย่างต่อเนื่อง จึงได้นำพระพิฆเนศมาทิ้งไว้ในพงหญ้าริมถนนดังกล่าว ส่วนคนร้ายมีภาพวงจรปิดที่วัดบันทึกไว้ได้ ล่าสุดพอทราบว่าคนร้ายเป็นใครแล้ว อยู่ระหว่างการรวบรวบพยาน และหลักฐาน เพื่อจะได้ติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดีต่อไป
ขณะที่ชาวบ้านที่ทราบข่าวว่าพระพิฆเนศที่ถูกคนร้ายโจรกรรมไปนั้นได้คืนกลับมาแล้ว ทุกคนต่างดีใจ และสาปแช่งคนร้าย และเชื่อว่าคนร้ายที่ครอบครองพระพิฆเนศคงจะกลัวความผิดจึงนำมาทิ้งไว้ และขอขอบคุณทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจและสื่อมวลชน และทุกหน่วยงาน ที่ช่วยติดตามจนได้พระพิฆเนศกลับคืนมาให้ประชาชนได้กราบไหว้